ปรับเบี้ยผู้พิการเป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน เริ่มจ่าย 1 ต.ค. 63
ที่ประชุม ครม. อนุมัติเพิ่มเงินคนพิการจากปัจจุบัน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเสนอ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน และไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายทางคลังเพิ่มขึ้นจนเกินไป ซึ่งจากการสำรวจสถานะทางการเงินของผู้พิการส่วนใหญ่ พบว่า อยู่ในพื้นที่ชนบท และมีรายได้น้อยมาก เฉลี่ย 4,326 บาทต่อเดือน โดยการปรับปรุงเบี้ยผู้พิการจะช่วยให้ผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ข้อมูลจากฐานทะเบียนกลาง กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ณ วันที่ 2 ธ.ค. 62 มีจำนวนคนพิการที่ทำบัตรผู้พิการ 2.02 ล้านคน โดยการปรับเบี้ยผู้พิการเพิ่มในครั้งนี้จะต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้นจำนวน 4,852 ล้านบาทต่อปี เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 ให้กับผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณผ่านกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ปีงบประมาณ 2564
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้ผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนี้
อำนวยความสะดวก
- ให้ทุกส่วนราชการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการ เช่น ทางลาดขึ้นลงอาคาร ให้กระทรวมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้พิการ โดยกำหนดเงื่อนไขการขออนุญาตสร้างอาคาร
สร้างอาชีพ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการดังนี้
- จัดทำบัญชีคนพิการแยกประเภทตามความพิการ คุณวุฒิเฉพาะด้านของคนพิการ เพื่อเป็นข้อมูลในการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐ และการทำงานที่บ้าน
- กำหนดเป้าหมายการรับคนพิการเข้าทำงานในแต่ละภาคส่วนให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการขอความร่วมมือจากเอกชน ให้กระทรวงแรงงาน ติดตามและตรวจสอบการจ้างงานคนพิการของนายจ้าง หรือผู้ประกอบการต่างๆ ให้ดำเนินการถูกต้องเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด เพื่อให้คนพิการทำงานได้จริง เปิดโอกาสให้ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้เพื่อประกอบอาชีพ
สิทธิประโยชน์
- ให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พิจารณาแนวทางการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ในการได้รับบริการด้านสุขภาพของคนพิการที่มีงานทำ และเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และคนพิการที่ยังไม่มีงานทำ และเป็นผู้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้มีความสอดคล้องเท่าเทียมกัน