Suzuki Swift Plug-in Hybrid อีกหนึ่งจอมประหยัดแห่งอนาคต

Suzuki Swift Plug-in Hybrid อีกหนึ่งจอมประหยัดแห่งอนาคต

Suzuki Swift Plug-in Hybrid อีกหนึ่งจอมประหยัดแห่งอนาคต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ปัจจุบันยานยนต์คลาสเล็กประหยัด พลังงานและปล่อยไอเสียต่ำยังไม่แพร่หลาย แต่มีแนวโน้มสูงที่จะขึ้นมาครองตลาดคนเมืองในอนาคตอันใกล้ ผลักดันให้ค่ายยานยนต์สำคัญต้องดำเนินโครงการพัฒนารถประเภทนี้อย่างจริง จัง เท่าที่ผ่านมา ซูซุกิไม่มีส่วนแบ่งด้านการตลาดยานยนต์ไฮบริดและไฟฟ้า

 

แต่ด้วยแนวโน้มที่เปลี่ยนไป ทำให้ค่ายเชี่ยวชาญรถเล็กในสังกัดเจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จำเป็นต้องตามกระแสด้วยการเปิดโครงการพัฒนา Suzuki Swift Plug-in Hybrid Concept เป็นส่วนหนึ่งของแผนเตรียมผลิตรถยนต์เล็กสะอาดและประหยัดพลังงานในอนาคต

Swift Plug-in Hybrid มีบอดี้ขนาดคอมแพ็ค 5 ที่นั่ง ยาว 3,755 มม. กว้าง 1,690 มม. และสูง 1,510 มม. ขณะที่ฐานล้อยาว 2,390 มม. ดัดแปลงจาก Suzuki Swift ที่จำหน่ายในหลายประเทศในปัจจุบัน

ชื่อ Swift Plug-in Hybrid แปลตรงตัวว่ายานยนต์ไฮบริดพร้อมระบบชาร์จไฟฟ้าในตัว ขณะที่ข้อมูลที่ซูซุกิเปิดเผย ซิตี้คาร์ต้นแบบรุ่นนี้ไม่ใช่ไฮบริด แต่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle:EV) ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาเพิ่มเติมจากระบบของ Chevrolet Volt

ขุมพลังประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กและมอเตอร์ไฟฟ้า จัดวางด้วยเลย์เอาต์วางเครื่องหน้าขับเคลื่อนล้อหน้า มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า มีกำลังสูงสุด 73 แรงม้า (55 กิโลวัตต์) รับพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 260 โวลต์ ความจุ 2.66 กิโลวัตต์ชั่วโมง ติดตั้งไว้ใต้คอนโซลกลางระหว่าง 2 เบาะหน้า

 

ความจุแบตเตอรี่วิ่งได้ระยะทาง 20 กม. เมื่อพลังงานแบตเตอรี่อ่อนระหว่างเดินทาง เครื่องยนต์เบนซินขนาด 0.66 ลิตร ความจุ 658 ซี.ซี. รีดกำลังได้สูงสุด 40 กิโลวัตต์ จะทำหน้าที่ปั่นมอเตอร์กำเนิดไฟฟ้าป้อนแบตเตอรี่

หากไม่ได้เดินทาง สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากไฟฟ้าบ้าน หรือเครื่องชาร์จที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยออกแบบปลั๊กชาร์จไว้ที่กันชนหลัง

 

ด้านสมรรถนะและความประหยัด ซูซุกิยังไม่เปิดเผย แต่ในส่วนของความประหยัด คาดกันว่าน่าจะประมาณ 35.75 กม./.

ส่วนอัตราปล่อยไอเสีย หากวิ่งในเมืองระยะทางไม่เกิน 20 กม. ยานยนต์รุ่นนี้ไม่ปล่อยไอเสียเลย เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว

สำหรับแผนพัฒนายานยนต์ต้นแบบรุ่นนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ซูซุกิจึงยังไม่เปิดเผยกำหนดการนำเข้าสายการผลิต แต่แย้มเป็นนัยว่าคงจะฝืนกระแสนิยมในอนาคตยาก นั่นหมายถึงซูซุกิไฮบริด หรือซูซุกิไฟฟ้า ต้องปรากฏโฉมแน่นอน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook