ทีมผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ตัวจริงเปิดใจ-ศธ.ร่วมถกได้บทสรุป 10 ข้อเยียวยา

ทีมผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ตัวจริง เปิดใจ ปมครูจุ๋มทำร้ายเด็ก พร้อมขอโทษผู้ปกครองและสังคม-ศธ. ร่วมสรุปข้อตกลงเยียวยา

ดร.พิสุทธิ์ ยงค์กมล และ ดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงเปิดใจกรณีครูทำร้ายนักเรียน โดย ดร.พิสุทธิ์ ระบุว่า ตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากรับทราบเรื่อง ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในโรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนสารสาสน์ มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ในเรื่องนโยบายการต่อต้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียน (บูลลี่) เบื้องต้น ต้องขอโทษผู้ปกครอง และสังคมอีกครั้ง และจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงเรียน จะแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจอย่างตรงไปตรงมาโดยทุกข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการวันนี้จะนำไปปฏิบัติ ช่วยเหลือแก้ไข และพร้อมรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด จัดตั้งศูนย์ร้องเรียนที่ห้องธุรการ โดยจะมีการปรับระบบคุณภาพของการบริหารโรงเรียน รวมถึงบุคลากรให้มีธรรมาภิบาล รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพจิตของครูผู้สอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ส่วนกรณีที่นายพิบูลย์ ยงค์กมล ผู้ก่อตั้งโรงเรียนเครือสารสาสน์ ให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น นายพิสุทธิ์ ระบุว่า อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด เนื่องจากเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จึงอาจทำให้เสียงไม่ชัดเจน โดยนายพิบูลย์ ไม่ได้มีเจตนาอย่างที่พูดออกไป และยืนยันเจตนาที่จะช่วยเหลือและให้ความยุติธรรมกับนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมย้ำว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเพียงแต่ขอเวลาในการแก้ไขปัญหา

• ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ เปิดใจดราม่าครูทำร้ายเด็ก ตนก็ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู

ด้าน ดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล กล่าวว่า ส่วนตัว อยากขอเวลาให้โรงเรียนสารสาสน์ได้ปฏิรูปโครงสร้าง แนวทางการบริหารใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ปกครอง และสื่อมวลชนสามารถติดตามความคืบหน้าการประชุมผู้ปกครองได้ โดยทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการเข้าไปร่วมสังเกตการณ์

ขณะที่ ดร.สยมพร ทองเนื้อดี คณะกรรมการส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบครูปฐมวัย ระบุว่า ปัจจุบันทางโรงเรียนได้นำบุคลากรจากส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ที่จบครูด้านปฐมวัยมาสอนแทนครูชุดเก่า รวมถึงได้ปรับแนวทางการเรียนการสอนของชั้นอนุบาล เช่น การเพิ่มกิจกรรมผ่อนคลายให้เด็กในช่วงเช้าให้เด็กมีความสุขมากขึ้น, ปรับบุคคลากร และ ปรับสภาพแวดล้อมห้องเรียน ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ปกครองว่า ทีมส่วนกลางที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ตั้งใจปรับปรุงการเรียนการสอนให้ดีขึ้น และขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการการแก้ไขปัญหา โดยผู้ปกครองสามารถสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาได้ที่ ตนเอง, ดร.วริษสนันท์ เดชปานประสงค์ คณะทำงานจากส่วนกลาง และ นางวารุณี เผือกเทศ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน

ศธ.-ผู้บริหารเครือสารสาสน์ถกเยียวยาปมทำร้ายเด็กนักเรียน-สั่งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหา

กระทรวงศึกษาธิการ สรุปข้อตกลง แนวทางการเยียวยา กับผู้บริหารส่วนกลางเครือสารสาสน์ หลังหารือกว่า 4 ชั่วโมง โดยทางโรงเรียนรับจะ เร่งติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม พร้อมให้ผู้ปกครองสามารถติดตามผ่านจอที่โรงเรียน และระบบออนไลน์ รวมถึงคืนเงินค่าเทอมเต็มจำนวนให้กับห้องนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงทั้งหมด

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นาย อรรถพล ตรึกตรอง เลขาคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน พร้อมด้วยผู้บริหารโรงเรียน ชี้แจง แนวทางปัญหาโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์

ทั้งนี้ หลังหารือ นานกว่า 4 ชั่วโมง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าล่าสุดได้ทำหนังสือข้อตกลงหลังผู้ปกครองทำข้อเสนอมายังกระทรวงศึกษาธิการ โดยทางโรงเรียนยืนยันความรับผิดชอบ เเบ่งเป็น 2 กรณีใหญ่ คือ

กรณีแรกทางฝ่ายผู้ปกครองในห้องเรียนของบุตรหลานที่ถูกกระทำความรุนแรง และยังประสงค์จะให้บุตรหลานเรียนที่โรงเรียนต่อนั้น ทางโรงเรียนจะเยียวยา โดย

1. คืนค่าธรรมเนียมในทุกกรณี ของปีการศึกษา 2563
2. โรงเรียนจะเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิด เเละมีจอมอนิเตอร์ ในโรงอาหาร เพื่อให้ผู้ปกครองสังเกตการณ์ และหลังจากนั้นจะทำเป็นระบบออนไลน์ให้ดูกล้องได้
3. ทำป้ายชื่อ รูปภาพ และตำเเหน่ง ใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครู ทุกคน ติดหน้าห้องเรียนทุกห้องเเละเผยเเพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียน
4. โรงเรียนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในการรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ของนักเรียนที่ถูกกระทำและได้รับผลกระทบเต็มจำนวนที่จ่ายจริง
5. จัดนักจิตวิทยาประจำโรงเรียนเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจให้กับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ และประเมินพร้อมส่งให้ผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน
6. อนุญาตให้ผู้ปกครอง เข้าตรวจสอบสุขอนามัยของนักเรียนในโรงเรียน เเต่ต้องไม่รบกวนการเรียนการสอนเเละการใช้ชีวิตของนักเรียน
7. จัดอาหารกลางวันตามหลักโภชนาการ โดยเเจ้งรายการอาหารให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เเละเพิ่มเวลากินอาหารจากเดิม 30 นาที เป็น 40 นาที
8. จัดให้มีการคัดกรองด้านสุขภาพจิตให้แก่ครูไทยและครูต่างชาติ
9. จัดระบบรถรับส่งนักเรียนให้มีที่นั่งเพียงพอ และจะติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในรถ ดูเเลความปลอดภัย และรายงานจำนวนเด็กนักเรียนที่ขาด ลา มาสายเป็นรายวัน
10. จัดประชุมผู้ปกครองทุกระดับชั้นทุกปีการศึกษา โดยเริ่มเดือนตุลาคมนี้

ส่วนกรณีที่ 2 การที่ผู้ปกครองประสงค์จะขอย้ายบุตรหลานไปเรียนต่อที่อื่น โรงเรียนจะดำเนินการ ดังนี้

1. จะอำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารส่งตัวนักเรียนให้เเล้วเสร็จภายใน 1 วัน
2. คืนค่าเทอมและค่าธรรมเนียมอื่นในปีการศึกษา2563
3. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ทั้งร่างกายและจิตใจ ของนักเรียนที่ถูกกระทำและได้รับผลกระทบเต็มจำนวนที่จ่ายจริง
4. ค่าชดเชย เเละค่าบำรุงขวัญ โรงเรียนจะเร่งดำเนินการพิจารณาโดยแจ้งความคืบหน้าทันที

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหา โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามเเก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งนักเรียนเเละผู้ปกครองตามบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และ กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมให้รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยฯด้วย