กู้ภัยเผยนาทีเข้าช่วยสาวถูกทำร้าย “เอ็ม ชัยชนะ” พูดซ้ำๆ ทำไมต้องโกหกพี่

จากกรณี นายชัยชนะ หรือ เอ็ม ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กทำร้ายร่างกายแฟนสาวภายในห้องพักของคอนโดมิเนียม ตำรวจต้องใช้เวลาเจรจานานกว่า 2 ชม. ฝ่ายชายจึงยอมให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเพียงคนเดียวเข้าไปปฐมพยาบาลให้ฝ่ายหญิง และสุดท้ายได้ส่งสัญญาณให้ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวฝ่ายชาย ต่อมาเอ็มก็สารภาพทั้งน้ำตาว่าเสพยาบ้า ทำร้ายร่างกายเพราะฝ่ายหญิงโกหก แอบนอกใจคบหาชายอื่น ล่าสุดรายการโหนกระแส ได้สัมภาษณ์เปิดใจ “คุณเอ๋ ทรงวุฒิ ซ่อมจันนึก” เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูผู้เข้าไปช่วยเหลือฝ่ายหญิงเป็นคนแรก

อยู่ร่วมกตัญญูมากี่ปี?
เอ๋ : “10 ปีได้ เจอเคสแบบนี้บ่อย แต่ไม่เหมือนกรณีนี้ ที่เข้าไป ถามว่าหนักมั้ยก็มีความเสี่ยง หนักประมาณหนึ่ง เราไม่รู้ว่าเข้าไปเขาจะมีอาวุธทำร้ายเราหรือเปล่า วันนั้นผมออกปกติในพื้นที่ ได้รับแจ้งทางสน. ตอน 17.00 น.ว่ามีผู้หญิงโดนทำร้าย ได้รับบาดเจ็บในตึกคอนโดลุมพินีปาร์ค ในเบื้องต้นได้มีญาติที่โทรไปกับทางตร. ได้ให้เบอร์ไว้ ก็โทรหาญาติคนนั้น แจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บ ขอให้เร่งรัดไปที่เกิดเหตุด้วย อยากให้ไปช่วยน้องเพราะตอนนี้เขาไลฟ์สด และเห็นหน้าของผู้หญิงมีแต่เลือด ผมเลยวางสายจากเขาหลังจากคุยรายละเอียดกัน พอไปถึงที่เกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่ตร.อยู่แล้ว 2 ท่าน”

แต่ไม่มีใครเข้าไปข้างใน?
เอ๋ : “ยังครับ ได้ขึ้นไปก็ได้ทำการเคาะประตูเพื่อจะช่วยน้องผู้หญิง ตอนนั้นยังไม่เห็นอะไรเลยครับ ได้รับแจ้งอย่างเดียว เคาะสองสามครั้งแรกยังไม่ตอบครับ ยังเงียบ ก็เคาะอีกครั้งหนึ่ง ก็มีเสียงผู้ชายตอบกลับมาว่ามีธุระอะไร”

เสียงเป็นยังไง?
เอ๋ : “ก็ถือว่าคุมอารมณ์อยู่นะครับ แต่พอเขาได้ยินว่านี่เจ้าหน้าที่ตร. ขอเข้าไปดูในห้องหน่อยได้มั้ย เขาก็เริ่มมีอาการพูดแรงขึ้น พูดว่าไม่ต้องมายุ่งอะไรกับผมเลย เขาก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ทางเราก็ได้ตะโกนถามอีกครั้งว่าผู้หญิงอยู่มั้ย ขอฟังเสียงผู้หญิงหน่อย ทางผู้หญิงเลยตอบมาว่ายังอยู่ค่ะ เราก็กลัวว่าน้องจะเป็นอะไร ตอบเราไมได้ ก็ถามว่าน้องผู้หญิงยังคุยได้มั้ย ก็มีเสียงผู้หญิงออกมา ในตอนแรก เสียงเงียบครับ

หลังเขาจะตะโกนว่ายังอยู่คุณเริ่มมาดูไลฟ์?
เอ๋ : “ตอนนั้นยังไม่ดู เพราะญาติเขายังไม่มา จนเวลาประมาณเกือบครึ่งชม. ช่วงนั้นก็เจรจาว่าขอเข้าไปคุยหน่อยได้มั้ย เขาก็ตะโกนโวยวายว่าห้ามเข้ามา ใครบุกรุกเข้ามาจะยิงสวนออกมาเขาบอกว่าถ้าพังเข้ามาเลย เดี๋ยวยิงสวนแน่”

หลังจากนั้นยังไง?
เอ๋ : “ก็มีญาติฝ่ายหญิงมา เขาไลฟ์สด เราก็เห็นภาพ ยิ่งเป็นห่วงฝ่ายหญิงใหญ่ ญาติเป็นพี่สาว มากับเพื่อน เขาให้ดูไลฟ์สด เราก็อาการหนักขนาดนี้เลยเหรอ พอเราได้ดูคลิป ดูรูป โอ้โห หนักขนาดนี้ คงต้องหาวิธีช่วยน้องก่อน ตำรวจก็พยายามไกล่เกลี่ย แต่ไม่ยอม เราก็พยายามเข้าไปเจรจาคุยเรื่อยๆ จนเกือบชั่วโมง ผมก็เลยตัดสินใจไปเสนอเขาว่าผมขอเข้าไปทำแผลน้องผู้หญิงได้มั้ย เขาเลยยอมรับให้เข้า แต่ให้เข้าแค่คนเดียว แต่ครั้งแรกไม่ยอม อยากให้เข้าแต่ยังไม่ให้เข้า เขาอยากให้เจ้าหน้าที่ตร. และกู้ภัยที่เหลือออกจากพื้นที่ให้หมด เริ่มเกิดความกดดัน”

ตอนแรกให้เข้า ต่อมาไม่ให้เข้าอีก ลักษณะเหมือนคนเมามั้ย?
เอ๋ : “อาการเครียดมากกว่า เหมือนกลุ้มใจ เครียด โดนกดดันอะไรประมาณนี้มากกว่า เพราะเขาเห็นเจ้าหน้าที่มาเยอะขึ้น ก็เริ่มวิตกกังวล เขามองจากตาแมว เขาบอกว่าให้กลับให้หมด ห้ามอยู่”

พูดไหมว่าไม่งั้นผู้หญิงตาย?
เอ๋ : “ไม่มีพูด แค่บอกว่าถ้าจะฆ่าน้องจริงๆ เขาฆ่าไปแล้ว”

ทำยังไงถึงมีการบุกไปในห้องได้?
เอ๋ : “เราพยายามพูดจนให้เขาเย็นลง เขาสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุด ก็คุยกับนายเอ็มเองครับ ยืนหน้าประตูพูดกับเขา เขาก็ถามว่าเชื่อใจได้มั้ย ไม่มีอะไรแอบแฝงเหมือนบุกเข้าไปใช่มั้ย ถ้าเชื่อใจได้ก็จะให้เข้ามา ทีนี้พอญาติหรือตร. ได้ออกไปจากบริเวณนั้น ก็ยืนอยู่ซักพักหนึ่งครับ จนหลอกว่าพี่ขอเข้าไปได้ไหม ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว ซักพักเขาก็เปิดประตูออกมา พอเปิดออกมาเขาก็เหมือนมาดึงแขนผมเข้าไปเลยคนเดียว เพราะผมยืนอยู่หน้าประตู เขาก็รีบปิดประตูล็อกห้อง”

เข้าไปเห็นอะไร?
เอ๋ : “เห็นน้องผู้หญิงนอนฟุบอยู่ นอนไม่มีเรี่ยวแรง เลือดเต็มใบหน้า แต่ว่าเลือดแห้งหมดแล้ว เกิดจากที่เขาซ้อมมาเป็นเวลานานพอสมควร ผมเข้าไปขั้นแรกก็มองดูรอบๆ ก็ไม่เห็นอาวุธอะไรที่อยู่บริเวณนั้น ในมือก็ไม่มีอาวุธ ก็อุ่นใจขึ้นมานิดหนึ่งว่าไม่มีอาวุธที่จะทำอะไรเรา ผมก็ตรงไปที่น้องผู้หญิงเลย ว่าบาดเจ็บอะไรตรงไหน เขาก็นอนซมอยู่ ยังถามตอบรู้เรื่อง ผมถามว่าเจ็บตรงไหน มีแผลตรงไหนผมจะได้ทำแผลให้ เขาก็บอกว่ามีที่ศีรษะ พูดแบบว่าอาการอิดโรย เพราะระบมไปทั้งตัว ใบหน้า พูดเสียงอ่อนแรง แต่ยังบอกเราได้ว่าเจ็บตรงนั้นตรงนี้ ยังขยับตัวได้ ตอนผมเข้าไปน้องมีเสื้อผ้าหมดแล้ว”

แสดงว่านายเอ็มมีการเตรียมตัวให้คนนอกเข้าไป?
เอ๋ : “ใช่ครับ พอผมเข้าไปหาน้องผู้หญิง ก็ไปประเมินดูตามร่างกายว่ามีบาดแผลตรงไหนมั้ย ได้สอบถามน้องว่าเจ็บตรงไหนยังไง จะไดปฐมพยาบาลได้ถูก น้องบอกว่าเจ็บตรงศีรษะ มีที่มือ ที่เท้า”

