"เจษ เจษฎ์พิพัฒ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความสามารถที่มาพร้อมกับความฉลาด เกรด 3.91
Thailand Web Stat

"เจษ เจษฎ์พิพัฒ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความสามารถที่มาพร้อมกับความฉลาด เกรด 3.91

"เจษ เจษฎ์พิพัฒ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความสามารถที่มาพร้อมกับความฉลาด เกรด 3.91
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ ชื่อนี้หลายๆ คนก็คงต้องรู้จักกันอยู่แล้วสำหรับหนุ่มหุ่นเฟิร์มมากความสามารถในการแสดง ที่ทำให้หลายๆ คนหลงรักเขาจากการแสดงที่เข้าถึงบทบาทและดูเป็นธรรมชาติในทุกๆ บทที่เขาได้รับ แต่สิ่งที่เราคิดว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้นั่นก็คือ นอกจากเรื่องการแสดงแล้ว หนุ่มคนนี้เรียกว่าเป็นหัวกะทิในเรื่องการเรียนเลยทีเดียวนะ เขาจบเกรดเฉลี่ยปริญญาโทถึง 3.91 เลยทีเดียว

เจษ เจษพิพัฒน์

โดยในครั้งนี้ Sanook! Campus เราก็ได้มีโอกาสที่ได้เจอกับ เจษ เจษฎ์พิพัฒ กันแบบส่วนตัวแบบพิเศษสุดๆ เราจึงไม่พลาดที่จะพูดคุยและดึงความเป็นตัวตนของเขาในมุมที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยเห็นหรือสัมผัสมาให้ได้รู้จักเขากันมากขึ้น

เจษ เจษพิพัฒน์

"เจษ เจษฎ์พิพัฒ " เปิดตัวตนหนุ่มมากความสามารถที่มาพร้อมกับความฉลาด เกรด 3.91

ถ้าวัดจากตัวเรา ผู้ชายที่ชื่อ เจษฎ์พิพัฒ คนนี้เขาเป็นใคร ?

ลักษณะส่วนตัวของผม เอ่อ...ผมคิดว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะเป็นผู้ชาย แบบผู้ชายมากๆ นิสัยก็คือแมนๆ ตรงๆ และก็เป็นคนที่ชอบใช้ความคิด อารมณ์ประมาณว่าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง

เพราะอะไรเจษถึงเลือกเรียน คณะบริหาร เกี่ยวกับเรื่องการเงิน ?

อันดับแรกเลยก็คือ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างชอบวิชาคณิตศาสตร์ และวิชาภาษาอังกฤษ คือชอบมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเรียนไปในทิศทางที่ผมคิดว่า ผมสามารถนำความชอบของผมไปต่อยอดได้ ซึ่งที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ เขาแบ่งคณะบริหารออกเป็น 5 ภาค และตัวผมมองว่าเงินมันคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าหากเราใช้เงินไม่เป็น หรือเราไม่รู้ว่าควรที่จะลงทุนอย่างไร มันก็คงจะไม่เวิร์ก ดังนั้นในเมื่อผมทำงานในวงการนี้ ผมก็อยากที่จะจัดการกับเงินที่ผมหามาได้ให้มันเหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อความอุ่นใจของตัวเองครับ

เจษ เจษพิพัฒน์

ด้วยที่คุณพ่อของเราเป็นวิศวกร มันทำให้เราอยากเรียนวิศวะตามท่านไหม ?

จริงๆ ก็ไม่เลยนะครับ เพราะผมไม่ได้เรียนสายวิทย์มาตั้งแต่แรกแล้ว ถึงผมจะชอบวิชาคณิตศาสตร์ก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้ชอบวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยเหมือนกัน มันก็เลยทำให้ผมไม่ได้มองไปถึงการเรียนวิศวะ หรือการเรียนหมอ แต่ผมจะมาสายการบริหารจัดการ หรือการคำนวณมากกว่า

เราจบปริญญาโทมาด้วยเกรดเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูง ตัวเราเองมีเคล็ดลับอะไรไหม ?

