แก๊งคนงานขี่จักรยานยนต์ ตระเวนตัด "สายเคเบิล และสายไฟฟ้า" อ้างหาเงินเที่ยว-ดื่มสุรา
ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานีจับแก๊งขโมยตัดสายเคเบิลและสายไฟฟ้า ได้ผู้ต้องหา 3 คนพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 2 คัน สายไฟฟ้า 5 ขด สายเคเบิล 13 ขด รับสารภาพตระเวนตัดสายเคเบิลและสายไฟฟ้าขายนำเงินมาใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ดื่มสุรา เบื้องต้นสารภาพว่าทำมาแล้ว 4 ครั้ง
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม 61 ที่สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุบลราชธานี (มว.รส.มทบ.22) แถลงข่าวการจับกุมแก๊งตระเวนขโมยตัดสายเคเบิล และสายไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
โดยเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 191 วิมาน สภ.วารินชำราบได้รับแจ้งว่าชาวบ้านนิมิตใหม่พัฒนา หมู่ที่ 6 ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พบกลุ่มคน 3 คนกำลังตัดสายเคเบิลอยู่ริมถนนวาริน-ศรีสะเกษ ก่อนถึงโรงพยาบาลวารินชำราบ
พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูปรอง ผกก.สส.สภ.วารินชำราบ จึงนำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบ พบกลุ่มชาย 3 คนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้พากันวิ่งหลบหนีทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุ 2 คันและสายเคเบิลที่ถูกตัดแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือใครจึงนำกำลังเข้าจับกุม
ประกอบไปด้วยนายไพบูลย์ หรือ บูลย์ อายุ 36 ปี นายสาคร หรือ โจ อายุ 44 ปี และนายรัตนเดช หรือนัด อายุ 45 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้าน ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ 2 คัน ยี่ห้อฮอนด้า เทน่า สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1 กม-4118 อุบลราชธานี สายไฟฟ้า 5 ขด สายเคเบิล 13 ขด หมวกกันน็อก 1 ใบ กระสอบปุ๋ย 3 ใบ ไขควงแบน 1 อัน ประแจปากตาย 1 อัน คีมล็อก 1 อัน คีมตัดสายไฟฟ้า 1 อัน นอตยาว 2 ตัว (ไว้สำหรับปีนเสาไฟฟ้า)
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี กล่าวว่าจากการสอบสวนทราบว่าแก๊งดังกล่าวจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปเรื่อยๆ ถ้าพบสายเคเบิลหรือสายไฟหย่อนอยู่ในที่มืดก็จะช่วยกันทำการตัดแล้วใส่กระสอบปุ๋ยเอากลับไปเผาไฟเอาทองแดงด้านใน ก่อนนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า ราคากิโลกรัมละ 140 บาท
โดยจะนำไปขายครั้งละประมาณ 20-30 กก. โดยสับเปลี่ยนกันนำไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน ได้ครั้งละประมาณ 1,000-2,000 บาท นำมาใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ดื่มสุรา เมื่อเงินหมดก็ออกขโมยตัดใหม่ เบื้องต้นสารภาพว่าทำมาแล้ว 4 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่ออยู่ระหว่างการขยายผล