NISSAN X-TRAIL 2.0 XTRONIC CVT เจเนอเรชั่นที่ 2 ของเอ็กซ์เทรล . .

     หลังจากที่ NISSAN มีการเปิดตัว X-TRAIL รถในสไตล์ SUV ในตลาดโลกครั้งแรกเมื่อปี 2000 ซึ่งถือว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 1 ของตระกูล ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี ในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคม ปี 2007 ก็ได้มีการเปิดตัว X-TRAIL ในเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นพระเอกของเราในวันนี้

รูปทรงภายนอก เมื่อได้พบเห็นก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างจาก X-TRAIL ในเจเนอเรชั่นที่ 1 มากนัก ยังให้ความรู้สึกเดิม ๆ จากรูปทรงเหลี่ยม ๆ แบบมีโป่งข้างที่ดูแข็งแรงบึกบึน ไฟหน้าทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่ผสานไปกับกระจังหน้าในแนวลุย ๆ ตามสไตล์นิสสัน ซึ่งถ้าดูแต่ด้านหน้า อาจจะนึกว่าเป็นปิกอัพในตระกูลที่ตาโตขึ้นก็ได้ ดีไซน์โดยรวมจะออกแนวเรียบ ๆ ลุย ๆ มากกว่าแนวหรูหราแบบพรรคพวกที่มีอยู่ในตลาด ส่วนขนาดมิติความยาวของตัวถังที่ 4,630 มม. ความกว้าง 1,785มม. และความสูง 1,685 มม. โดยระยะฐานล้อของ X-TRAIL จะอยู่ที่ 2,630 มม.

ภายใน เน้นโทนเข้ม เบาะเป็นสีดำที่ดูดีทีเดียว คอนโซลด้านหน้าออกแบบมาในสไตล์เรียบ ๆ แต่ดูดี การใช้งานระบบควบคุมต่าง ๆ จากตำแหน่งคนขับสามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย ไม่ต้องมีปุ่มเยอะ ๆ ให้ต้อง งง เวลาจะกดใช้งาน แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะเค้าบอกว่ามันไม่แพรวพราว แต่นั่นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลละครับ ช่องวางของ วางแก้วน้ำ มีให้ใช้อย่างพอเพียง ไม่เหมือนอย่าง Teana ที่ค่อนข้างอัตคัด ตำแหน่งทางด้านหน้านั้น การนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ดี ทัศนวิสัยด้านหน้าถือว่า โอ.เค.เลยทีเดียว แต่เมื่อมองกระจกส่องหลัง ก็รู้สึกได้ถึงความใหญ่โตของเสา D ที่มันบดบังมุมมองทางด้านหลังของการขับขี่ไปเยอะพอสมควร

ถือได้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นปัญหาในการเปลี่ยนเลนและการถอยหลังจอดใน สถานที่แคบ ๆ ซึ่งในกรณีนี้คงต้องพึ่งกระจกมองข้างกันเยอะ ๆ หน่อยนะครับ ส่วนที่นั่งทางด้านหลังก็มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรสำหรับคนไทยไซส์ปัจจุบัน หรือถ้าใหญ่เกินมาตรฐานก็ยังถือว่าไม่เป็นปัญหาในการนั่งแต่อย่างใด และด้านท้ายซึ่งเป็นพื้นที่กว้าง ๆ ขนาดใหญ่ สามารถที่จะใส่ของหรือขนวัสดุที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ประตูหลังสามารถเปิดได้กว้างและสูงพอที่จะยัดกล่องขนาดใหญ่ ๆ เข้าไปได้ พื้นด้านหลังจะเป็นแผ่นรองแบบมีลอนกันลื่นที่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาด ได้ อีกทั้งยังมีลิ้นชักไว้สำหรับเก็บของจุกจิกได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วนอย่าง เรียบร้อยอีกด้วย

 

เครื่องยนต์ 2 ลิตร ที่มาพร้อมกับเกียร์ CVT

ด้วยหัวใจหลักที่โคลนนิ่งมาจาก Teana ตัว 2.0 ลิตร นั่นก็คือเครื่องยนต์รหัส MR20DE เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาด 1,997 ซี.ซี. ที่มีความกว้างกระบอกสูบอยู่ที่ 84.0 มม. และช่วงชักอยู่ที่ 90.1 มม. ฝาสูบแบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ พร้อมวาล์ว 16 ตัว โดยเครื่องยนต์ตัวนี้สามารถสร้างกำลังได้สูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 20.0 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ถ่ายทอดกำลังผ่านสู่ล้อคู่หน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน CVT พร้อม M-Mode

