"บิ๊กปลาย" ประธาน ONE ประเทศไทยกับมุมมองกีฬาการต่อสู้หลังโควิด-19

นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่รัฐบาลเริ่มผ่อนปรนการกักตัว ปลดล็อกดาวน์ประเทศบางส่วนในหลากหลายธุรกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง

สำหรับวงการกีฬาต่อสู้ในบ้านเรา โดยเฉพาะมวยไทย ก็เริ่มมีข่าวดีเรื่องเตรียมเปิดค่ายมวยต่างๆ เพื่อให้นักมวยกลับมาฝึกซ้อมในเดือนพฤษภาคมนี้ และเป็นไปได้ว่าการจัดการแข่งขันมวยไทยอาจจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน ตามการคาดการณ์คือประมาณกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ก็คงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์โควิด-19 กันต่อไปเรื่อยๆ ก่อนในเบื้องต้น
 
เมื่อเป็นเช่นนี้สังเวียนการแข่งขันกีฬาการต่อสู้ระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง จากการขับเคลื่อนของ “บิ๊กปลาย” จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย

“วิกฤตโควิดส่งผลกระทบต่อวงการกีฬาต่อสู้ในบ้านเราโดยตรงเลยครับ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อในสนามมวย ทำให้เกิดภาพลักษณ์ในแง่ลบต่อผู้คนที่เกี่ยวข้องมากมาย ในขณะที่หลายคนเริ่มมองเห็นจุดอ่อน ผมเชื่อว่าเหล่านี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีในอนาคต การสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ทั้งเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในสนามแข่งขัน แผนสำรองเพื่อความอยู่รอดของนักมวยและทีมงานรวมถึงตัวค่ายเอง” บิ๊กปลาย เกริ่นนำถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมพยายามมองวิกฤตให้เป็นโอกาส
 
ในแวดวงธุรกิจ เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศได้รับความเสียหายไปตามๆ กัน แต่กลับมีการเติบโตที่สวนทางของตลาดออนไลน์อย่างน่าสนใจ

“ผมมองว่านี้คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หลายคนเริ่มมองเห็นช่องทางใหม่ๆ ในการขยายตลาดของตัวเอง ในวงการมวยก็เช่นกัน ทุกฝ่ายต้องเรียนรู้และปรับตัว รายได้ของธุรกิจมวย จะไม่ได้มาจากสนามเพียงอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน ค่าตั๋วเข้าชมเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ในอนาคตการรับชมกีฬาจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ และไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการถ่ายทอดสดเพียงอย่างเดียว”

“แม้แต่ตัวนักมวยเองกับค่าย รายได้จะไม่จบที่การขึ้นชกบนสังเวียน ต่างฝ่ายต้องช่วยกันสนับสนุน นักมวยไม่ใช่แค่รอรับปลา ค่ายต้องช่วยให้เขาตกปลาเป็นด้วย สร้างเขาให้กลายเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ รู้จักปั้นตัวเองให้เป็นดารา มีแฟนๆ ติดตาม เพื่อต่อยอดรายได้จากการหาโฆษณา และขายผลิตภัณฑ์ของตนเองหรือค่ายเพิ่มเติม”
 

หากเปรียบเทียบกับ วัน แชมเปียนชิพ วงการมวยเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เติบโต เป็นดั่งรากเหง้าที่ตัดขาดจากกันไม่ได้

“วัน แชมเปียนชิพ ไม่ใช่แค่รายการถ่ายทอดสดกีฬาการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่คือศูนย์รวมเนื้อหาที่หลากหลายสำหรับคนรุ่นใหม่ มีทั้งสาระบันเทิง ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงอีสปอร์ตส นักกีฬาเปรียบเสมือนฮีโร่ เป็นตัวแทนประเทศที่มีหลากหลายมิติให้นำเสนอ ด้วยรากฐานที่แข็งแรงขององค์กร โครงสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่น ในสถานการณ์เช่นนี้จึงสามารถอยู่รอดต่อไปได้”

สำหรับ วัน แชมเปียนชิพ มีการเตรียมความพร้อมที่จะกลับมาไว้อยู่แล้ว ทั้งโปรแกรมใหม่ระดับประเทศอย่าง วัน ฮีโร่ ซีรีส์ มวยไทย และโปรเจกต์ใหญ่เรียลลิตีซีรีส์ธุรกิจระดับโลก The Apprentice: ONE Championship Edition


“ก็คงต้องรอดูสถานการณ์กันไปก่อนสักระยะหนึ่งครับ หากว่าทุกภาคส่วนในประเทศพร้อมเต็มที่ วัน แชมเปียนชิพ ก็จะกลับมาในเวลาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน ซึ่งในระหว่างนี้ผมพยายามมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูวงการมวยเป็นหลัก ทั้งยังต่อยอดไปสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน”

“ผมและทีมงานพร้อมพันธมิตรในวงการ กำลังปลุกปั้นแคมเปญบริจาคข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือเครือข่ายค่ายมวย รวมทั้งนักกีฬา นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์จากช่องทางต่างๆ ที่มี สร้างสรรค์รายการใหม่ๆ ประเภทสาระบันเทิง เพื่อช่วยเยียวยาสังคมไปด้วยพร้อมๆ กัน ในเร็วๆ นี้ครับ”  บิ๊กปลาย ประชาสัมพันธ์โครงการช่วยเหลือสังคมเป็นการปิดท้าย