กองทัพเรือชี้ เปรียบจีทูจีเรือดำน้ำกับเรือดับเพลิงกทม.ไม่ได้

กองทัพเรือ ชี้ เปรียบจีทูจีเรือดำน้ำกับเรือดับเพลิง กทม. ไม่ได้-บ.CSOC ได้รับมอบอำนาจจากจีนจริง

พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสธ.ทร. และ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงการที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.เพื่อไทย ยังยืนยันว่า สัญญาซื้อเรือดำน้ำลำแรก กับ CSOC จีน เป็น จีทูจี เก๊ และจะฟ้องสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตอบโต้ ที่ ผบ.ทร.สั่งฟ้องหมิ่นประมาท ว่า คนไม่รู้ เรื่องนี้ไม่สามารถนำมาเทียบกับ การซื้อเรือดับเพลิง ของ กทม. ที่ นายยุทธพงศ์ ระบุถึงได้ เพราะนี่เป็นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ อาวุธเชิงยุทธศาสตร์ ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ที่มีกฎระเบียบทางราชการของ กระทรวงการต่างประเทศ และ สำนักอัยการสูงสุด และ กลาโหม ต้องผ่านหลายขั้นตอน กว่าจะอนุมัติให้ ทร. ไป ดำเนินการเซ็นสัญญาได้ นั่นเป็น ความเข้าใจไปเอง ของนายยุทธพงษ์ เพราะ นี่เป็นการ ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มีขั้นตอน ไม่ใช่ซื้อของปกติ การจัดซื้อจ้างยุทโธปกรณ์ มีข้อกำหนดกฎหมายนานาชาติ ด้วย ให้ไปรู้ในศาล แล้วกัน

ทั้งนี้ ทร.ได้แถลงชี้แจง ไปเมื่อ 24 ส.ค. แล้ว เรื่อง บริษัท CSOC ที่เป็นคู่สัญญาต่อเรือลำน้ำ S26T ลำแรก ว่าเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกลาโหมจีน และเป็นการต่อเรือดำน้ำ ซึ่งเป็น อาวุธทางยุทธศาสตร์ ความมั่นคง ที่ต้องเป็นของกลาโหมจีน โดยรัฐบาลไทยได้ มอบอำนาจในการลงนามในข้อตกลงของรัฐบาลไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 โดยอนุมัติให้ ผบ.ทร. ในขณะนั้น เป็นผู้แทนไปลงนามระหว่างรัฐบาล หลังจากนั้น ผบ.ทร. ได้มอบอำนาจให้ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ในขณะนั้น เป็นผู้แทน ผบ.ทร.ไปลงนามในข้อตกลง บริษัทที่ต่อเรือCSOC ได้รับมอบอำนาจจากหน่วยงานของรัฐบาล ด้านการบริหารงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและส่งออกอาวุธ (SASTIND) เป็นผู้แทนรัฐบาลมาลงนามในสัญญากับไทย เพราะเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกลาโหมจีน คนที่มาลงนามในนามของ CSOC ได้รับมอบอำนาจอย่างชัดเจนจากจีน