อดีตผู้สมัคร "อนาคตใหม่" ยันไม่มีแบ่งชนชั้น หลังร่ำลือ 50 คนจ่อลาออกพรรค

อดีตผู้สมัคร "อนาคตใหม่" ยันไม่มีแบ่งชนชั้น หลังร่ำลือ 50 คนจ่อลาออกพรรค

อดีตผู้สมัคร "อนาคตใหม่" ยันไม่มีแบ่งชนชั้น หลังร่ำลือ 50 คนจ่อลาออกพรรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ แจงกระแสข่าวอดีตผู้สมัคร 50 คนจ่อลาออกพ้นพรรค ย้ำพรรคไม่เคยแบ่งชนชั้น แต่มอบหมายงานให้สมาชิกตามความถนัด ยืนยันตัวเองไม่เคยได้ตำแหน่ง

นายภิญโญ ขันติยู อดีตผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงกรณีอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เตรียมลาออกจากสมาชิกพรรคถึง 50 คนว่า ส่วนตัวเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. การที่ก้าวเดินเข้ามาในพรรคตั้งแต่วันแรกทุกคนมีความต้องการเห็นบ้านเมืองของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การเมืองแบบใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไว้ให้ลูกหลานเรา ที่ไม่อยากให้เขาโตมาแล้วเจอสังคมแบบที่เราเจอ

จากการที่ทำงานที่หนักหน่วงของพวกเรา ทำให้เราประสบความสำเร็จ ได้ ส.ส.เข้าสภา 81 คนเป็นพรรคที่มี ส.ส. เป็นอันดับ 3 หลังจากเสร็จศึกเลือกตั้ง 1 อาทิตย์ พรรคได้เรียกประชุมที่ จ.ชลบุรีอีกครั้ง ในวันนั้นเราได้สรุปผลการเลือกตั้งและงานที่พวกเราจะทำต่อกันอย่างไรในพื้นที่

ในวันนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า ถ้าใครจะทำงานกับพรรคต่อ พรรคของเรามีงานให้ทำเยอะตามความสามารถและความถนัดของแต่ละคน ในวันนั้นได้แบ่งงานออกเป็น 3 ส่วน แล้วให้ อดีตผู้สมัครลงชื่อ งานในสภาจะประกอบด้วย ส.ส.ที่สอบผ่าน และสอบไม่ผ่านจะไปเป็นผู้ช่วย ส.ส. ผู้ชำนาญการ และผู้เชี่ยวชาญ งานสร้างพรรคการเมือง ขยายอุดมการณ์ ทำพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองให้ได้ และวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างอาชีพต่างๆให้ชุมชน โดยผ่านทางคณะทำงานจังหวัด และงานการเมืองท้องถิ่น

หลังจากกลับลงพื้นที่ สภาเปิด ทางพรรคก็ได้มีการจัดตำแหน่ง ผู้ช่วย ผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งส่วนหนึ่ง ส.ส.คัดเลือกเอง อีกส่วนหนึ่งพรรคช่วยคัด โดยเน้นที่การทำงานเป็นหลักซึ่งเท่าที่ดูก็ตามความเหมาะสม แน่นอนมีคนผิดหวังและสมหวัง เพราะตำแหน่งที่เเหลือให้พรรคจัดไม่ได้ครบทุกคน ยอมรับมติพรรค คนที่ผิดหวังถ้ามีความตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงประเทศเราควรจะทำงานการเมืองต่องานในพื้นที่ต่อควบคู่กับการทำงานส่วนตัวของเรา

ในเมื่อเรามี ส.ส.ในสภา มีผู้ช่วย ส.ส. มีประเด็นปัญหาอะไรในพื้นที่เราก็สามารถช่วยพี่น้องประชาชนได้ ด้วยการที่เราก็ส่งให้พรรคพวกเราในสภาทำหน้าที่ และที่สำคัญพรรคยังมีงานอีก 2 ส่วนที่ให้พวกเราทำ ทั้งงานสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง และงานวิสาหกิจชุมชน งานท้องถิ่น มีให้เราทำเยอะครับถ้ามีความตั้งใจจริง

นายภิญโญ ระบุว่า การแบ่งชนชั้นในพรรค ก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่จะเป็นการมอบหมายงานแบ่งงานกันทำตามความถนัดและความสามารถ แบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งอาจจะทำให้ อดีตผู้สมัครบางคนคิดว่านี่คือการแบ่งชนชั้น

ส่วนประเด็นความไม่พอใจในการคัดสรรคนลง นายก อบจ. ถ้าไปดูกติกา คะแนนไพรมารีโหวต 25 เปอร์เซ็นต์ และความคิดเห็นจากกรรมการพรรค 75 เปอร์เซ็นต์ พรรคจะดูความสามารถ และอุดมการณ์เป็นสำคัญ จะตระกูลใหญ่มาจากไหนอดีตจะมีคะแนนเสียงเท่าไหร่ พรรคไม่ได้คิดตรงนั้น พรรคมองว่าจะพัฒนาจังหวัดนั้นๆอย่างไร และแน่วแน่ตั้งใจแค่ไหน

"ผมเชื่อมั่นในการตัดสินของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งที่ผ่านมาก็ตัดสินได้ถูกต้องมาโดยตลอด หลังจากเคาะบางจังหวัดแล้วทำให้คนที่ไม่ได้รับคัดเลือกออกมาเรียกร้องโวยวาย นั้นยิ่งตอกย้ำว่าพรรคคัดคนถูกต้องแล้ว ผมขอยืนยันว่าหลักการและเหตุผลต่างๆของพรรคยึดโยงการทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นเปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาเพื่อส่งมอบสังคมที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานเรา ไม่ได้เพื่อผลประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจจะทำให้ไม่พอใจของคนในพรรคบางคนบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ แต่หลักและแก่นของพรรคไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่นอน"

นายภิญโญ ระบุว่า ตนไม่ได้ตำแหน่งอะไรในพรรคและไม่เคยเรียกร้องเป้าหมายของเรายิ่งใหญ่กว่าการจะคิดเล็กคิดน้อยกับพรรค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook