BMW Z4 VS BENZ SLK สวยทั้งคู่เลือกคันไหนดี

BMW Z4 VS BENZ SLK สวยทั้งคู่เลือกคันไหนดี

BMW Z4 VS BENZ SLK  สวยทั้งคู่เลือกคันไหนดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สปอร์ตโรดสเตอร์หลังคา พับเก็บได้ในยุค 90 กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง จากความสำเร็จของมาสด้า MX-5 ทำให้รถยนต์หลายค่าย ฟื้นโปรเจกต์นี้ขึ้นมายั่วกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักที่ชอบความแรง ซึ่ง 2 ค่ายที่มีตำนานอันยาวนานกับรถแบบโรดเตอร์นี้เป็นคู่ชกที่สมน้ำ สมเนื้อ สมเหตุ สมผล มากที่สุดในตลาดรถสปอร์ตเมืองไทยก็ว่าได้

        2 ค่ายคู่ปรับตลอดการไม่ใช่ใครอื่น เพราะไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน รถเอสยูวี หรือแม้แต่รถสปอร์ต ต่างคนต่างค่ายผลิตรถยนต์ออกมาเพื่อชิงดีชิงเด่น และชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเหมือนๆ กัน


        เมอร์เซเดสเบนซ์ กับ บีเอ็มดับเบิลยู 2 ค่ายนี้มีตัวแรงอย่าง Z4 และ SLK ที่ผลิตออกมาเพื่อสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเท้าหนักที่ชอบความสปอร์ต แบบหรูหรา อีกเรื่องที่ทำให้ทั้งคู่ต้องมาเจอกันก็คือ ราคาค่าตัว ทั้ง 2 รุ่นนี้ใกล้เคียงกันมาก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจยากที่จะหันหน้าซบอกค่ายใด กลุ่มคนที่ชอบรถสปอร์ตทั้ง 2 รุ่นนี้มีคำถามมาโดยตลอดว่า รถ 2 รุ่นนี้คันไหนดีกว่ากัน ซึ่งคำถามเหล่านี้ทำให้เป็นตัวการจุดชนวนให้เราจับมันมาเจอกันในสังเวียน C Boxing ของเรา ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร คุณเองเป็นผู้ตัดสิน เราเป็นแค่ผู้จัด มิอาจฟันธงและคอนเฟิร์มใดๆ ได้...รักใคร เชียร์ใคร ดูกันเลยดีกว่าครับ

        การกลับมาทำการตลาดของค่ายนี้ เริ่มจากสปอร์ตขนาดเล็ก รุ่น Z3 ในปี 1997 ซึ่งเปิดตัวด้วยการไปอยู่ในหนังฟอร์มยักษ์อย่าง เจมส์ บอนด์ 007 ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับบ้านเรา Z3 ก็เข้ามาทำตลาดด้วยเช่นกัน แม้ยอดขายจะไม่มากมาย แต่ค่ายนี้ก็ยังคงยืนหยัดทำตลาดเจ้าโรดสเตอร์คันนี้มาโดยตลอดจนถึงเจเนอเร ชั่นล่าสุดในชื่อ Z4 ที่เผยโฉมอย่างเป็นทางการในไทยไปเมื่องานมอเตอร์โชว์ ช่วงต้นปี 2009

 

        Z4 โฉมปัจจุบันนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ของ Z4 ใช้รหัส E89 เหมือนกับ SLK ที่เป็นร่าง 2 เช่นเดียวกัน โดย Z4มีการเปลี่ยนแปลงการเรียกชื่อรุ่นย่อยแบบเต็มยศใหม่เป็น Z4 sDrive 23i ตามการเปลี่ยนการเรียกชื่อรถหลายรุ่นของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก

        สำหรับ SLK 200 Kompressor เปิดตัวตั้งแต่ปี 2004 แต่มีการปรับรูปโฉมให้โฉบเฉี่ยวครั้งใหญ่โดยมีการปรับในปี 2008 มีการปรับปรุงชิ้นส่วนภายในรถมากถึง 650 ชิ้น จากความสำเร็จตั้งแต่รุ่นแรกทำเอาอึ้ง...เพราะตั้งแต่ SLK เปิดตัวรุ่นแรกในปี 1996 ในรหัส R170 มันก็กลายเป็นขวัญใจคนมีอันจะกิน ตัวเลขเลยยอดขายทั่วโลกตั้งแต่มันเกิด จนถึง ปี 2004 มี SLK กว่า 308,000 คันที่ออกจากโรงงาน Bremen ในเยอรมนี