ในเรื่องของสมรรถนะนั้น คงเป็นเรื่องที่ต้องลองให้รู้ว่าเครื่อง 2 ลิตรกับรถพร้อมผู้ขับขี่และสัมภาระที่มีน้ำหนักรวมเกินตันครึ่งนั้น จะมีการใช้งานอย่างไร ซึ่งในการขับขี่แบบในเมืองทั่วไป ถือได้ว่ากำลังเครื่องยนต์ของ X-TRAIL นั้น สามารถพาเราเคลื่อนตัวไปได้อย่างกระฉับกระเฉง อัตราเร่งที่มีมาให้ถือว่าไม่เป็นรองรถประเภทเดียวกันที่มีอยู่ในตลาดเลย การทำงานของเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันอย่าง CVT นั้น มีการทำงานนิ่มนวลชวนสบายเป็นอย่างดี

เมื่อมีการเดินทางไกลที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่วนความเร็วที่ 120 และ 140 รอบ เครื่องยนต์จะอยู่ที่ 2,500 และ 3,000 รอบ/นาที ตามลำดับ ส่วนถ้าตบคันเกียร์เข้าหาตัวเพื่อให้เป็น M-Mode รอบความเร็วการเดินทางจะเด้งเพิ่มขึ้นมาอีก 1,000 รอบ ในทุกช่วงความเร็วของการเดินทาง ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าใช้โหมดนี้ในการเดินทาง อัตราความสิ้นเปลืองย่อมมีมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ในการเดินทางไกลแบบความเร็วนิ่ง ๆ อย่าเผลอคาเกียร์ไว้ในตำแหน่งนี้ เพราะมันจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ในเรื่องโหมดเกียร์นั้น ระหว่างตำแหน่ง D และ M-Mode จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของอัตราเร่งได้อย่างดีพอความสมควร คือถ้าอยากกระฉับกระเฉง อยากขับมันส์ๆ อยากได้ความรวดเร็วทันใจขึ้นมาอีกหน่อย ก็ดันคันเกียร์มาที่ M-Mode ในเรื่องความเร็วสูงสุดที่เราได้ลองทำนั้น จะอยู่ที่ 175 กม./ชม. ซึ่งถือว่าพอเพียงและเพียงพอสำหรับรถสไตล์นี้อยู่แล้ว

  อัตราการบริโภค คือหนึ่งในการทดสอบที่เราคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะถึงรถจะดีแค่ไหน แต่ถ้าซดน้ำมันแบบเททิ้ง มันก็คงเป็นการยากที่เราจะสามารถใช้รถคันนั้นได้ในชีวิตประจำวัน ยกเว้นถ้าเป็นเศรษฐีเงินถังที่ไม่แคร์การควักกระเป๋าในการเติมน้ำมันแต่ละครั้งก็คงจะไม่เป็นไร วกกลับมาเข้าเรื่องการบริโภคของ X-TRAIL กันต่อดีกว่า อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมัน (เบนซิน) จากการใช้งานในเมืองนั้น จะตกอยู่ที่ 7.89 กม./ลิตร ส่วนในการเดินทางไกลหรือออกต่างจังหวัด ตัวเลขอัตราความสิ้นเปลืองจะขยับขึ้นมาเป็น 10.87 กม./ลิตร

 

หนึบ แอนด์ นิ่ม

 

ในเรื่องช่วงล่างของ X-TRAIL ตัวใหม่นี้ ด้านหน้าจะเป็นอิสระ แบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังจะเป็นอิสระ แบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ซึ่งในการทำงานช่วงที่มีการขับขี่ในเมืองนั้น ถือว่าให้ความนิ่มนวลดี การซับแรงสะเทือน แรงกระแทกก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงทำให้การขับขี่ในเมืองกรุง ดินแดนที่มีพื้นผิวถนนแบบหลากหลายเป็นไปด้วยความสบายในระดับดีพอสมควร

ส่วนเมื่อลองใช้ความเร็วสูงในการเดินทางก็จะพบว่า SUV จากค่ายนิสสันคันนี้ สร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี การเกาะถนน การเข้าโค้ง ทำได้อย่างไม่เป็นกังวล ในช่วงทางตรงได้ลองใช้ความเร็วช่วงระดับ 140-160 กม./ชม. อาการของรถก็ยังนิ่ง ไม่สร้างความหวาดเสียวแต่อย่างใด แต่อาจจะมีบางอย่างที่ทำให้ขาดความมั่นใจไปบ้าง ก็คือเรื่องน้ำหนักของพวงมาลัย ซึ่งระบบพวงมาลัยตัวนี้จะเป็นแบบแร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงควบคุมด้วยไฟฟ้า น้ำหนักที่เบาสบายยามเมื่อใช้ความเร็วต่ำ กลับทำให้เกิดอาการขาดความมั่นใจไปบ้าง เมื่อใช้ความเร็วสูง ถ้าเกิดมีการเพิ่มน้ำหนักของพวงมาลัยให้มันหนักขึ้น หนืดขึ้น กว่านี้อีก ก็คงจะเป็นอะไรที่เป็นความลงตัวมากระหว่างช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว

ระบบเบรกที่เป็นแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบความปลอดภัยที่จัดมาให้อย่างครบชุด ทั้ง ABS, EBD และ BA ในการทำงานก็ถือว่ามั่นใจได้ในความปลอดภัย แต่น้ำหนักของแป้นเบรกจะออกมาในลักษณะเบา ๆ คือถ้าเผลอกดกันแรง ๆ อาจจะเกิดอาการหัวทิ่มหัวตำกันเลยทีเดียว ควรจะลองปรับน้ำหนักเท้าให้ชินก่อน ยิ่งสำหรับคนที่คุ้นเคยกับแต่รถยุโรปด้วยแล้ว ก็ยิ่งควรจะลองก่อนขับจริง

อีกหนึ่งในตัวเลือกของ SUV ที่ไม่ควรมองข้าม

บทสรุปของ X-TRAIL คันนี้ ถือได้ว่าทางค่ายนิสสันได้นำรถตัวนี้เพื่อมาอุดช่วงโหว่ของตลาดรถยนต์ที่ตัวเองขาดหายไป โดยรถรุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย โดยอาศัยกฎอาฟต้า วัสดุ และงานประกอบของตัวนี้ถือได้ว่าทางอินโดนีเซียได้มีการพัฒนาคุณภาพการผลิตของตัวเองในแนวทางที่ดีขึ้น

แล้วรถแนว SUV อย่าง X-TRAIL นั้น ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่เหมาะกับการใช้รถของคนไทยมาก เพราะไหนจะเจอถนนหนทางที่ไม่ค่อยน่าจะเรียกว่าถนนในบางที่ หรือจู่ ๆ ฝนตก น้ำก็ท่วมแบบถนนกลายเป็นคลอง ดังนี้รถประเภทนี้จึงเหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ของคนใช้ถนนในเมืองไทยเป็นอย่างมาก เสียแต่ว่าราคาค่าตัวของรถพวกนี้มักจะทะลุ 7 หลัก ดังนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายของใครหลาย ๆ คนที่จะสามารถคว้ามาครอบครองได้ สำหรับในเรื่องของรูปทรง ถ้าใครชอบสไตล์หรู ๆ ก็อาจจะเมินกับรูปทรงเหลี่ยม ๆ บึกบึนของ X-TRAIL คันนี้ แต่ถ้าใครชอบรถทรงแนวลุย ๆ ประโยชน์ใช้สอยเยอะ ๆ และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องตลาด ก็ต้องบอกว่า X-TRAIL คันนี้ก็มีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ความเร็วเดินทางที่เกียร์สูงสุด (D)

ความเร็ว (กม./ชม.) รอบ (รอบ/นาที)

100 2,000

120 2,500

140 3,000

 

ความเร็วเดินทางที่เกียร์สูงสุด (M-Mode)

ความเร็ว (กม./ชม.) รอบ (รอบ/นาที)

100 3,000

120 3,500

140 4,000

 

ข้อมูลทางเทคนิค

ยี่ห้อและรุ่นรถ NISSAN X-TRAIL 2.0 XTRONIC CVT

ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี ประเทศไทย รุ่นปี 2009

แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว

ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.) 1,997

ระบบควบคุมเครื่องยนต์ หัวฉีดมัลติพอยต์ ECCS

กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที) 136/5,200

แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที) 20.0/4,400

อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1

ถังเชื้อเพลิงจุ (ลิตร) 65

ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า

ระบบเกียร์ (รหัส) เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน CVT พร้อม M-Mode

อัตราทดเกียร์ 1 (M-Mode) 1.772 : 1

2 1.300 : 1

3 1.020 : 1

4 0.813 : 1

5 0.664 : 1

6 0.570 : 1

เกียร์ถอยหลัง 1.750 : 1

ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงควบคุมด้วยไฟฟ้า

ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบกันสะเทือนหลัง อิสระ แบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบเบรก หน้า/หลัง ดิสก์เบรก/ดิสก์เบรก พร้อมระบบ ABS, EBD และ BA

มิติ กว้าง x ยาว x สูง (มม.) 1,785 x 4,630 x 1,685

ฐานล้อยาว (มม.) 2,630

ความกว้างของล้อหน้า (มม.) 1,530

ความกว้างของล้อหลัง (มม.) 1,535

น้ำหนักรถ (กก.) 1,460

ล้อ อัลลอย ขนาด 6.5JJ x 16”

ยาง 215/65R16

ราคาจำหน่าย 1,065,000 บาท