"ทิโม แวร์เนอร์" เด็กหนุ่มฝีเท้าดีที่โชว์ฟอร์มระดับเวิลด์คลาส
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อศูนย์หน้าชาวเยอรมันของแอร์เบ ไลป์ซิก ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ มาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน และในฤดูกาลล่าสุดที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ ทิโม แวร์เนอร์ ก็กำลังจะเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตอยู่
ช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว แวร์เนอร์ยิงให้ไลป์ซิกไป 11 ประตูจาก 18 เกมบุนเดสลีกา ถือเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมไม่น้อย แต่ลูกทีมของราล์ฟ รังนิค กลับมีแต้มตามโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จ่าฝูงในขณะนั้นถึง 14 แต้ม รั้งอันดับ 4 บนตารางในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น
12 เดือนต่อมา ไลป์ซิกภายใต้การคุมทีมของยูเลียน นาเกลส์มันน์ ทะยานขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูง นำดอร์ทมุนด์ที่สลับอันดับกันไปอยู่อันดับที่ 4 ถึง 7 คะแนน การเหมา 2 ประตูในเกมพบกับยูเนียน เบอร์ลิน ในเกมลีกนัดที่ 18 ทำให้แวร์เนอร์ยิงประตูรวมในบุนเดสลีกาซีซั่นนี้ไปแล้ว 20 ประตู มากกว่าซีซั่นที่ก่อนถึง 9 ลูก ทำแฮตทริกได้ 2 หน และยิงเบิ้ลสองลูกในเกมเดียวถึง 4 ครั้ง
ถึงตอนนี้ จากที่แฟนบอลเคยตั้งหน้าตั้งตารอดูกันว่าสัปดาห์นี้แวร์เนอร์จะยิงไหม? ได้เปลี่ยนไปเป็นคำถามว่าสัปดาห์นี้เขาจะยิงกี่ลูก? เพราะเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ทำสถิติยิงประตูแทบจะหายใจรดต้นคอของยอดดาวยิงของทีมบาเยิร์น มิวนิค อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่ขึ้นชื่อเป็นดาวยิงระดับท็อปของลีกมาตลอด 8 ปีและกำลังเดินหน้ายิงประตูเพื่อป้องกันตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดอีกสมัยให้สำเร็จ
หากเทียบฟอร์มของแวร์เนอร์กับศูนย์หน้าคนอื่นจากลีกท็อป 5 ของทวีปยุโรปแล้ว ผลงานยิงรวม 25 ประตูในทุกรายการของดาวยิงไลป์ซิกนั้นตามหลังเพียงเลวานดอฟสกีที่กดไปแล้วรวม 31 ประตู, เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ยิงไป 28 ประตู และ ชิโร อิมโมบิเล จากลาซิโอ ที่ยิงไป 26 ประตูเท่านั้น ส่วนทั้งคีเลียน เอ็มบัปเป (21 ประตู), เซร์คิโอ อเกวโร (21 ประตู), คริสเตียโน โรนัลโด (19 ประตู) และ ลิโอเนล เมสซี (17 ประตู) ต่างก็ยิงประตูได้น้อยกว่าเขา
"ในปีนี้เราโฟกัสไปที่การหาโอกาสยิงให้ได้มากที่สุด มันคือเรื่องดีเสมอสำหรับศูนย์หน้าอย่างเรา เมื่อเอาบอลลงแล้วโฟกัสว่าจะยิงอย่างไรดี เราพยายามยิงเยอะมากในแต่ละเกมและเราก็ทำได้ดีมากทีเดียว ผมคือผู้เล่นคนสุดท้ายในห่วงโซ่ซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็แน่ล่ะ มันคือหน้าที่ของผมที่ต้องยิงประตู นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคาดหวังในตัวผมและเห็นได้ชัดว่ามันก็ได้ผล" แวร์เนอร์กล่าว
แวร์เนอร์นั้นฉายฟอร์มเก่งมาตั้งแต่ในฤดูกาล 2016/17 ที่ยิง 21 ประตูให้ไลป์ซิกทะยานขึ้นมาคว้าตำแหน่งรองแชมป์บุนเดสลีกาได้แบบเหนือความคาดหมาย ส่วนในระดับทีมชาติ เขายิงให้ทีมชาติเยอรมนีไปแล้ว 11 ประตูจากการลงเล่น 29 นัด และภายใต้การคุมทีมของนาเกลส์มันน์ในซีซั่นนี้ แวร์เนอร์ก็ยิ่งโชว์ฟอร์มร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก โดยที่ 20 ประตูที่เขาทำได้มาจากความพยายามยิง 77 ครั้ง มีการเก็บสถิติว่าแวร์เนอร์คือนักเตะที่มีอัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู (Conversion rate) ได้มากที่สุดในลีกท็อป 5 ของยุโรป
แล้วเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ทำได้ยังไงกัน? นาเกลส์มันน์ให้อิสระแวร์เนอร์ในการยืนเป็นกองหน้าตัวต่ำหรือมิดฟิลด์ตัวรุกที่คอยเชื่อมการเล่นกับเพื่อนร่วมทีมในแนวรุกทั้งหมด ซึ่งแต่ละคนก็เป็นผู้เล่นฝีเท้าดีๆทั้งนั้น อาทิ มาร์เซล ซาบิทเซอร์, เอมิล ฟอร์สแบร์ก, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ ยุสซุฟ โพลเซ่น
