สาวโพสต์เตือน ขึ้นแท็กซี่มึนยาสลบ ชาวเน็ตวิเคราะห์เสียงแตก
แชร์ว่อน! สาวอ้างแท็กซี่แอบรมยาสลบ นั่งๆ อยู่รู้สึกมึน จนต้องร้องขอชีวิต วิ่งหนีทั้งล้มทั้งยืน ชาวเน็ตวิเคราะห์เสียงแตก เชื่อเป็นเรื่องโกหก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจโพสต์ข้อความหนึ่งของหญิงสาว ที่ระบุว่ารู้สึกมึนและอ่อนแรงหลังจากขึ้นโดยสารรถแท็กซี่คันหนึ่งพร้อมกับแม่ เชื่อว่าอาจจะถูกยาสลบ จึงได้นำมาแชร์ส่งต่อ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ต ที่มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อคละเคล้ากันไป
ตามรายงานระบุว่า เรื่องราวเตือนภัยจากคุณ Bam ได้ถูกแชร์ส่งต่อไปทั่วโลกออนไลน์ โดยระบุว่า เตือนภัย! ยาสลบจากแอร์แท็กซี่โดนกับตัวเองวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา
"เหตุมีอยู่ว่า ได้เรียกแท็กซี่สีเหลืองคันหนึ่ง จากถนนเส้นตลาดบางบัวทอง เพื่อจะไปกรมการกงสุล ถ.แจ้งวัฒนะ เดินทางไปกับแม่ 2 คน ด้วยความที่ไม่รู้สถานที่ไป จึงไม่เอะใจ คนขับได้พูดคุยกับแม่เรื่องเส้นทาง พาขับไปทางเส้นถนนชัยพฤกษ์ ออกแยกปากเกร็ด
ขณะขับรถอยู่ คนขับขอแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน เมื่อเลี้ยวขับเข้าปั๊มแรก แต่คนขับไม่จอด เรากับแม่ก็คิดว่ารถอาจเยอะเลยขับออกไป เขาก็ได้ขับเข้าปั๊มอีกแห่ง ขอเข้าห้องน้ำ บอกขอเวลา 2 นาที ลงไปพร้อมกับผ้าสีขาว 1 ผืน
พอคนขับกลับขึ้นมาบนรถ คนขับก็มีท่าทีปรับกระจกให้เห็นคนข้างหลัง และเอาผ้าที่เปียกผืนสีขาวพาดไว้ตรงตรงบ่า เราก็เริ่มสงสัยอีกแต่ไม่ได้บอกแม่ สักพักเขาเริ่มจับตรงช่องแอร์ ทำเป็นเหมือนปรับแอร์ อยู่ประมาณ 4 รอบ เราก็นึกถึงข่าวยาสลบ จึงกลั้นหายใจ สักพักกลั้นไม่ไว้ จึงหายใจออกมา
รู้สึกอาการมึนๆ หายใจติดขัด และรู้สึกจุกคอเหมือนคนบีบคออยู่ ตาเบลอๆ แขนกับขายกไม่ไหว หมดแรงเพลียๆ จึงฝืนตะโกนออกมาว่า "น้าจอดรถเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่จอดหนูจะแจ้งตำรวจ" ตอนแรกเหมือนเขาขับไวพอบอกว่าจะแจ้งตำรวจ เขาจึงจอดรถลงบนสะพานห้าแยกปากเกร็ด เราก็ถีบประตูออกมา จับแม่ออกมาหายใจข้างนอก เราก็บอกแม่ว่า แม่ออกมาๆ พาแม่วิ่งไปหาคนที่จอดรถอยู่ข้างหลัง
เราไม่มีแรง แม่ก็เริ่มไม่มีแรง จึงพยายามเรียกแท็กซี่คันอื่น เพื่อไปแจ้งตำรวจ ตอนนั้นเราเบลอมากขาไม่มีแรงเหมือนล้มทั้งยืน มาบอกเพื่อเตือน เผื่อมีกรณีคล้ายกับเราจะได้ร่วมกันดำเนินคดี เขาจะได้ไม่ไปทำใครอีก !!!!! ฝากช่วยกันแชร์ต่อเผื่อประโยชน์ต่อการดำเนินคดี"
อย่างไรก็ตาม หลังจากกรณีดังกล่าวถูกโพสต์แชร์ออกไป ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นตามเพจเฟซบุ๊กต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยมีการวิเคราะห์แบ่งออกมาเป็น 2 เสียง บางส่วนก็เชื่อว่าน่าเป็นเรื่องจริงและเป็นภัยสังคม ควรจะติดตามตัวโชเฟอร์รายนี้ตามสอบสวน
แต่ขณะที่อีกส่วนก็ไม่เชื่อกับเรื่องราวดังกล่าว บ้างก็คิดว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น บ้างก็หยิบประเด็นที่เคยวิเคราะห์ก่อนหน้านี้มาเปรียบเทียบ เชื่อว่าการรมยาสลบผ่านช่องแอร์แบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่จริง ไม่เช่นนั้นคนขับแท็กซี่ที่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ก็คงจะมึนไปเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีอาจจะเป็นอาการมึนควันท่อไอเสียที่สูดเข้าไปมากกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะสุขภาพส่วนตัวของผู้โดยสาร ไม่น่าจะใช่เหตุรมยาสลบ