ทรัมป์ ผุดไอเดียถอดถอนประธานสภาฯ สหรัฐ แก้เผ็ดหลังโดนผู้แทนราษฎรเด้งพ้นเก้าอี้

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์ลงทวิตเตอร์วันนี้ (21 ธ.ค.) ว่า ตนมีแนวคิดใหม่คือการถอดถอนนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ออกจากตำแหน่ง เพราะทราบมาว่านางเพโลซี กำลังเจรจากับวุฒิสภาเพื่อแลกผลประโยชน์กันแบบยื่นหมูยื่นแมว ดังนั้นเมื่อนางเพโลซียื่นการถอดถอนมาให้ตน ตนก็น่าจะยื่นการถอดถอนให้นางเพโลซีคืนเช่นกัน

"ยัยแนนซี เพโลซี กำลังหาทางยื่นหมูยื่นแมวกับวุฒิสภา ทำไมเราไม่ถอดถอนยัยนี่ซะ?" นายทรัมป์ โพสต์

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่สมาชิกส่วนใหญ่มาจากพรรคเดโมแครต ลงมติถอดถอนนายทรัมป์ ที่สังกัดพรรคฝั่งตรงข้าม คือ พรรครีพับลิกัน ใน 2 ข้อกล่าวหา คือ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และการแทรกแซงกระบวนการของรัฐสภาสหรัฐ ทำให้นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐ ที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรถอดถอน

>> สภาสหรัฐฯ ลงมติถอดถอน "โดนัลด์ ทรัมป์" เป็นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

ถึงอย่างนั้น กระบวนการถอดถอนก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เนื่องจากจะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้วุฒิสภาพิจารณาในเดือน ม.ค. ปีหน้า ซึ่งมีแนวโน้มว่า วุฒิสภาจะลงคะแนนต่างจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ของวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน

เรื่องเกิดจากเงินช่วยเหลือยูเครน

นายทรัมป์เผชิญข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างจริงจัง หลังถูกเปิดเผยว่า นายทรัมป์ใช้อำนาจประธานาธิบดีระงับการให้เงินช่วยเหลือแก่ยูเครน ให้ไปต่อสู้กับแนวร่วมแบ่งแยกดินแดนและทหารรัสเซีย มูลค่า 391 ล้านดอลลาร์ (11,810 ล้านบาท) เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่รัฐสภาสหรัฐอนุมัติไปแล้ว

ต่อมาในเดือน ก.ค. ปีเดียวกัน อยู่ๆ นายทรัมป์ก็เปลี่ยนใจ อนุมัติให้โอนเงินดังกล่าวให้ยูเครน แต่ขณะนั้นก็พบว่านายทรัมป์พยายามปกปิดสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้เห็นเอกสารฉบับหนึ่ง ที่บันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ 30 นาที กับนายวลาดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ในเดือน ก.ค. 2562

กำจัดคู่แข่งทางการเมือง

เมื่อเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารดังกล่าว ก็พบว่านายทรัมป์ร้องขอให้นายเซเลนสกี ทำ "อะไรบางอย่าง" กับธุรกิจปิโตรเลียมของนายฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน เพื่อตอบแทนที่สหรัฐยอมโอนเงินก้อนดังกล่าวให้

ส่วนเหตุผลที่นายทรัมป์พยายามทำ "อะไรบางอย่าง" กับนายฮันเตอร์ คาดว่าเป็นเพราะหวังจะใช้โจมตีนายโจ ที่ออกตัวเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับตัวเอง ในการเลือกตั้งปี 2563

ขณะที่นายทรัมป์และนายเซเลนสกีคุยกัน ก็เป็นช่วงที่นายโจกำลังมีคะแนนนำตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนอื่นๆ จากพรรคเดโมแครต เท่ากับว่านายทรัมป์อาจใช้อำนาจของตัวเองกำจัดคู่แข่งทางการเมืองก็เป็นได้

เหตุนี้ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่มาจากพรรคเดโมแครตเช่นเดียวกับนายโจ ไม่นิ่งเฉย เรียกร้องให้ลงมติถอดถอนนายทรัมป์ โดยอ้างว่า นายทรัมป์ลุแก่อำนาจ ทั้งยังทำลายหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญสหรัฐ ดังนั้นเพื่อการปกป้องรัฐธรรมนูญจึงต้องตัดสินใจเริ่มกระบวนการถอดถอนนายทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง

>> ประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐ แถลงลุยถอดถอนทรัมป์ ลั่นเป็นภัยต่อประชาธิปไตย

>> โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ฝีปากกล้านักท้าชนทั่วโลก ได้เงินเดือนเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่าสิทธิประโยชน์