"เราต้องลืมภาพว่าผมคือศูนย์หน้าตัวยิงประตูของทีม" แวร์เนอร์กล่าว "ผมคิดว่าการจ่ายแอสซิสต์ก็คือจุดแข็งของผมเช่นกัน คนมักติดสินกองหน้าจากประตูที่เขายิงได้เสมอ แต่ในตอนนี้ผมได้รับบทใหม่ภายใต้โค้ชคนใหม่ แทบจะเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกเลยด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าผมต้องเล่นให้เหมือนกับคนอื่นๆ และจ่ายแอสซิสต์บ้าง ซึ่งผมก็จะต้องเชื่อมโยงทั้งหมดนี้ให้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ"
ความเร็วของแวร์เนอร์ก็ถือเป็นจุดเด่นของเขา เมื่อความเร็วบวกกับการอ่านเกมอันยอดเยี่ยมจึงก่อให้เกิดเป็นเคมีเกมรุกอันเปี่ยมประสิทธิภาพที่กองหลังต้องพากันหัวหมุน แวร์เนอร์สามารถเล่นได้ทั้งตรงกลางและขยับออกไปเล่นปีกเพื่อเผาเครื่องแบ็กของคู่แข่ง จะเลือกยิงเองหรือชงต่อให้เพื่อนร่วมทีม แข้งวัย 23 ปีรายนี้ก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ตอนนี้แหละคือช่วงเวลาที่แวร์เนอร์มีความมั่นใจสุดขีด ใครที่ได้ดูฟอร์มของเขาในเกมที่ผ่านๆมาก็คงพูดเหมือนๆกัน
โยอาคิม เลิฟ เฮดโค้ชทีมชาติเยอรมนีเพิ่งจะกล่าวถึงแวร์เนอร์ว่า "ผมคิดว่าเขาคือนักเตะที่ต่างจากผู้เล่นเบอร์ 9 แบบเดิมๆ ทิโมสามารถเล่นได้ตั้งศูนย์หน้าตัวเป้าและปีก ผมรู้ในความสามารถของเขาดี เขายิงประตูให้ไลป์ซิกได้มากมายเหลือเชื่อ เขารวดเร็วมาก และนั่นสามารถสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้มาก ชัดเจนว่าเขาคือนักเตะตัวหลักของเราคนหนึ่ง"
นอกจากการทำประตูแล้ว ยอดศูนย์หน้ายังต้องเป็นหมากตัวสำคัญที่สามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครองได้ด้วย ถ้วยรางวัลเดียวที่แวร์เนอร์เคยได้มาครอบครองคือแชมป์ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่น คัพ 2017 กับทีมชาติเยอรมนี แต่ในปีนี้ แวร์เนอร์กำลังมีโอกาสที่ดีมากๆที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง เพราะนอกจากไลป์ซิกจะกำลังรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในตอนนี้แล้ว พวกเขายังผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอ้าท์ศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก แถมทีมชาติเยอรมนียังมีคิวสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ในช่วงกลางปีนี้อีกด้วย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สูตรสำเร็จของการเป็นแชมป์บุนเดสลีกาคือ คุณต้องมีดาวซัลโวของทีมที่ยิงประตูได้มากๆ ตลอด 5 ฤดูกาลที่ผ่านมาเลวานดอฟสกียิงประตูให้ทีม "เสือใต้" เฉลี่ยถึงซีซั่นละ 25 ประตู และจบลงด้วยการคว้าแชมป์ลีกของบาเยิร์นเสมอ การขับเคี่ยวแย่งชิงอันดับดาวซัลโวของเลวานดอฟสกีและแวร์เนอร์ในขณะนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะตัดสินแชมป์ลีกหรือแชมป์ฟุตบอลยุโรปเลยก็เป็นได้
สิ่งที่ทำให้แฟนๆทีมไลป์ซิกโล่งใจก็คือ การที่แวร์เนอร์ต่อสัญญากับทีมไปถึงปี 2023 เขาอธิบายว่า "ในท้ายที่สุดแล้ว คิดว่าการอยู่กับไลป์ซิกต่อไปน่าจะดีที่สุด เรามีโค้ชใหม่และนักเตะที่ดีขึ้น ผมเห็นว่าเราความสามารถและทั้งหมดทั้งมวลคือได้เห็นแล้วว่าเราสามารถสู้ได้ดีจริงๆในปีนี้"
แวร์เนอร์ และ สโมสรแอร์เบ ไลป์ซิก กำลังทะยานขึ้นไปพร้อมๆกัน และกำลังบินขึ้นไปสู่จุดที่ยังไม่เคยไปถึงมาก่อน ยิ่งเวลาผ่านไปทุกอย่างก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นว่า แวร์เนอร์นี่แหละที่กำลังจะกลายเป็นสุดยอดดาวยิงคนต่อไปสำหรับแข้งยุคใหม่ มาติดตามกันต่อไปว่าเด็กหนุ่มฝีเท้าเยี่ยมจากเมืองชตุทท์การ์ทคนนี้จะจารึกสิ่งใดไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลได้บ้าง?
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