ชูวิทย์จวกประชาธิปัตย์ได้คืบจะเอาศอก ลั่นพลังประชารัฐเตรียมโอ๋เหนื่อย จนต้องยุบสภา

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองฝีปากกล้า โพสต์ลงเฟซบุ๊กวันนี้ (29 พ.ค.) มองสถานการณ์การเมืองไทยว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังพยายามรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล กำลังพลาดท่าให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอผลประโยชน์ให้หมด อย่างเช่น กระทรวงใหญ่ๆ จนเริ่มสร้างความไม่พอใจให้กับคนในพรรคเอง

"หลังจากถวายกระทรวงเกรดเอเซ่นให้พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไปแทบหมดโต๊ะ เหลือเศษกระทรวงเล็กโยนให้ไปแบ่งกันเองในพรรคอย่างไม่เหลือศักดิ์ศรี ทำท่าจะเหนื่อยฟรี กระทรวง (ใหญ่) ที่อยากได้ กลับไม่ได้ กระทรวง (เล็ก) ที่ไม่อยากได้ กลับได้ บรรดากลุ่มก๊วนพรรคพลังประชารัฐ จึงเริ่มร้องกระจองอแงว่า ไปยกให้เขาหมดได้อย่างไร? จะไปเหลืออะไรไว้ให้ทำมาหากิน?" นายชูวิทย์ โพสต์

เตือนตามใจจนโดน "ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์" คุมเกม

อดีตนักการเมืองรายนี้ เตือนว่า การตามใจพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์เช่นนี้ อาจส่งผลให้ทั้ง 2 พรรคคอยบงการพรรคพลังประชารัฐก็ได้ และอาจโดนทั้งคู่ทวงบุญคุณว่า ที่ตั้งรัฐบาลได้ เป็นเพราะ 2 พรรคนี้มาร่วมด้วย

"หากยอมตั้งแต่ต้น ต่อไปคงถูกสองพรรคนี้ 'ขี่คอทำงาน' ต้องคอย 'โอ๋' เป็นเด็กนิสัยเสีย เพราะเงื่อนไขมาเป็นแพ็คคู่ ผิดใจไปหนึ่งพรรคมีหวังได้ล้มทั้งกระดาน ถูกขู่เช้าเย็นไม่เห็นหัว บอกว่า 'จัดรัฐบาลได้เพราะกู'" นายชูวิทย์ ระบุ

ประชาธิปัตย์นิสัยเดิม ได้คืบจะเอาศอก!

นายชูวิทย์บอกอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ตรงกับที่ตนเคยวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นพรรคที่เรื่องมาก มีข้อแม้เต็มไปหมด เช่นเดียวกับการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ที่เอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาอ้าง เพื่อแย่งกระทรวงใหญ่ๆ และแม้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ มีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเป็นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไปแล้ว แต่นิสัยเดิมๆ เช่นนี้ ก็ยังไม่เปลี่ยน

"มันผิดจากที่ผมพูดไว้ซะเมื่อไหร่? ตำแหน่งก็เอา หน้าก็ไม่ยอมเสีย สันดานนี้แก้ไม่หายเสียที แม้ว่าจะ 'ปรับปรุงใหญ่' เปลี่ยนหัวหน้าพรรคก็แล้ว กรรมการบริหารใหม่ก็แล้ว แต่ที่ยังคงไม่เปลี่ยน คือ นิสัยยังเหมือนเดิม" นายชูวิทย์ โพสต์

พรรคอื่นหนีตาม-หวั่นยุบสภามาเร็วเกินคาด

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังมองอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์มากเรื่องเช่นนี้ ทำให้พรรคอื่นก็ไม่แน่ใจตามไปด้วยว่าจะยอมร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และแม้ว่าจะตั้งรัฐบาลด้วยกันได้หลังจากนี้ แต่การทำงานด้วยกันที่เหนื่อยล้า อาจส่งผลให้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปตัดสินใจยุบสภาเร็วๆ นี้ได้เช่นกัน

"ลางชักไม่ดีตั้งแต่ต้น ออกอาการพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ไม่ต้องดูตอนจบว่าจะอนาถขนาดไหน อาจจะเร็วกว่า 6 เดือน อย่างที่ผมเคยบอกไว้ด้วยซ้ำ เผลอๆเป็น 'สภา 30 วัน' ให้ได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย"