ทรัมป์ เซ็นคำสั่งห้ามทำธุรกรรมกับ TikTok-WeChat ในอีก 45 วัน บีบไมโครซอฟท์เร่งซื้อ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามใช้คำสั่งฝ่ายบริหารแล้วในวันนี้ (7 ส.ค.) ตามเวลาไทย ให้เวลาพลเมืองสหรัฐทำธุรกรรมกับแอปพลิเคชัน TikTok (ติ๊กตอก) อีก 45 วันนับจากนี้เท่านั้น
การเคลื่อนไหวนี้เท่ากับว่า ถ้าไมโครซอฟท์ คอร์ป บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มีฐานดำเนินงานในเมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน ของสหรัฐ ซื้อหน่วยงานในสหรัฐของ ไบต์แดนซ์ จำกัด เจ้าของแอปพลิเคชันติ๊กตอก ที่มีฐานดำเนินงานในกรุงปักกิ่ง ของจีน ไม่ทันในเวลา 45 วัน ติ๊กตอกก็จะหมดสิทธิ์ให้บริการในสหรัฐ ตามที่นายทรัมป์เคยเรียกร้องก่อนหน้านี้
ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ระบุว่าบริษัทต้องการซื้อกิจการของติ๊กตอกในสหรัฐ และในประเทศอื่น 3 ประเทส และเผยว่ากระบวนการซื้อกิจการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ก.ย. นี้ แต่ไมโครซอฟท์ขอไม่กล่าวถึงคำสั่งฝ่ายบริหารที่นายทรัมป์ลงนาม
เจ้าหน้าที่รัฐหลายคนของสหรัฐรู้สึกกังวลมาตลอดว่า แอปพลิเคชันติ๊กตอกเป็นช่องทางที่เปิดให้รัฐบาลเผด็จการจีนเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานชาวสหรัฐและประเทศอื่นๆ แต่ติ๊กตอกปฏิเสธข้อสังเกตดังกล่าว และบอกอีกว่าไม่เคยส่งมอบข้อมูลใดๆ ให้รัฐบาลจีนเลย
นอกจากติ๊กตอกแล้ว นายทรัมป์ ก็ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่คล้ายกันอีกฉบับ ที่ห้ามพลเมืองสหรัฐทำธุรกรรมกับ เทนเซ็นต์ โฮลดิงส์ จำกัด ที่ให้บริการแอปพลิเคชันวีแชทอีกด้วย
"เพื่อปกป้องประเทศของเรา ผมขอลงมือกำจัดภัยที่จะเกิดขึ้นแอปพลิเคชันในมือถือแอปหนึ่งชื่อ ติ๊กตอก เราจำเป็นต้องลงมือมากขึ้นไปอีกด้วยการกำจัดภัยคล้ายๆ กันที่เกิดจากแอปอีกแอปชื่อ วีแชท" นายทรัมป์ กล่าว
แม้วีแชทจะได้รับความนิยมในสหรัฐไม่มากเท่ากับแอปพลิเคชันแชทและโซเชียลมีเดียอื่น แต่เป็นที่นิยมในจีนที่มีประชากรมากกว่า 1,000 ล้านคน และเป็นที่นิยมในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งแอปโทเปีย บริษัทที่ติดตามข้อมูลการใช้แอปพลิเคชันเผยว่า วีแชทมีผู้ใช้งานในแต่ละวันในสหรัฐถึง 19 ล้านบัญชี
คำสั่งทั้ง 2 ฉบับนี้ มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากวุฒิสภาสหรัฐผ่านกฎหมายด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ ที่ห้ามให้พนักงานรัฐ ที่สังกัดหน่วยงานส่วนกลางใช้แอปพลิเคชันติ๊กตอก บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ เพราะเกรงว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