วิธีแก้ปัญหา "หน้าท้องหย่อนคล้อย"
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร เพศอะไร ทุกคนล้วนอยากเป็นเจ้าของหน้าท้องเรียบเนียนสวยงาม อาจจะมีกล้ามมากกล้ามน้อยแล้วแต่ความชอบของทุกคน แต่นอกจากหน้าท้องเรียบสวยจะทำให้คุณมีความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้ามากขึ้นแล้ว ยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอันตรายอย่างโรคอ้วน เบาหวาน ไขมันพอกตับ หรือแม้กระทั่งโรคหัวใจได้ด้วย
ดังนั้น Sanook Health มีเคล็ดลับดีๆ ในการลดปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียนสวยงาม จาก รศ.นพ. อภิชัย อังสพัทธ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาฝากกัน
คนทั่วไปมักคิดว่าการดูดไขมันจะช่วยลดน้ำหนัก แต่ที่ถูกต้องในการลดน้ำหนักคือ การลดอาหารหวาน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยกเว้นในบางกรณีที่แพทย์วินิจฉัยสามารถผ่าตัด หรือดูดไขมันในบริเวณหน้าท้องได้
สาเหตุหน้าท้องหย่อนคล้อย
- การตั้งครรภ์และมีบุตร โดยเฉพาะสตรีที่มีบุตรหลายคน
- ผู้ที่เคยอ้วนมาก และเคยลดน้ำหนักลงมามาก
- ผู้ที่ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร เพื่อลดความอ้วน
แนวทางในการรักษาหน้าท้องหย่อนคล้อย
- การดูดไขมัน
เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันมาก แต่มีผิวหนังเกินไม่มาก การดูดไขมันในปัจจุบันมีหลายเทคนิค และใช้เครื่องมือช่วยดูดไขมัน เช่น การใช้อัลตร้าซาวด์ และเลเซอร์ เป็นต้น
- การผ่าตัดกระชับหน้าท้อง
เหมาะสำหรับผู้ที่หน้าท้องหย่อนคล้อยมาก เป็นการผ่าตัดเต็มรูปที่สุด คือ ตัดทั้งไขมัน และผิวหนัง และย้ายตำแหน่งสะดือใหม่ อาจร่วมด้วยกับการดูดไขมันด้านซ้าย ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 3-4 ชั่วโมง ต้องวางยาสลบ และนอนในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน ระยะแรกอาจต้องอยู่ในท่างอตัวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แผลตึงเกินไป
ระยะเวลาพักฟื้น
อาจต้องพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ถึงหนึ่งเดือน เพื่อให้แผลหายสนิท หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวัน และเล่นกีฬาได้ตามปกติ หลังจากพักฟื้นประมาณ 2-3 เดือน
ผลข้างเคียง
การผ่าตัด - มีแผลเป็นบริเวณหน้าท้อง
การดูดไขมัน - มักไม่มีแผลเป็น เนื่องจากใช้วิธีเจาะ แต่มีข้อเสียคือ ผิวไม่เรียบ นอกจากนี้ในกรณีที่ผิวหนังไม่คืนตัว จะมีผิวหย่อนคล้อยทิ้งร่องรอยไว้ ซึ่งอาจต้องผ่าตัดอีกครั้ง