ถ้าเอาตรงๆ เลยนะ ผมไม่ได้เป็นหนอนหนังสือเลยครับ แต่ผมเน้นเอาประสบการณ์การทำงานของผมเข้าไปปรับใช้มากกว่า ซึ่งฟังแล้วมันอาจจะดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อผมลองเอามาเปรียบเทียบระหว่างปริญญาตรี และปริญญาโทที่ผมเรียนจบมา ผมเห็นความแตกต่างเยอะมากครับ เนื่องจากช่วงก่อนที่ผมจะเริ่มเรียนปริญญาโท ผมได้พักการเรียน และทุ่มเทให้กับการทำงานประมาณอยู่ 3-4 ปี ซึ่งเมื่อผมได้เริ่มกลับไปเรียนปริญญาโท ผมก็รู้สึกว่าการที่ผมได้เจอกับคน ได้ทำงาน ได้ตีความบท ได้ฝึกการท่องจำผ่านการอ่านบท มันทำให้เกิดการพัฒนาทักษะหลายๆ ด้านขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว ซึ่งมันทำให้การเรียนปริญญาโทของผมนั้น ผมอ่านหนังสือน้อยกว่าการเรียนปริญญาตรีเยอะมาก เหมือนผมไม่ได้เครียดกับการเรียนปริญญาโทมากเท่าที่เคยคิดเอาไว้ในตอนแรก

เจษ เจษพิพัฒน์

ถ้าจะพูดถึงมุมโปรดในมหาวิทยาลัยหรือในคณะ มีมุมโปรดอยู่ตรงไหนบ้าง ?

เอ่อ...ผมจะชอบอยู่ด้านล่างตึกครับ เพราะด้านล่างมันจะเป็นลานกว้าง เป็นลานสำหรับให้นิสิตที่มารอเรียน หรือเรียนเสร็จแล้วได้ลงมานั่งพัก มันเป็นจุดที่ผมสามารถเจอกับเพื่อนทุกๆ ภาควิชาในคณะบริหารได้หมดเลย แถมบริเวณนั้นลมเย็นมากด้วย คือมันจะมีลมพัดโกรกทุกวัน ไม่ว่าจะหน้าร้อน หรือหน้าอะไรก็แล้วแต่ เราสามารถนั่งตรงนั้นได้ตลอดเลย

ส่วนสถานที่ที่มีความหมายกับผมในคณะ จริงๆ ก็น่าจะเป็นบริเวณชั้น 9 นะครับ เพราะตรงนั้นมันจะเป็นส่วนของภาควิชาการเงิน ซึ่งชั้นนั้นเป็นชั้นที่ช่วยผมในเรื่องของการเรียนเยอะมาก ทั้งตอนที่ผมไปสมัครเรียนปริญญาโท หรือตอนที่ผมเร่งทำธีสิสในช่วงปริญญาตรี คือมันเป็นสถานที่ที่ผมต้องขึ้นไปหาอาจารย์ที่นั่น ขึ้นไปขอความรู้ที่นั่นจากอาจารย์เยอะมากครับ ดังนั้นมันก็น่าจะเป็นสถานที่ที่มีความหมายที่สุดสำหรับผมครับ

วีรกรรมสุดแสบของเราในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยพอจะมีไหม ?

ผมเคยทะเลาะกับอาจารย์ท่านหนึ่งครับ แต่ว่าตอนนี้เราดีกันแล้วนะ ผมจำได้ว่าวันนั้นน่าจะเป็นวันที่ผมมาสาย อาจารย์ท่านก็เลยล็อกห้อง และฝากบอกกับเพื่อนมาว่าให้ผมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่มาสายด้วยกันไปดรอปเรียนซะ ตอนนั้นผมก็เลยรู้สึกโกรธมาก โกรธว่าทำไมอาจารย์ถึงทำแบบนั้น แต่สุดท้ายผมก็เข้าใจว่าสิ่งที่อาจารย์ท่านพยายามบอกก็คือ ท่านอยากให้บทเรียนกับผม เหมือนท่านมีความหวังดีในแบบของท่านที่อยากจะให้ผมคิดได้ครับ

เจษ เจษพิพัฒน์

ย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2009 เห็นว่าเราเองก็เคยได้รางวัลหนุ่มป๊อป DA'VANCE ด้วย มันคือรางวัลอะไร ?

ดาว้องก์เป็นโรงเรียนสอนภาษาไทยและสังคมครับ ซึ่งอาจารย์ปิงท่านได้มาชวนให้ผมไปสมัครหนุ่มป๊อปอันนี้นี่แหละ เพราะจริงๆ ตอนนั้นผมเองก็เข้ามาอยู่ในวงการได้ประมาณหนึ่งแล้ว ผ่านการแสดงในภาพยนตร์ของ พี่พจน์ อานนท์ จากนั้นพออาจารย์ชวนเข้ามาปุ๊บ ผมก็เริ่มอยากลองที่จะท้าทายตัวเอง ผมได้ประกวดร้องเพลง อัดวีทีอาร์ต่างๆ และก็ไปเดินแบบ จนสุดท้ายก็ได้รางวัลมาครับ

สิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นเจษคืออะไร ?

ผมคิดว่าผมเป็นคนที่เอาตัวรอดเก่งนะ ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนเก่งมาก ทั้งในเรื่องการเรียน หรือการทำงาน แต่ผมเป็นคนที่รู้ว่าผมต้องทำแค่ไหนเพื่อให้ผมอยู่ได้ในจุดจุดนั้น และจากนั้นผมจึงค่อยมาคิดว่าผมจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้ผมเก่งขึ้น หรือผมจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ผมกลายเป็นคนที่เก่งที่สุด แต่เบื้องต้นแล้วที่ผ่านมาผมไม่เคยไม่รอดจากเหตุการณ์อะไรเลย อย่างเรื่องการเรียนผมก็ไม่เคยดรอปเรียน เหมือนผมค่อนข้างที่จะรู้ว่าผมมีจุดดีและจุดด้อยตรงไหน รวมถึงผมสามารถแก้ไขจุดไหนได้บ้าง ก็น่าจะประมาณนี้นะครับ

เจษ เจษพิพัฒน์

สำหรับความฝันที่เจษอยากจะทำให้สำเร็จ ?

ผมก็อยากจะได้รางวัลจากการแสดงสักครั้งหนึ่งนะครับ เพราะมันก็คงจะช่วยการันตีให้กับผมได้ว่า มีคนยอมรับผมในสายอาชีพที่ผมทำอยู่ รวมถึงมันก็น่าจะเป็นกำลังใจอย่างดีให้ผมในการทำงานต่อไป มันคงทำให้ผมได้รู้ว่าที่ผ่านมาผมทำงานนี้เพื่ออะไร ถ้าหากเป็นไปได้มันก็น่าจะดีมากๆ ครับ

หากเรามีพลังวิเศษสักหนึ่งอย่าง เราอยากจะมีพลังอะไร ?

มันแล้วแต่ช่วงนะครับ แต่ถ้าเป็นช่วงวัยเรียนผมอยากมี 'ขนมปังช่วยจำของโดราเอมอน เพราะสมัยเรียนผมเครียดมากครับ เครียดกับการอ่านหนังสือมากจริงๆ แทบจะทุกวิชาเลย

เจษ เจษพิพัฒน์

ความสามารถพิเศษของเจษที่หลายคนยังไม่เคยรู้ ?

เขาน่าจะรู้กันแหละ เพราะความสามารถของผมก็มีไม่กี่อย่าง อย่างเช่นการเล่นดนตรี หรือการเตะฟุตบอล แต่หลักๆ น่าจะเป็นการเล่นดนตรีมากกว่า แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้นั่นก็คือ จริงๆ แล้วผมเริ่มจากการตีกลองชุดมาก่อน ซึ่งกลองชุดยังเป็นเครื่องดนตรีที่ผมมากถนัดที่สุดอีกด้วยครับ

วิธีจีบสาวสไตล์เจษล่ะเป็นอย่างไร ?

หลักๆ ก็น่าจะเป็นการดูแลเทคแคร์นะครับ แต่ที่ชัดเจนที่สุดก็คงจะต้องเป็นการแสดงความจริงใจ และความเป็นตัวเองทำให้เขาได้เห็นก่อนว่าเราเป็นคนอย่างไร จากนั้นก็พยายามดูครับว่าคนที่เราชอบ เขาชอบทำอะไร และเราจะสามารถที่จะทำอะไรให้กับเขาได้บ้าง

เจษ เจษพิพัฒน์

หากสามารถย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองตอนอายุ 15 ปี เราอยากจะบอกอะไร ?

ผมก็คงอยากจะเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นมากกว่านั้น อยากเป็นเหมือนกับในตอนนี้ที่ผมเป็น เพราะถ้าย้อนกลับไปได้จริงๆ และผมต้องเป็นเพื่อนกับคนที่ชื่อเจษ ผมอาจจะไม่ชอบเขาก็ได้ เนื่องจากในวัยนั้นผมมีความคิดที่เป็นตัวของตัวเองสูงมาก มากจนแทบไม่ค่อยจะฟังสิ่งที่คนอื่นพูดเลย ผมจะคิดแค่ว่าสิ่งที่ผมพูด หรือสิ่งที่ผมทำ มันคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งในตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันดีนะที่ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมทำ แต่จริงๆ แล้วมันก็อาจจะทำให้ผมพลาดโอกาสในการเรียนรู้บางอย่างไปก็ได้

คำแนะนำที่ดีที่สุดที่เราเคยได้รับ ?

ก็น่าจะเป็นคำแนะนำจากผู้บริหารช่องครับ พี่บอย พี่ป้อน อย่างเวลาที่ท่านพูดกับผมในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สอนเด็ก ซึ่งท่านได้บอกกับผมเป็นภาษาอังกฤษว่า 'Live Your Life' ก็คือ ใช้ชีวิตแบบใช้ชีวิต ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่เป็น และเรียนรู้กับสิ่งที่เราเจอ เก็บเกี่ยวทุกๆ อย่างตั้งแต่วินาทีแรกที่เราตื่น เพราะสิ่งเหล่านั้นมันจะทำให้ชีวิตของเรามีความหมายมากขึ้น และมีค่ามากขึ้นครับ

เจษ เจษพิพัฒน์

ภูมิใจกับสิ่งไหนที่สุดตั้งแต่วันแรกที่เราเข้าวงการ ?

ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้นมั้งครับ ผมคิดถึงคนอื่นมากขึ้น คิดถึงครอบครัวมากขึ้น ผมคิดว่าถ้าผมไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้ ผมอาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้ เพราะการที่ผมเข้ามาตรงนี้มันทำให้ผมได้เจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา เจอกับคนหลายๆ คนในชีวิตที่ช่วยเปลี่ยนแปลงผม มันก็เลยทำให้ผมพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อที่คนอื่นได้รู้สึกดีกับผมมากขึ้น และผมก็จะได้รู้สึกดีขึ้นกับตัวเองเช่นกัน

บอกได้เลยว่าตัวตนของหนุ่มคนนี้มีมิติมากมายเลยทีเดียว ถ้าเราได้ใกล้ชิดและรู้จักกับหนุ่มคนนี้แล้ว บอกได้เลยว่า เขาเป็นผู้ชายที่มีเป้าหมายในชีวิต และเอาจริงเอาจังกับชีวิตของตัวเองมากๆ เราเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ได้อ่านและทำความรู้จักกับ เจษ เจษพิพัฒน์ คนนี้แล้ว จะต้องหลงรักในตัวตนที่แท้จริงของเขาเหมือนกับ Sanook! Campus แน่นอน

อัลบั้มภาพ 55 ภาพ

อัลบั้มภาพ 55 ภาพ ของ "เจษ เจษฎ์พิพัฒ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความสามารถที่มาพร้อมกับความฉลาด เกรด 3.91

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้