โรงหนัง Drive-in ยอดขายพุ่ง, หนังเลื่อนฉาย ในสรุปผลกระทบล่าสุดของ Covid-19 ต่อวงการภาพยนตร์โลก
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคเศรษฐกิจ รวมถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกทั้งฮอลลีวูดและในประเทศต่าง ๆ หลัก ๆ แล้วก็จะเป็นการเลื่อนกำหนดฉายและพักกองถ่ายทำที่แทบจะครบทุกพื้นที่ทั่วโลก เมื่อสัปดาห์ก่อน What the Fact ได้นำเสนอสรุปรวมรายชื่อของภาพยนตร์ที่เลื่อนฉายและพักการถ่ายทำ แต่พอมาจนตอนนี้รายชื่อก็มีรายงานมาเพิ่มขึ้นมาอีก รวมถึงโรงภาพยนตร์ทุกประเทศก็ปิดให้บริการ ยกเว้นประเทศจีนที่เริ่มเปิดแล้ว What the Fact จึงขอรวบรวมมานำเสนอและรายงานสถานการณ์ของวงการภาพยนตร์ทั่วโลกที่น่าสนใจไว้ด้วย
รายหนังเลื่อนที่เลื่อนฉายเพิ่มเติม
- Scoob!: จาก 15 พฤษภาคม ออกไปไม่มีกำหนด
- Spiral: The Book of Jigsaw: จาก 15 พฤษภาคม ออกไม่มีกำหนด
- Wonder Woman 1984: จาก 5 มิถุนายน เป็น 14 สิงหาคม
- In the Heights: จาก 26 มิถุนายน ออกไปไม่มีกำหนด
- Minions: The Rise of Gru: จาก 3 กรกฎาคม ออกไปไม่มีกำหนด
- Malignant: จาก 14 สิงหาคม ออกไปไม่มีกำหนด
รายชื่อหนังที่ให้ชมออนดีมานด์และสตรีมมิงเร็วขึ้น
ค่าย Warner กำลังให้ความสนใจแนวการขายหนังผ่านทางออนไลน์หรือออนดีมาน์และสตรีมมิง ปล่อยเช่าในราคาที่ค่อนข้างแพง เรื่องล่ะ 19.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีระยะเวลาในการชมจำกัดที่ 48 ชั่วโมงต่อเรื่องโดยทางสตูดิโอเองก็มีแผนการจะปล่อยหนังที่เพิ่งเข้าฉายไปไม่นานอย่าง Birds of Prey, The Gentlemen และ The Way Back ผ่านทางสตรีมมิงก่อนกำหนด ส่วนค่าย Disney ก็จะส่งหนังแอนิเมชันฟอร์มดีเมื่อปีที่แล้วอย่าง Frozen 2 สตรีมมิงทาง Disney+ เร็วขึ้นโดยรับชมได้ตั้งแต่ตอนนี้ รวมถึง Onward ที่เข้าฉายชนโรงอยู่ก่อนจะมีการปิดการให้บริการกะทันหันและยังทำรายได้ไปไม่มาก Disney ก็เอาขึ้นสตรีมมิงแล้วเช่นกัน
- Frozen 2
- Star Wars: The Rise of Skywalker
- Birds of Prey
- Just Mercy
- The Gentlemen
- The Invisible Man
- Sonic the Hedgehog
- Bloodshot
- The Lovebirds
- The Way Back
- Onward
- The Hunt
- Emma
- Trolls: World Tour
กองถ่ายที่หยุดพักกองถ่ายเพิ่มเติม
- Avartar 2-5 (กำหนดฉาย ธันวาคม 2021, 2023, 2025, 2027)
- Matrix 4 (กำหนดฉาย 21 พฤษภาคม 2021)
นักแสดงผู้ติดเชื้อเริ่มหายดีและกลับบ้านแล้ว
หลังผ่านการติดเชื้อมากว่า 2 สัปดาห์ นักแสดง Tom Hanks และภรรยาที่ติดเชื้อจากการเดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศออสเตรเลียก็ได้ออกมาโพสต์ว่า มีอาการป่วยน้อยลงระหว่างที่กักตัว รวมถึงยังให้กำลังใจผู้ติดเชื้อรายอื่น ๆ ที่กักตัวอยู่ แถมยังรณรงค์ให้ทุกคนอยู่กับบ้านและไม่เคลื่อนที่ไปไหน ส่วนนักแสดงสาวที่ออกมาประกาศติดเชื้อรายที่สองอย่าง Olga Kurylenko ก็ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสหรือตรวจผลลัพธ์ไม่เป็นบวกแล้ว แฟน ๆ หายห่วงได้
นักแสดงรายอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ออกมาประกาศว่าเป็นผู้ติดเชื้อ Covid-19 ยังได้แก่ Daniel Dae Kim นักแสดงจากซีรีส์ Lost และ Hawaii Five-O และเขาได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าเริ่มกักตัวอยู่ที่บ้านในฮาวายแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดง Colton Underwood จากซีรีส์ The Bachelor, Andy Cohen จากรายการทอล์คโชว์ Watch What Happens Live, Lucian Grainge CEO ของ Universal Music และ Aaron Tvelit นักแสดงบรอดเวย์ ที่ออกมาประกาศผ่านทาง Social Media ของตัวเองว่า ผลตรวจเป็นบวกหรือติดเชื้อ
เทศกาลหนังเมืองคานส์ และเทศกาลหนังอื่น ๆ เลื่อนจัดงานไม่มีกำหนด
เทศกาลหนังสายรางวัลระดับโลกอย่างเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำที่ประเทศฝรั่งเศส และปีล่าสุดผู้ชนะก็คือหนังยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์อย่าง Parasite แน่นอนว่ารางวัลปาล์มทองคำของเวทีคานส์คือแรงส่งสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนังถูกจับตามองจากทั้งวงการ กำหนดการเดิมในปีนี้คือจัดขึ้นในวันที่ 12-23 พฤษภาคม รายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ทางผู้จัดงานได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดออกไปแล้ว คาดว่าจะจัดได้ใหม่เดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม โดยครั้งนี้เป็นการเลื่อนการจัดงานครั้งแรกในประวัติศาสตร์เทศกาลหนังเมืองคานส์ นับตั้งแต่ปี 1946 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบ (มีการยกเลิกการจัดงานไปเลยเพียงแค่ครั้งเดียว ในปี 1968 ที่เกิดจลาจลของกลุ่มหัวรุนแรงฝรั่งเศสหัวใหม่ (French New Wave) ภายในประเทษฝรั่งเศส
รวมไปถึงงานเทศกาลภาพยนตร์ South by Southwest และเทศกาล New York’s Tribeca ก็ได้เลื่อนการจัดไปแล้วอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน
จีนกลับมาเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์อีกครั้ง ในหลายมณฑลที่ห่างจากพื้นที่ระบาดของเชื้อ
โรงภาพยนตร์กว่า 70,000 โรง (ที่ทำให้จีนครองสถิติประเทศที่มีโรงภาพยนตร์มากที่สุดในโลก) เริ่มวางแผนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่ก็จะยังไม่นำหนังชนโรงหรือหนังที่เข้าฉายในช่วงก่อนเกิดเหตุมาฉาย แต่จะนำหนังดังในอดีตมาใช้เรียกความเชื่อมั่นจากคนดูในเบื้องต้นก่อน เช่น นังจีนทำเงินสูงสุดของแต่ละปีในอดีต ทั้ง Wolf Warrior 2 (2017) หรือกองพันธุ์หมาป่า, The Wandering Earth หรือปฏิบัติการฝ่าสุริยะ (2019) ที่บ้านเราดูได้ทาง Netflix, Wolf Totem (2015), ผลงานการสร้างของเฉินหลงเรื่อง American Dreams in China (2013) หรือสามซ่ากล้าท้าฝัน และ Capernaum (2018) ที่กลายเป็นหนังฮิตเซอร์ไพรส์ในเมืองจีนเมืองปีที่แล้ว กวาดรายได้ไป 54 ล้านเหรียญสหรัฐ กลับมาฉายเพื่อเรียกคนดูกลับเข้าโรง
โดยมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาโรงภาพยนตร์เล็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลจากเมืองที่มีการระบาดหนักในมณฑลซินเจียง ชิงไห่ และฝูเจี้ยน จำนวน 17 โรงได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว ส่วนในมณฑลใหญ่ ๆ ที่มีประชาชนจำนวนมากอย่างชิงเต่าและเสฉวน ยังอยู่ระหว่างภาครัฐตัดสินใจและวางนโยบายรวมถึงมาตรการต่าง ๆ ในการเปิดให้บริการของโรงภาพยนตร์
ผู้ชมโรงหนังในรถแบบ Drive-in ในเกาหลีใต้ ยอดขายตั๋วพุ่ง
จากรายงานล่าสุดกล่าวว่า ยอดขายตั๋วภาพยนตร์แบบ Drive-In ที่นั่งชมได้ภายในรถ (อย่างเป็น Social Distancing ได้) ในประเทศเกาหลีใต้เพิ่มสูงขึ้น 10-20% ในวันธรรมดา และถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์จะขายตั๋วได้หมดเกลี้ยงทุกรอบ และต้องต่อคิวซื้อตั๋วนานถึง 2 ชั่วโมง พัคดงจู เจ้าของโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการ Drive-In ให้สัมภาษณ์ว่า มีลูกค้าโทรศัพท์และส่งข้อความมาสอบถามรอบฉายหนังแบบ Drive-In เยอะขึ้นมากตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ Covid-19 แพร่ระบาด และทางโรงภาพยนตร์จะเปิดให้บริการคนที่อยากดูหนังอย่างปลอดภัยแบบนี้ไปตลอดทั้งปี เพื่อรองรับความต้องการในช่วงที่ไม่สามารถดูหนังในโรงได้ตามปกติ
โรงหนังแบบ Drive-In ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ ในซีรีส์หลายเรื่องก็เกิดเหตุการณ์ในโรงภาพยนตร์แบบนี้ และเลือกให้ตัวละครมาดูหนังกันแบบ Drive-In ร่วมกัน เช่น Touch Your Heart และ Fight for My Way ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างบรรยากาศและความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ประเทศไทยยังไม่มีโรงหนังที่ให้บริการแบบนี้ เพราะจะให้ออกไปดูหนังกลางแปลงที่คนมารวมกันเยอะ ๆ ก็ไม่น่าจะเหมาะสมในยามนี้
โรงหนัง Drive-in ในสหรัฐอเมริกาก็กลับมาได้รับความนิยม
สำหรับโรงภาพยนตร์ประเภท Drive-in ในสหรัฐอเมริกาก็กลับมามีผู้ชมเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ขณะที่ตารางหนังทำเงินหรือ Box Office ของสหรัฐฯในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำรายได้เป็น 0 เหรียญฯ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่โรงภาพยนตร์ Drive-in ก็ยังพอจะทำรายได้ไปเล็ก ๆ น้อย ๆ (เกือบทุกเรื่องลดลง 99% จากระบบการฉายตามปกติในสัปดาห์ก่อน) โดยจากรายงานที่รวบรวมมาได้นั้น ภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้ในสถานการณ์นี้ เช่น Onward ทำรายได้ไป 71,000 เหรียญฯ จาก 135 โรง, The Invisible Man ทำรายได้ไป 64,000 เหรียญฯ จาก 111 โรง, Bloodshot ทำรายได้ไป 52,000 เหรียญฯ จาก 79 โรง อย่างไรก็ตามมีการประเมินว่า Box Office ของสหรัฐฯ เสียหายไปแล้วอย่างน้อย 1,500 ล้านเหรียญฯ จากสถานการณ์นี้ และจะยังเสียหายต่อไปเรื่อย ๆ อีก 6-12 สัปดาห์ต่อจากนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม