Test Drive Mazda2 Sedan กับเส้นทางภูเก็ต-กระบี่
หลังจากเปิด Mazda2 รุ่น 5 ประตูลงตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ของบริษัท ค่ายมาสด้าไม่รอช้าส่ง Mazda2 รุ่นซีดาน 4 ประตูทันควัน เพื่อต่อกรและแย่งชิงยอดขาย แข่งกับรถระดับเดียวกันค่ายอื่น ๆ รวมถึงรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน EcoCar ที่ทยอยเปิดตัวกันหลายรุ่น
ล่าสุดกับการขับทดสอบเส้นทางภูเก็ต-กระบี่ ระยะทางร่วม 200 กม.เศษ แม้จะไม่มากมายนัก แต่ก็พอให้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงและแตกต่างจากรุ่นแฮชท์แบ็กได้พอสมควร จนต้องออกปากชมอีกรอบว่า “น้องสอง ซีดาน 4 ประตู” เก๋งขนาดซิตี้คาร์ มีดีเกินตัว “นาย (หนึบ) แน่มาก”
เพราะไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบใช้งานทั่วไปเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ หรือในจังหวะที่เร่งรีบ และต้องการความเร็ว “น้อง 2” สร้างความประทับใจในหลาย ๆ ด้าน
โดยเฉพาะจุดเด่นของ Mazda2 ในรุ่นแฮชท์แบ็ก 5 ประตู ที่โดดเด่นเรื่องระบบช่วงล่างและการทรงตัว ซึ่งนอกจากจะให้การขับขี่สนุกสนานในแบบสปอร์ต แถมยังซอกแซกเลื้อยไหลตามตรอกซอยได้อย่างคล่องแคล่ว เนื่องจากมีรูปทรงกะทัดรัดและมีวงเลี้ยวแคบ 4.9 เมตร ได้ถูกถ่ายทอดมายัง Mazda2 Sedan 4 ประตูคันนี้ด้วย
ผนวกกับการที่มีตัวถังยาวกว่าในรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เพราะบั้นท้ายยาวแบบเก๋งทั่วไป และโด่งกว่า ช่วยให้การถ่ายน้ำหนักมีความสมดุล และลดอาการท้ายบานอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงขับเข้าโค้งแรง ๆ ให้ความมั่นใจดี
ช่วงที่ขับทดสอบบนทางลาดชันสลับด้วยทางโค้งระยะทางราว 3.4 เมตร บนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ ที่ทางทีมงานของค่ายมาสด้าตั้งใจให้นักข่าวได้วัดสมรรถนะความหนึบแน่นของ “น้อง2 ซีดาน” คันนี้ ให้การตอบสนองที่ดีเกินคาด พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPAS (Electric Power Assistance Steering) ให้ความแม่นยำ เกาะโค้งด้วยความเร็วสูงดี ขนาดขับสาดโค้งแรง ๆ ไม่มีอาการหวาดเสียวให้ได้รู้สึก
ที่สำคัญขุมพลังเครื่องยนต์ MZR 1.5 ลิตร ความจุ 1498 ซี.ซี. 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 103 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ S-VT (Sequential Valve Timing)
ระบบวาล์วควบคุมการไหลเวียนของไอดี TSCV (Tumble Swirl Control Value) ซึ่งมีคุณสมบัติในการตอบสนองการขับขี่ทุกจังหวะความเร็วและแม่นยำ สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 ถ่ายกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พ่วงด้วยลูกเล่นโหมด HOLD สร้างความเร้าใจและแอ็คทีฟในขณะขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
และยิ่งหากได้เรียนรู้ลูกเล่นของระบบเกียร์แล้ว จะช่วยให้ขับขี่อย่างมั่นใจและสนุกสนานมากขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งเกียร์ ( S) และ (1) หากขับปีนไต่ขึ้นลงทางชันจะให้อารมณ์มัน ๆ คล้ายกับกำลังขับแข่งในสนามเลยทีเดียว
ด้านรูปลักษณ์ “น้อง 2 ซีดานใหม่” เรียกว่าไม่แตกต่างจากรุ่น 5 ประตูนัก โดยยังคงเอกลักษณ์เด่นที่ความโฉบเฉี่ยวและทันสมัย แต่ในส่วนของบั้นท้ายถูกขยายให้ยาวขึ้น เพื่อใช้เป็นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง เส้นสายด้านข้างลากยาวจากไฟหน้าไปยังไฟท้ายเชิดขึ้นเล็กน้อยตามสรีระของบั้นท้าย
ห้องโดยสารกว้างกว่ารุ่น 5 ประตู เบาะนั่งหลังถูกออกแบบให้นั่งสะดวกสบายตัวขึ้น มีพื้นที่วางเท้าและเหนือศีรษะพอเหมาะพอเจาะ และสามารถปรับพับเบาะได้ 60:40 เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บสิ่งของขนาดใหญ่ เหมือนกับรุ่น 5 ประตู
การตกแต่งภายในใช้โทนสีเบจที่ให้ความรู้สึกหรูหรา โปร่งโล่งสบาย แถมยังอัดแน่นด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยในการขับขี่ และอำนวยความสะดวก เช่น เบรก ABS ระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry and Start System) สะดวกและง่ายในการเปิด-ปิดประตู รวมทั้งสตาร์ตรถโดยที่กุญแจยังอยู่ในกระเป๋า วิทยุแบบ CD-MP3 6 แผ่น พร้อมช่องเชื่อมอุปกรณ์เสริม AUX สำหรับเสียบ iPod
Mazda2 Sedan หรือ “น้อง 2” ซีดาน 4 ประตูคันนี้ มีดีไม่แพ้รุ่น 5 ประตู แต่จะเด่นในเรื่องของระบบช่วงล่างที่ถูกเซตขึ้นมาในแบบสปอร์ต ซึ่งอาจจะไม่นุ่มนวลนัก แต่ในเรื่องของความหนึบนั้น แน่นอนกว่า ส่วนสนนราคาค่าตัว ในรุ่นเกียร์ธรรมดาเริ่มต้นที่ 535,000 บาท รุ่นท็อปราคาเฉียด 700,000 บาท นับเป็นเก๋งเล็กที่น่าสนใจในยุคนี้อีกรุ่นหนึ่ง
ข้อมูลทางเทคนิค
เครื่องยนต์ MZR ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOCH) 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 1500 ซี.ซี.
กำลังสูงสุด 103 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
พวงมาลัย พาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPAS
รัศมีวงเลี้ยว 4.9 เมตร
ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
ระบบเบรก ABS ทั้ง 4 ล้อ
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