แพทย์เผยเคสเด็กหญิง 11 ขวบ หากเสียชีวิตเพราะวัคซีนป้องกันมะเร็งฯ จะถือเป็นรายแรกในไทย

แพทย์มะเร็งนรีเวชเผย ไม่เคยมีใครเสียชีวิตเพราะวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หากผลชันสูตรชี้ชัดว่าน้องดับเพราะวัคซีน ถือเป็นเคสแรกในไทย ย้ำวัคซีนให้ประโยชน์มากกว่าโทษ

เหตุการณ์สุดสลด พ่อแม่ขอความเป็นธรรม หลัง "น้องครีม" ลูกสาว วัย 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา เสียชีวิตปริศนา หลังโรงเรียนฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกให้ในขณะที่ลูกสาวไม่สบาย ซึ่งหลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.มหาราช และจะไม่เผาศพลูก จนกว่าจะรู้ความจริง ว่าลูกตายเพราะอะไร ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เพราะไม่มีอะไรมาทดแทนได้เท่ากับชีวิตของลูก

•  พ่อแม่ใจสลาย ลูกสาว 11 ขวบ ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกที่โรงเรียน สุดท้ายเด็กเสียชีวิต
• ผอ.โรงเรียน ตอบดราม่าเด็กหญิง 11 ขวบ ฉีดวัคซีนแล้วตาย ชี้เป็นหน้าที่ของแพทย์

(31 ส.ค. 63) อีจันติดต่อไปยัง นายแพทย์ ศุภกร พิทักษ์การกุล ผช.ผอ.ด้านพัฒนาคุณภาพ หัวหน้ากลุ่มงานมะเร็งนรีเวช กรมการแพทย์ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

โดยคุณหมอบอกว่า วัคซีนมะเร็งปากมดลูกหรือ HPV Vaccine โดยวัคซีนชนิดไม่ได้ผลิตออกมาเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกอย่างเดียว เพราะสามารถป้องกันมะเร็งหลายจุดได้ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งช่องคลอด ,มะเร็งทวารหนัก หรือภาวะก่อนเกิดมะเร็งได้ HPV Vaccine สามารถป้องกันการเกิด มะเร็งปากมดลูกได้ 40-80% นอกจากนั้นยังสามารถป้องกันการเกิดหูดที่อวัยวะเพศบางชนิดได้อีกด้วย ย้ำว่าใช้ในการป้องกันไม่ได้ใช้ในการรักษาแต่อย่างใด

โดยการให้วัคซีนให้ได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย จะเริ่มรับวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 9-45 ปี โดยการให้วัคซีนจะฉีดปริมาณที่แตกต่างกัน เช่น อายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไป ต้องฉีดวัคซีน 3 เข็ม แต่ในช่วงอายุตั้งแต่ 9 -14 ปี จะให้จำนวน 2 เข็ม โดยห่างกัน 6 เดือน

โดยประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนในชั้น ป.5-ป.6 ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 แล้วที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันแบบนี้ขึ้นในกลุ่มนักเรียน ที่ผ่านมาไม่มีใครเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีน แต่มีแค่อาการแพ้หรือร่างกายต่อต้านเพราะยังไม่สามารถรับตัววัคซีนได้ทันที ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีมาตรการในการฉีดวัคซีนทุกครั้งว่า จะไม่ฉีดให้กับนักเรียนที่มีไข้สูง หรือมีอาการไม่สบาย แต่หากเป็นไข้หวัดธรรมดา ก็จะประเมินอาการและฉีดให้แต่ต้องให้นั่งพักสังเกตอาการทุกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามคุณหมอว่า ที่ผ่านมาเคยมีเคสที่แพ้วัคซีนและอาการรุนแรงบ้างไหม คุณหมอบอกว่า “เคยมี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่คนรอบข้างสังเกตได้ เช่นเวียนหัว,อาเจียน,มีผื่นขึ้นตามตัว ให้พักและกินยาก็จะหายเป็นปกติ”

และเมื่อถามถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องหลังจากการรับวัคซีน คุณหมอบอกว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอการชันสูตรที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่าน้องมีอาการไม่สายมาก่อนหน้าหรือไม่ และอาจมีเชื้อไวรัสตัวอื่นหรือมีอาการติดเชื้อมาก่อนที่พอมารับวัคซีนแล้วอาจทำให้อาการหนักขึ้น”

แต่โดยทั่วไปแล้ว วัคซีนชนิดนี้ไม่มีอันตรายเพราะทั่วโลกได้ฉีดมานานมากและส่วนใหญ่จะไม่มีใครแพ้จนเสียชีวิต และในประเทศไทย หากผลชันสูตรออกมาชัดเจนว่าน้องเสียชีวิตเพราะวัคซีน ก็ถือเป็นรายแรกของไทย

การให้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกก็ยังถือเป็นวัคซีนที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก เป็นธรรมดาที่วัคซีนจะให้ผลข้างเคียงหลังฉีด และไม่ใช่อาการที่รุนแรงอะไร จึงอยากฝากคนที่ไปรับวัคซีนทุกครั้ง ต้องเช็กร่างกายและความพร้อมให้ดี หากไม่พร้อมหรือบกพร่องให้สอบถามเจ้าหน้าที่ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ต้องรอผลชันสูตรที่ชัดเจนว่าน้องเสียชีวิตเพราะวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ หรือเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ผลชันสูตรเท่านั้นที่จะบอกได้