บาดแผลฉกรรจ์นิ้วเกือบหลุดมีมั้ย?
เอ๋ : “เหมือนมีอะไรแทง ทิ่ม โดนของมีคมเข้าไปประมาณกระดูก บริเวณข้างซ้าย ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ถามว่าเขาใช้อาวุธอะไร เพราะเราเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องอาวุธที่เขาใช้”

พอเข้าไป นายเอ็มมีอาการยังไง?
เอ๋ : “มีเครียดขึ้นมาบ้างเป็นบางครั้ง ก็แบบว่าทำไมต้องทำกับพี่แบบนี้ ทำไมต้องโกหกพี่ พูดซ้ำๆ ประมาณนี้ ก็เบื้องต้นก่อนเราเข้าไป มีการวางแผนกันก่อนกับทางชุดที่รออยู่ข้างนอก ว่าถ้าเกิดเราเปิดประตูออกมา ให้ทำการชาร์จเลย เราจะโทรเสียงให้ข้างนอกได้ยินว่าเราพูดอะไรบ้าง ผ่านมือถือของเพื่อน ใส่กระเป๋าไว้ หนึ่งกันตรงที่ว่าเผื่อเราฉุกเฉินขึ้นมา ข้างนอกจะได้บุกมาช่วยได้ทัน ก็คุยกับเขาอยู่นานเป็นชม. แรกๆ เขาไม่ยอม เขาบอกว่าไม่อยากออกสื่อ ออกข่าวว่าโดนจับเขาไม่อยากโดนจับ เราก็พยายามพูดให้น้อยลง เพราะเขาก็บอกว่าไม่อยากโดนจับให้เป็นข่าว จะทำยังไง ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ใจเย็นๆ ปัญหาเคลียร์ได้ สงบสติอารมณ์ไว้ก่อน ผมก็พยายามพูดกล่อมเขา เขาก็เย็นลง หลังปฐมพยาบาลน้องเสร็จ ผมก็บอกว่าผมต้องขอตัวแล้วนะ ผมทำแผลน้องแล้ว จะไปส่งรพ.เองใช่มั้ย เพราะเขาไม่ให้ผมไปส่ง ไม่ให้อาสาข้างนอกไปส่ง เขาจะไปส่งเอง เขายืนยันจะช่วยแฟนเขาเอง ตรงนี้เขาก็ไม่ยอม เกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอม ผมก็บอกว่าผมต้องขอตัวก่อนนะ พี่อย่าลืมพาแฟนไปหาหมอนะ เพราะเป็นหนักมากเลย”

พอเขาจะพาไปเอง ก็เป็นแผนเดิม เพื่อให้คุณออกจากห้องให้คนอื่นชาร์จเข้ามา?
เอ๋ : “ใช่ เพราะผมเกลี้ยกล่อมเขาตรงนี้ไม่สำเร็จ ก็เลยต้องใช้แผน เปิดประตูแล้วชาร์ตเข้า เพราะเขาไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเรา ผมก็บอกว่าผมขอเปิดประตูออกไปแล้วนะ เขาก็เหมือนรู้ตัวว่ายังไงเขาก็โดนชาร์จ แต่เขาไม่มีอาการต่อสู้อะไร เขาก็นั่งให้จับ เขาแค่บอกว่าเห็นมั้ยผมว่าแล้วก็ต้องเป็นแบบนี้ ต้องมาชาร์ตแบบนี้ เขารู้อยู่แล้ว เขามีสติ

แต่เขาบอกมีสารเสพติดในร่างกาย น่าจะเมายา?
เอ๋ : “แต่ตอนอยู่กับผม เขาคุยรู้เรื่อง เราถามอะไรเขาก็ตอบหมด เขาเหมือนแค่อาการเครียดและกลุ้มใจมากกว่า ที่แสดงออก ณ ตอนนั้น ล่าสุดได้ยินแว่วๆ ว่ามีเรื่องยาเสพติดมาเกี่ยวด้วย แต่เบื้องต้นผมไม่ทราบข้อมูล เพราะเขาไม่มีอาการบ่งบอก เกี่ยวกับสารเสพติดอะไร”

เห็นแล้วรู้สึกยังไง?
เอ๋ : “ค่อนข้างสงสารน้องผู้หญิงครับ โดนกระทำแบบนี้ อยากจะช่วยให้ปลอดภัย น้องไม่ได้พูดอะไรมาก เวลาช่วยเขาก็ขอบคุณปกติ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ มีอะไรก็คุยกัน ใช้สติดีกว่า ใช้กำลังไปมันเกิดแต่สิ่งไม่ดีเกิดขึ้น”