วิจารณ์หนัง JOY ด้วยสองมือและน้ำแรง
หนังอย่าง JOY สามารถจัดอยู่ในหมวดหมู่ของหนังแนวตัวละครสู้ชีวิตได้อย่างไม่ขัดเขิน มันมีองค์ประกอบเช่นเดียวกับหนังอย่าง TOP SECRET วัยรุ่นพันล้าน, Erin Brockovich หรือ Slumdog Millionaire ซึ่งตัวเอกของเรื่องจะต้องฝ่าฝันอุปสรรคทั้งเรื่องภายในครอบครัว, สภาพแวดล้อม และเป้าหมายของชีวิตที่นำเธอไปสู่ความสำเร็จในเวลาต่อมา
JOY นั้นเล่าเรื่องราวที่ดัดแปลงกึ่งหนึ่งมาจากชีวิตจริงของจอย แมงกาโน่(เจนนิเฟอร์ ลอเรนซ์) นักประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกให้เหล่าบรรดาแม่บ้าน ซึ่งเธอได้กลายเป็นดาวเด่นในการขายสินค้าทางโทรทัศน์หรือทางทีวีไดเร็คนั่นเอง ในแรกเริ่มนั้นชีวิตของจอย เติบโตมาในสภาพครอบครัวที่แตกแยก ยิ่งไปกว่านั้นการที่พ่อของเธอแต่งงานใหม่ ทำให้เธอต้องรับมือกับน้องสาวต่างแม่(อลิซาเบ็ธ รอห์ม )ที่ชิงดีชิงเด่นและขี้อิจฉาจอยเป็นทุนเดิม
ครอบครัวของจอยมีแต่ปัญหามากมาย อาทิแม่ (เวอร์จิเนีย แมดเซน)ของตัวเองที่วันๆเอาแต่นั่งดูละครน้ำเน่า พ่อ(โรเบิร์ต เดอนีโร) ของจอยที่ขอมาแชร์ห้องใต้ถุนบ้านซุกหัวนอนร่วมกับสามี(เอ็ดการ์ รามิเรซ )ของจอยที่หย่ากันแล้วแต่ก็ยังไม่ย้ายออกจากบ้าน แถมตัวของจอยเองก็ต้องทำงานบ้านตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานนอกบ้านไปจนถึงงานซ่อมท่อประปาในบ้านก็เหมือนจะเป็นหน้าที่ของเธอไปเสียทุกสิ่ง แต่ดูเหมือนยายของจอย (ไดแอน แลดด์ )จะเป็นเพียงคนเดียวที่ให้ความเข้าใจและมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเธอ
กระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้ไปร่วมฉลองคู่รักใหม่ของพ่อเธอซึ่งเป็นเศรษฐีชาวอิตาเลียน (อิซาเบลลา รอสเซลลินี) เธอได้ทำแก้วไวน์ตกแตก และการนำไม้ม๊อบมาทำความสะอาดเรือทำให้เธอต้องบิดผ้าถูพื้นจนเศษแก้วบาดมือ ในคืนนั้นเองที่เธอกลับบ้านและได้นอนฝันถึงอดีตในวัยเยาว์ที่เธอเป็นนักประดิษฐ์ จึงทำให้เธอได้ไอเดียในการทำไม้ม๊อบที่ผู้ใช้ไม่ต้องบิดผ้าถูและสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
ในช่วงแรกของหนังเราจะได้เห็นชีวิตที่ยากลำบากของจอย ในการดูแลครอบครัวขนาดใหญ่ด้วยตัวเธอเอง ความลำบากได้ทำให้เธอกลายเป็นคนสู้ชีวิต แข็งแกร่งและไม่ยอมย่อท้อต่อความยากลำบาก ส่งผลให้ช่วงที่เธอต้องประดิษฐ์ไม้ม๊อบ ซึ่งเธอต้องผจญกับทั้งซับพลายเออร์ที่พยายามจะโกงแปลนในการทำไม้ม๊อบ, ครอบครัวของจอยที่ดูเหมือนมือไม่พายแต่สักจะเอาเท้าราน้ำ และนอกจากนี้ก็เหมือนเธอจะล้มครั้งแล้วครั้งเล่า แต่จอยก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เธอลุกขึ้นมาสู้อยู่เรื่อยไปและทุกครั้งในการลุกขึ้นสู้นั้นจอยได้พิสูจน์ว่าตัวเธอเองนั้นมีดีกว่าที่คนอื่นดูถูกดูแคลนเธอไว้
ข้อดีประการสำคัญของ JOY คือการที่หนังได้เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ โอบอุ้มหนังทั้งเรื่องไว้ด้วยการแสดงของเธอ ในขณะที่บทภาพยนตร์นั้นออกจะกระท่อนกระแท่นอยู่ไม่น้อย เพราะเหมือนตัวหนังจะรวบรัดไปหมด ช่วงแรกหนังก็ดูเป็นหนังชีวิตแฟนตาซี เพราะมีการที่นางเอกของเรื่องหลุดเข้าไปในโลกความฝันอันเป็นละครที่แม่ของเธอชอบดู ทำให้หนังขาดความเป็นเอกภาพว่าสรุปแล้วจะเป็นหนังแนวสู้ชีวิต หรือเป็นหนังชีวิตแบบแฟนตาซีกันแน่ พอครึ่งหลังของหนังก็เหมือนปรับโหมดมาเป็นแนว “สู้แล้วรวย” แบบเปลี่ยนอารมณ์กันไม่ทันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม JOY ก็เป็นหนังชีวิตที่ดูเพลินๆ ดูการแสดงของเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ได้ แต่ถ้ากล่าวว่านี่เป็นหนังยอดเยี่ยม ก็คงไม่ใช่อย่างแน่นอน
@พริตตี้ปลาสลิด
3 คะแนนจาก 5 คะแนน