โซเชียลขัดใจ โฆษกเอ่ยตำนาน "กะเทยห้ามรำหน้าไฟ" เดี๋ยวไม่ได้ขึ้นสวรรค์
แชร์สนั่นคลิปพิธีรำหน้าไฟ โฆษกเอ่ยเล่าถึงตำนาน "กะเทยห้ามรำหน้าไฟ" หน้างานศพ เกรงว่าผู้ล่วงลับจะไม่ได้ขึ้นไปสู่สวรรค์
(11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียกำลังให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์คลิปภาพประเพณีรำหน้าไฟ ภายในงานฌาปนกิจศพท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ที่ปรากฏว่าระหว่างการรำจะเริ่มต้นขึ้น ทางโฆษกได้ประกาศออกเสียงตามสาย อธิบายถึงตำนานของการรำหน้าไฟ ที่ระบุให้พึงสังวรณ์เอาไว้ว่า "ห้ามกะเทยรำหน้าไฟ" เพราะผู้ล่วงลับจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์
คลิปดังกล่าวที่โพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยให้เห็นพิธีรำหน้าไฟที่งานฌาปนกิจศพแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม พบเห็นนางรำกำลังเตรียมตัวฟ้อนรำตามประเพณี ระหว่างที่กำลังบทเพลงเปิดขึ้นที่ลานวัด แต่ปรากฏว่าก่อนที่เพลงจะดังขึ้น ทางโฆษกประจำวัดได้พูดบรรยายถึงตำนานของการรำหน้าไฟ โดยจับใจความได้ว่า
เมื่อครั้งกษัตริย์แห่งกรุงพาราณาสีเสด็จสวรรคต แต่กว่าที่พระองค์จะขึ้นสู่สรวงสวรรค์ได้นั้นจะต้องผ่านด่าน ด่านแรกจะถูกถามว่า "ครั้งยังมีชีวิตอยู่คุณเคยสั่งสมบุญอะไรมาบ้าง" หากทำบุญสร้างกุศลได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ก็จะผ่านด่านไปได้ ส่วนอีกด่านจะต้องมีผู้รำหน้าไฟ เพื่อเปิดทางไปสู่สรวงสรรค์ โดยผู้ทำหน้ารำหน้าไฟต้องเป็นสาวพรหมจรรย์เท่านั้น เน้นเฉพาะเด็กสาว ซึ่งสาวประเภทสอง หรือ กะเทย ห้ามรำหน้าไฟเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผู้ล่วงลับไปไม่ถึงสรวงสวรรค์
คำกล่าวดังกล่าวของทางโฆษกนั้น ทำให้นางรำที่เตรียมอยู่ต่างหันมองหน้ากันด้วยความมึนงง ก่อนที่เสียงเพลงจะดังขึ้นและเริ่มพิธีรำหน้าไฟ โดยหลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก หลายคนไม่เห็นด้วยการแง่คิดตำนานดังกล่าว เพราะการจะขึ้นสวรรค์ไม่น่าจะเกี่ยวกับเพศสภาพ น่าจะเป็นผลบุญหรือผลกรรมของแต่ละคนมากกว่า บางส่วนยังรู้สึกเศร้าใจที่ในยุคนี้ยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางเพศเกิดขึ้น โดยเฉพาะเกิดขึ้นภายในรั้ววัดเช่นนี้