4 สัญญาณอันตราย "โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้" ของลูกน้อย

4 สัญญาณอันตราย "โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้" ของลูกน้อย

4 สัญญาณอันตราย "โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้" ของลูกน้อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากลูกน้อยเป็นหวัดเรื้อรัง จามบ่อย อาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

นายแพทย์ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคแพ้อากาศมีแนวโน้มมากขึ้น ดังนั้นควรสังเกตสุขภาพของเด็กว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่

  1. เด็กมีอาการเป็นหวัดบ่อย ๆ เรื้อรังเป็นเวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

  2. มีอาการจามบ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงเช้า

  3. คันตาเป็น ๆ หาย ๆ

  4. คัดจมูก หายใจไม่สะดวก ร่วมกับมีน้ำมูกใส ๆ ทุกวัน

หากเด็กเล็กมีอาการดังกล่าว ให้สงสัยว่าน่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ของจมูก โดยเฉพาะหากมีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์เพื่อแยกจากโรคไซนัสอักเสบ โรคติดเชื้ออื่นๆ ในโพรงจมูก หรือภาวะที่มีสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก ซึ่งอาจพบในเด็กได้บ่อย


การดูแลเด็กที่มีภาวะโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลเด็กที่มีภาวะโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ควรปฏิบัติดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ และสิ่งที่กระตุ้นถือเป็นหลักสำคัญที่สุดในการรักษา ผู้ปกครองจึงต้องสังเกตสิ่งที่กระตุ้นให้เด็กเกิดอาการด้วย สิ่งที่พบว่าเด็กมักจะแพ้ คือ ตัวไรฝุ่นในบ้าน ในห้องนอน หรือตุ๊กตาที่ใช้นุ่นหรือสำลี ฝุ่นบ้าน ซากแมลง กลิ่นของสารเคมี น้ำหอม ควันบุหรี่

  2. ควรจัดห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นของเด็กให้สะอาด ห้องนอนของเด็กไม่ควรใช้พรมปูพื้นหรือมีข้าวของรกรุงรังซึ่งอาจทำให้กักฝุ่นได้ ควรทำความสะอาดด้วยการถูน้ำทุกวัน การกำจัดตัวไรฝุ่นโดยการซักผ้าปูเตียง ปลอกหมอนด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 15 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งสามารถช่วยลดการสัมผัสต่อสารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่นได้ดี

  3. หลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้มีอาการ น้ำมูกไหล จาม ตาแดง ไอ หรือหอบหืด

  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

  5. ระมัดระวังการติดเชื้อหวัดจากคนใกล้ชิดในบ้านหรือที่โรงเรียน

  6. ผู้ปกครองควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์โดยเคร่งครัด ไม่ควรงดใช้ยาเอง เนื่องจากยาบางชนิดอาจต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเห็นผลในการรักษา

  7. พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook