Ford Fiesta S2000 ฟอร์ดรุ่นลุยแรลลี่ได้ทั่วโลก

ค่ายฟอร์ดสาขายุโรปเปิดตัว Ford Fiesta S2000 เตรียมรุกตลาดมอเตอร์สปอร์ตปีหน้า โดยประกาศถึงลูกค้าทั่วโลกว่า จอมลุยร่างเล็กรุ่นนี้สามารถนำลงซิ่งแรลลี่ได้ทุกสังเวียน

 

Ford of Europe จับมือกับทีมงาน M-Sport แห่งอังกฤษ ค่ายที่อยู่เบื้องหลังการผลิต WRC Focus ในสังเวียนแรลลี่โลก นำ Ford Fiesta รุ่นมาตรฐานไปพัฒนาเป็นรถแข่งแรลลี่ Ford Fiesta S2000 และเปิดตัวที่สำนักงานใหญ่ของ M-Sport เมื่อไม่นานที่ผ่านมา

ฟอร์ดวางเป้าพัฒนา Fiesta S2000 จำหน่ายให้ลูกค้านำลุยศึก S2000 World Cup ในปี 2010 เป็นหลัก

 

แต่จากการผลิตตามกฎของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ทำให้สามารถนำ Fiesta S2000 ลงแข่งได้ทั้งสนามระดับประเทศ และรายการไออาร์ซี (IRC : Intercontinental Rally Challenge) ส่งให้ Fiesta S2000 เป็นรถแข่งแรลลี่รุ่นแรกของฟอร์ดที่สามารถลุยได้ทุกสนามทั่วโลก

 

ขนาดบอดี้ยาว 3,958 มม. และกว้าง 1,820 มม. ขณะที่ฐานล้อยาว 2,489 มม. ภายในห้องโดยสารแน่นด้วยโรลเคจเหล็ก เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม แม้จะติดตั้งโรลเคจเพิ่ม แต่สิงห์แรลลี่รุ่นนี้ก็หนักเพียง 1,200 กก.เท่านั้น

 

ขุมพลัง Duratec 4 สูบ 2.0 ลิตร ได้รับการพัฒนาใหม่ รีดกำลังได้ 280 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที และแรงบิด 192 ปอนด์-ฟุต ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ชนิดต่อเนื่อง 6 สปีด ของ M-Sport และ Xtrac และคลัตช์ของ AP สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

กันสะเทือน ใช้ชุดแม็กเฟอร์สันสตรัททั้งส่วนหน้าและหลัง พร้อม External reservoir damper ของ Reiger ปรับได้ 3 ทิศทาง ลิงค์เหล็กชนิดปรับได้ และเหล็กกันโคลง

 

ล้อและเบรกมี 2 ชุด หากแข่งบนเส้นทางขรุขระ ใช้ล้ออะลูมิเนียม 7x15 นิ้ว สวมยาง 650 มม. ส่วนเบรกใช้ดิสก์เบรกของ Brembo ขนาด 300 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ

หากแข่งบนถนนลาดยาง ใช้ล้อแมกนีเซียม 8x18 นิ้ว สวมยาง 650 มม. และใช้ดิสก์เบรกของ Brembo ขนาดดิสก์หน้า 350 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ และดิสก์หลัง 300 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ

 

Auto Sanook! Comment

ฟอร์ดเฟี่ยสต้า ที่นำมาทำรถแข่งนี้เป็นโฉมเดียวกับที่จะมีการเปิดตัวในเดือนหน้า ซึ่งความจริงในเวอร์ชั่นแรลลี่นี้ไม่ใช่เวอร์ชั่นแรก แต่รถเฟียสต้าคันแรกที่เป็นแรลลี่ตัวแข่งนั้นกลับเป็นของ นักขับแรลลี่อารมณ์ดี เคน บล็อก ที่วาดลวดลายมาแล้วหลายสนาม นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นที่มาร์คัส กรอนฮอมได้มีโอกาสขับในการแข่ง pike peak ที่โคโลราโด ด้วย