ศาลยกฟ้องคดี "ผู้การแต้ม" เรียกรับเงิน 10 ล้าน
ศาลพิพากษา ยกฟ้องคดีพล.ต.ต.วิชัย เรียกรับเงินจากคดี 10 ล้าน พิสูจน์ไม่ได้มีการรับเงินจริง เจ้าตัวรู้สึกโล่งใจ ดีใจมากที่คำตัดสินมีความชัดเจน
ศาลอาญารัชดา นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ และ ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ โกษยานันท์ ในกรณีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 จำเลยร่วมกันนำผู้เสียหาย 3 คน ที่ลักลอบเล่นการพนัน เจรจาจ่ายเงิน 10 ล้านบาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีฆ่าผู้อื่น โดยวันนี้จำเลยทั้ง 3 คน ได้เดินทางมาที่ศาลด้วยตนเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้จำเลยต่างได้รับการประกันตัว
ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 3 คน ถูกฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับ หรือ ยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อการกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะเป็นการกระทำที่ชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157
วันนี้ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 3 คน ไม่มีความผิดตามพยานและหลักฐานที่โจทก์กล่าวอ้าง ทั้งเอกสารที่เป็นหลักฐานก็ไม่ได้มีข้อความที่แสดงว่าจำเลยทั้ง 3 ได้รับเช็คจากโจทก์ รวมถึงพยานบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ทำให้พยานหลักฐานของทางฝั่งโจทก์ฟังไม่ได้ ฉะนั้นแล้วศาลจึงได้พิจารณายกฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน
ภายหลังจากศาลยกฟ้อง พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า เคารพการพิจารณาของศาล ตลอดระยะเวลา 7 ปี ตนเองต้องตกเป็นจำเลย เสียหน้าที่การงาน เสียชื่อเสียง วันนี้ดีใจมากที่คำตัดสินมีความชัดเจน
ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 3 คน ถูกฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับ หรือ ยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อการกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะเป็นการกระทำที่ชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157
วันนี้ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 3 คน ไม่มีความผิดตามพยานและหลักฐานที่โจทก์กล่าวอ้าง ทั้งเอกสารที่เป็นหลักฐานก็ไม่ได้มีข้อความที่แสดงว่าจำเลยทั้ง 3 ได้รับเช็คจากโจทก์ รวมถึงพยานบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ทำให้พยานหลักฐานของทางฝั่งโจทก์ฟังไม่ได้ ฉะนั้นแล้วศาลจึงได้พิจารณายกฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน
ภายหลังจากศาลยกฟ้อง พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า เคารพการพิจารณาของศาล ตลอดระยะเวลา 7 ปี ตนเองต้องตกเป็นจำเลย เสียหน้าที่การงาน เสียชื่อเสียง วันนี้ดีใจมากที่คำตัดสินมีความชัดเจน