        รูปโฉมภายนอกของ Z4 ได้รับการออกแบบใหม่หมด ปรับแต่งเส้นสายต่างๆ ให้ดูโค้งมนกลมกลืนมากกว่ารุ่นก่อน และได้รับเสียงตอบรับดี รวมถึงได้คว้ารางวัล Red Dot Design Award และดีไซน์ยอดเยี่ยม Eyes On Design Award มาการันตีด้านความสวยงาม หลังคาที่สามารถพับเก็บได้เป็นแบบแข็งอลูมิเนียมเปิด-ปิดหลังคาภายในเวลา เพียง 20 วินาที กระโปรงหน้ามีขนาดกว้างและยาวเพราะมันถูกว่างเครื่องยนต์ขนาด 6 สูบแถวเรียง ที่ความจุ 2,497 CC. มีแรงม้าเยอรมันให้กดทั้งหมด 204 แรงม้า ที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 2,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบสเตปทรอนิกส์ (เล่นเกียร์ได้เหมือนเกียร์ธรรมดา) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 7.3 วินาที การที่บีเอ็มฯ ใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบ เป็นเพราะความเหมาะกับรถแบบโรดสเตอร์มากที่สุด เนื่องจากมีน้ำหนักที่พอเหมาะ พละกำลังเหลือเฟือ ทำให้ Z4 มีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุล 50:50

        ส่วน SKL มีการปรับปรุงชิ้นส่วนภายในรถมากถึง 650 ชิ้น แต่ผมขอบอกให้ทราบเพียงไม่กี่จุดนะครับ เพราะ 650 จุดให้อ่านทั้งคืนคงไม่จบแน่ การเปลี่ยนแปลที่เห็นได้ชัดคือ กันชนหน้าแบบใหม่แบบ New Look พร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบใหม่ ล้ออัลลอย และกระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ความยาวตัวรถที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยาวกว่าคู่แข่ง Z4 12 มิลลิเมตร แต่ Z4 ใหม่จะกว้างกว่าแค่ 4 มิลลิเมตร ส่วนสูงต่างกันแค่ 3 มิลลิเมตร แต่ระยะฐานล้อ Z4 จะยาวกว่า 65 มิลลิเมตร รีโมทกุญแจ Immobilizer ที่เราคุ้นเคยสามารถทำได้นอกเหนือจากการสั่งล็อก-ปลดล็อกประตูรถได้แล้ว หาก กดปุ่มปลดล็อกค้างเอาไว้อีกสักหน่อย หลังคาของ SLK จะใช้เวลาพับเก็บในฝากระโปรง 22 วินาที ช้ากว่า Z4 เพียง 2 วินาที

        การออกแบบภายในของ Z4 มีความเป็นสปอร์ตมากกว่า SLK แต่อย่างไรก็ตาม ความสปอร์ตนั้นก็ต้องแลกกับความกว้างสะดวกสบาย เพราะการลุก-นั่ง เข้าๆ-ออกๆ SLK สบายกว่ากันเยอะครับ เบาะหนังแท้ของทั้ง 2 รุ่นโอบกระชับสรีระผู้ขับและผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี คอนโซลตกแต่งในแบบฉบับของตัวเอง บ่งบอกเอกลักษณ์จากตัวตนของมัน พวงมาลัยมีระบบ Shift Paddles ให้เลือกปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้ตามความต้องการ

        ขุมพลังของ SLK เป็นบล็อก 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว วางตามยาว 1,796 CC. กระบอกสูบ x ช่วงชัก 82.0 x 85.0 มิลลิเมตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Supercharge (หรือที่ภาษาเยอรมัน เรียกมันว่า Kompressor นั่นเอง) ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร หรือ 25.47 กก.-ม. ที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,800-5,000 รอบต่อนาที ขณะที่ Z4 เป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ SLK ถือว่ามีความจุกระบอกสูบน้อยกว่า แต่ ได้เปรียบกว่า ตรงที่มีระบบอัดอากาศแบบ Supercharge เข้ามาช่วย ทำให้มันสามารถต่อกรกับ Z4 ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อครับ

        เมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณจะเลือกค่ายไหน? แต่ผมขอบอกไว้ก่อนว่า ควรที่จะอดใจรออีกนิดเพราะ SLK กำลังจะถึงเวลาปรับรูปโฉมใหม่ เอาไว้ให้ New SLK ออกมาก่อน แล้วค่อยคิดว่า จะ Z4 หรือ SLK ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook