ขนมจีน กุลมาศ เปิดใจ 5 ปีแห่งรัก ไม่เร็วเกินไปที่จะแต่งงาน

อดีตนักร้องสาววัยทีน “ขนมจีน กามิกาเซ่” หรือ “ขนมจีน กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์” ออกมาเปิดใจกับบรรดาสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังหวานใจนักธุรกิจ “เคน ขันธ์เพชร สารสาส” ที่คบหากันมานานกว่า 5 ปี ได้ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่ด้วยการคุกเข่าขอแต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกที่มีเพื่อนพ้องคนสนิทและญาติผู้ใหญ่ร่วมเป็นสักขีพยาน

โดยเจ้าตัวได้เล่าว่า โมเมนต์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นนอกจากจะเป็นโมเมนต์แห่งความสุขและความทรงจำดีๆ ในชีวิตแล้ว เธอและฝ่ายชายก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันกับการก้าวไปสู่อีกสเต็ปของการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่ง ขนมจีน กุลมาศ ยังเผยต่ออีกว่า ตอนนี้ได้กำหนดฤกษ์มงคลเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม 2561 และหลังจากนั้นก็ตั้งใจจะมีทายาททันทีหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน

ว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปของวงการความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
"ตอนแรกก็ตกใจค่ะ และทุกคนต่างก็เข้ามาแสดงความยินดี ซึ่งตัวเราเองก็กลับมาคิดย้อนดูนะว่า มันใช่ใช่ไหม มันถึงเวลาแล้วจริงเหรอ (ยิ้ม) ซึ่งตอนที่เคนเขาขอแต่งงาน เขาก็บอกกับเราตรงๆ เลยนะว่าเขาพูดไม่รู้เรื่องเพราะว่าเขาตื่นเต้นมาก แต่เราก็พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่เขาบอกออกมา และเขาก็บอกว่า "อยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับเรา" อะไรประมาณนี้ค่ะ"

พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเซอร์ไพรส์ยังไงบ้าง ?
"ก็คือตอนแรกวันนั้นขนมจีนมีแพลนต้องไปคุยธุรกิจกับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมนั้นอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่คุณแม่บังคับให้เราแต่งตัวสวยๆ โดยบอกว่าถ้าไปเจอผู้ใหญ่ต้องแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือเราก็เลยตามใจท่าน ซึ่งจริงๆ แล้วคุณแม่เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะท่านก็อยู่ในแผนเซอร์ไพรส์ด้วย จากนั้นพอไปถึงโรงแรมเขาก็มาขอให้เราช่วยขึ้นไปร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ลูกเจ้าของโรงแรมหน่อย แต่ปรากฏว่าพอเปิดประตูห้องเข้าไปเราก็เจอแต่คนสนิทคนใกล้ตัวของเราอยู่ในนั้นหมดเลย มันก็เลยค่อนข้าวช็อคนิดหนึ่งว่า ใช่เหรอ โมเมนต์นี้ใช่ไหมที่เราจะถูกขอแต่งงาน คือตกใจเหมือนกัน"

เห็นว่าตอนที่ตอบตกลงเราก็ตื่นเต้นจนลืมยื่นมือให้เคนสวมแหวน ?
"(หัวเราะ) ตอนนั้นสมองคิดไม่ทันเลยจริงๆ เรารู้สึกแค่ว่าแฮปปี้ มีความสุข และก็ตื้นตัน"

ก่อนที่จะมีการขอแต่งงานเคนเขาเคยพูดกับเราไว้บ้างไหมว่าอาจจะมีโมเมนต์พิเศษเกิดขึ้น ?
"ไม่มีเลยค่ะ (ยิ้ม) แต่ตอนหลังเขาก็มาเล่าให้ฟังว่าจริงๆ เขาตั้งใจจะขอเราแต่งงานตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ด้วยความที่เขาเองก็คิดว่าอยากจะบอกให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ทราบก่อนเพื่อจะได้ช่วยกันเตรียมการ สุดท้ายมันก็เลยทำให้เกิดเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ขึ้นมา"

คุณแม่ของเราท่านว่ายังไงบ้างลูกสาวจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ?
"คุณแม่ก็ดีใจค่ะ คือลูกรักใครท่านก็รักด้วย และที่สำคัญท่านเองก็ตกใจเหมือนกันเพราะปีนี้เราอายุ 25 ปี ซึ่งมันเป็นช่วงเบญจเพศ แต่พอเป็นเบญจเพศที่ดีแบบนี้ท่านก็เลยได้อวยพรเรา และก็ขอให้เราใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท"

ที่ผ่านมาเคนเขาได้พิสูจน์ตัวเองกับคุณแม่ยังไงบ้าง ?
"เขาก็พยายามพิสูจน์ตัวเองเรื่อยๆ มาตลอดนะคะ และตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้มันจะมีช่วงที่ต้องสะดุดบ้างแต่เขาก็พยายามทำให้ถูกวิธีถูกที่ถูกทางที่สุด"

ตอนนี้ได้ฤกษ์มงคลเรียบร้อยแล้วหรือยัง ?
"น่าจะเป็นเดือนธันวาคมค่ะ คือเราได้ไปดูฤกษ์กันหลังจากขอแต่งงานทันทีเลย เพราะทางญาติๆ ที่อยู่ต่างประเทศเขาจะได้เตรียมตัวทัน ดังนั้นก็น่าจะเป็นเดือนธันวาคมค่ะ"

พอเป็นการแต่งงานของดารา เรื่องสินสอดก็เลยต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ ?
"ตามความเหมาะสมดีกว่าค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะต้องกำหนดอะไร คือเรายกหน้าที่ให้ทางผู้ใหญ่เป็นคนจัดการเองดีกว่าเพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องเป็นของเราเป็นของลูกเราของลูกเราอยู่แล้ว"

ขั้นตอนการเตรียมงานตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"เพิ่งเริ่มเลยค่ะ คือรู้ฤกษ์แล้วแต่ยังไม่กล้าบอกวันเพราะว่ากลัวโรงแรมเต็ม (หัวเราะ)"

ส่วนตัวเราเองคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้มันเร็วไปไหม ?
"ก็...การสร้างครอบครัวท้ายที่สุดสักวันหนึ่งมันก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่ว่าช้าหรือเร็ว และอีกอย่างเราเองก็เลยค่อนข้างชื่นชมครอบครัวพี่กุ๊บกิ๊บกับพี่บี้ด้วยที่ถึงแม้เขาจะเป็นวัยรุ่นแต่เขาก็ยังดูแลลูกได้อย่างดีมาก ดังนั้นเราก็เลยคิดว่าเราน่าจะเป็นคุณแม่ที่ดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ได้เช่นกัน"

แสดงว่าเราตั้งใจมีทายาททันมีหลังแต่งงาน ?
"ใช่ค่ะ (ยิ้ม)"

ถ้าตั้งใจแบบนี้แล้วงานต่างๆ ในวงการจะต้องรับให้น้อยลงไหม ?
"ถ้าเป็นงานสำหรับปีนี้จริงๆ ก็เต็มไปถึงสิ้นปีแล้วนะคะ แต่ว่าแพลนสำหรับปีหน้าซึ่งเป็นช่วงหลังแต่ง เราก็ยังมีเวลาให้ทำงานอีกไปจนถึงประมาณครึ่งปีค่ะ"

พอเราเลือกเป็นศิลปินอิสระก็ดูเหมือนว่างานจะเยอะขึ้น ?
"ค่ะ ก็เป็นโอกาสดีๆ นะคะที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้ ซึ่งขนมจีนก็ต้องขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ส่วนเรื่องเซ็นสัญญา เอาจริงๆ นะสำหรับเราคือได้หมดถ้าสดชื่น ทำงานที่ไหนก็ได้สบายๆ แต่เอาไว้เป็นเรื่องของอนาคตละกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป แต่ตอนนี้ขอคงสถานะอิสระไว้ก่อนดีกว่าค่ะ"