หนุ่มซิ่งเก๋งเสยกระบะข้างทางพลิกคว่ำ น้ำมัน-แก๊สรั่วเกลื่อน รถติดยาวกว่า 2 กิโลเมตร!

หนุ่มซิ่งเก๋งเสยกระบะข้างทางพลิกคว่ำ น้ำมัน-แก๊สรั่วเกลื่อน รถติดยาวกว่า 2 กิโลเมตร!

หนุ่มซิ่งเก๋งเสยกระบะข้างทางพลิกคว่ำ น้ำมัน-แก๊สรั่วเกลื่อน รถติดยาวกว่า 2 กิโลเมตร!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 9 ส.ค. 61 บริเวณหน้าสถาบันการเงินแห่งหนึ่งริมถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ตรงข้ามเรือนจำจังหวัดอ่างทอง รถเก๋ง ฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน จฉ-1621 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายมนัส บุญคงมี อายุ 33 ปี เป็นผู้ขับขี่

พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ถห-7067 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ข้างทางจนชิ้นส่วนช่วงล่างกระจายเกลื่อน รถยนต์เก๋งฮอนด้าพลิกตีลังกาคว่ำขวางถนน จนทำให้น้ำมันและแก๊สที่อยู่ภายในรถรั่วออกมากระจายไปทั่ว

ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุดเมืองอ่างทองและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำเครื่องดับเพลิงออกมาวางเตรียมพร้อมไว้ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดเพลิงลุกไหม้ก่อนประสานงานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลศาลาแดง เข้าฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้เกิดไฟลุกไหม้

โดยนายมนัสซึ่งหนีออกจากตัวรถขณะพลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บที่แขน ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อตรวจรักษาเบื้องต้นอาการปลอดภัย

จากการสอบถาม นายประดุง คุ้มกัน เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเองพร้อมภรรยาขับรถจากบ้านในอำเภอโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เพื่อมาทำธุระที่สถาบันการเงินบริเวณดังกล่าวโดยจอดรถไว้ที่จุดเกิดเหตุ ขณะที่พูดคุยกันอยู่ภายในสำนักงานได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ จึงหันมาดูพบรถของตนกระเด็นมาอยู่บนทางเท้า 

ตนกับภรรยาจึงรีบวิ่งออกมาดูก็พบรถเก๋งสีดำพลิกคว่ำอยู่กลางถนน และคนขับรีบคลานออกจากตัวรถ โดยมีชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเข้าไปช่วย แต่เห็นมีน้ำมันไหลจากรถเป็นจำนวนมากพร้อมกับมีกลิ่นแก๊ส จึงถอยห่างกันออกมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาช่วยเหลือ

ด้าน ร.ต.อ.สิริชัย สีนิล ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายมนัสให้การว่าขณะที่ขับรถมาตามถนนสายดังกล่าวเกิดอาการง่วงนอน และวูบหลับไป เมื่อรู้สึกอีกทีก็เกิดเหตุไปแล้วจึงรีบคลานออกจากตัวรถ ก่อนที่ชาวบ้านจะมาช่วยพาออกไปพักข้างถนนและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การจราจรบนถนนสายดังกล่าวเป็นอัมพาตทางเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรนานกว่า 1 ชั่วโมงเพื่อเคลียร์รถออกจากพื้นผิวการจราจรและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเกรงจะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook