นักกฎหมายสหรัฐฯ ผุด “กฎหมาย CAREN” ป้องกัน “แจ้งความเท็จจากเหตุสีผิว”
นักกฎหมายในแคลิฟอร์เนียยื่นเสนอกฎหมาย Caution Against Racially Exploitative Non-Emergencies (CAREN) เพื่อเอาผิดบุคคลที่โทรแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีสาเหตุจากการเหยียดสีผิว โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในเมืองซานฟรานซิสโก ที่หญิงผิวขาวโทรแจ้งตำรวจ เนื่องจากชายชาวฟิลิปปินส์เขียนข้อความ “Black Lives Matter” ในพื้นที่บ้านของเขา
การประท้วง Black Lives Matter ได้สร้างความตระหนักเรื่องอคติทางด้านสีผิวให้กับคนทุกระดับ รวมถึงภาคธุรกิจ และหน่วยงานของภาครัฐ แต่ในขณะเดียวกัน จำนวนของคนที่ต่อต้านการประท้วงดังกล่าวก็มีให้เห็นมากขึ้น ซึ่งแสดงออกผ่านลักษณะการกระทำที่แสดงออกถึงการเหยียดสีผิว โดยเฉพาะหญิงผิวขาว ที่โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พวกเธอรู้สึกไม่ปลอดภัยจากการกระทำของคนผิวดำ ซึ่งบุคคลลักษณะนี้ถูกเรียกว่า Karen
การเพิ่มขึ้นของคนกลุ่ม Karen ทำให้ Shamann Walton และ Matt Haney เจ้าหน้าที่ประจำเมืองซานฟรานซิสโก ตัดสินใจยื่นร่างกฎหมายที่จะหยุดยั้งการเลือกปฏิบัติเนื่องจากเชื้อชาติ สีผิว เพศวิถี และศาสนา โดย Walton ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า “การเหยียดสีผิวโดยการโทรแจ้ง 911 เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ผมจึงเสนอร่างกฎหมาย CAREN ในวันนี้ และนี่คือร่างกฎหมายที่พวกเราต้องการ”
ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกนำเสนอให้กับสภาเมือง หลังจากเหตุการณ์ที่ Lisa Alexander ซีอีโอบริษัท LaFace Skincare กล่าวหา James Juanillo ว่ารุกล้ำพื้นที่อยู่อาศัย เพราะเขาเขียนข้อความ “Black Lives Matter” บนกำแพงบ้านที่เขาอาศัยอยู่มากว่า 18 ปี เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ และถูกส่งต่อในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ Alexander ถูกวิจารณ์อย่างหนัก
เหตุการณ์ในลักษณะนี้ ปรากฎให้เห็นทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมทางสีผิวและเชื้อชาติ ผู้เสนอร่างกฎหมาย CAREN จึงคาดหวังว่า กฎหมายฉบับนี้จะสามารถลดการแจ้งความเท็จ เพราะอคติทางด้านสีผิวในสหรัฐฯ ลงไปได้