นักโภชนาการแนะวิธีรับมือ ปัญหา "กินจุกจิก" จาก "ความเครียด"
ความเครียดนั้นเป็นปัญหาที่มักพบได้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่ภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนว่าจะติดหรือไม่ติดโควิด-19 และแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังจะต้องเอาอีกนานเท่าไหร่ รวมทั้งการถูกจำกัดพื้นที่ให้ทำงานจากที่บ้านด้วยนั้น ก็ดูจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างความเครียดเพิ่มขึ้นได้
มีคนบางส่วนที่ตอบรับความเครียดด้วยการกิน ขณะที่บางคนความเครียดทำให้ไม่อยากทานอะไรเลย แต่สำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะหยิบฉวยอาหารเข้าปากเพื่อรับมือกับความเครียดนั้น นักโภชนาการได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
- เราควรพยายามรู้ตัวและควบคุมสาเหตุที่จะกระตุ้นให้เกิดความเครียด ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นการติดตามข่าว หรือการอ่านเรื่องราวที่มีการแชร์ออนไลน์มากเกินไป แต่หากเราไม่สามารถเลี่ยงตัวกระตุ้นความเครียดที่ว่านี้ได้แล้ว คุณคาโรลีน โอนีล นักโภชนาการผู้หนึ่ง แนะว่าเราควรทำบันทึกรายการอาหารที่หยิบเข้าปากในแต่ละวัน เพื่อช่วยให้เห็นภาพว่าเรากินอะไร ที่ไหน และเป็นจำนวนเท่าใด
- ถ้าเราอดกินจุกจิกหรือละเว้นของขบเคี้ยวไม่ได้ นักโภชนาการแนะให้เตรียมของกินเล่นในปริมาณที่เหมาะสมไปล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอตัวกินเพลินจนหมดทั้งถุงใหญ่นั่นเอง
- จัดบริเวณครัวและตู้เย็นเสียใหม่ โดยเอาของกินที่ล่อตาล่อใจไปให้พ้นสายตา และเอาของดีที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ วางไว้ในบริเวณที่เห็นหรือหยิบฉวยได้ง่ายในตู้เย็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์เวลาที่เกิดแรงกระตุ้นให้ต้องหาอะไรกินลดความเครียด
- ควรหาเวลาหยุดพักเพื่อจิบชาสมุนไพร หรือกาแฟใส่โกโก้บ้าง เพื่อช่วยบริหารจัดการความรู้สึกของตัวเองไม่ให้สะสมความเครียดมากจนเบรคไม่อยู่
แต่สุดท้ายหากทนไม่ไหวจริงๆ และต้องลดความเครียดด้วยการสนองความต้องการของปากกับลิ้นแล้ว นักโภชนาการแนะให้พยายามเลือกของว่างลดความเครียดที่มีประโยชน์ เช่น ช็อกโกแลตดำที่อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ เป็นต้น
โดยข้อคิดและเคล็ดลับสำหรับการรับมือกับความเครียดแบบไม่ตามใจปาก ซึ่งทั้งเพศชายและเพศหญิงที่ทำงานจากบ้านอาจนำไปใช้ได้ ก็คือ นอกจากการสร้างระยะห่างทางสังคม ถ้าจะให้ดีแล้วควรต้องสร้างระยะห่างที่พอดีจากครัวและตู้เย็นด้วยเช่นกัน