เคล็ดลับจับไต๋…พวกคาร์แคร์คิดไม่ซื่อ!!!
คาร์แคร์ จะว่าไปก็เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทมิตรคู่ใจของบรรดาผู้ขับขี่ เพราะไม่ว่าใครๆ ก็นิยมเข้าใช้บริการดีๆ อย่างล้างรถพร้อมเคลือบสี เพื่อให้รถเอี่ยมอ่องเหมือนใหม่แบบไม่ต้องเปลืองแรง แต่เคยไหมบางทีที่รู้สึกประหนึ่งถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ด้วยเสียค่าล้างรถเคลือบสีซะแพงหูฉี่ แต่รถก็เหมือนว่าถูกล้างแล้วเช็ดให้เฉยๆ ไม่ได้เอี่ยมอ่องแวววาวดั่งใจคิด เป็นความรู้สึกตะหงิดๆ ว่า เหยยยยยย! นี่เราโดนต้ม ตุ๋น นึ่ง จนเปื่อยแล้วหรือเปล่านั่น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สงสัย เราก็มีเคล็บลับจับไต๋ พวกคาร์แคร์คิดไม่ซื่อเหล่านี้มาให้ดูกัน จะได้ไม่ต้องพลาดพลั้งให้เสียเงิน ความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จะรู้ได้อย่างไรว่ารถของเราได้ผ่านการเคลือบปกป้องมาแล้วหรือไม่ หรือว่าเคลือบปกป้องดีมาก-น้อย เพียงไร เรามีวิธีการทดสอบง่ายๆ ดังนี้
1.สังเกตด้วยตาเปล่า
หากรถของคุณผ่านการเคลือบแก้ว (หรือเคลือบปกป้องผิวรถ) ที่ได้มาตรฐาน สิ่งที่จะสังเกตเห็นได้คือ เมื่อเวลาที่ฝนตก หรือล้างทำความสะอาดรถ คราบสกปรกต่างๆ จะหลุดออกได้ง่าย ไม่ทิ้งร่องรอยของคราบน้ำ ซึ่งน้ำที่กระทบชั้นผิวรถ จะมีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ และไหลผ่านได้อย่างรวดเร็ว ทนต่อรอยขีดข่วนต่างๆได้เป็นอย่างดี และดูเหมือนใหม่ แม้แต่รถสีขาวก็ยังสะท้อนความเงางามออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นก็เชื่อได้เลยว่าคุณพลาดแล้วชัวร์
2.ทดสอบด้วยกรดเกลือไฮโดรคลอริก
วิธีนี้สำหรับคนที่ใจถึงสักนิด และใช้ความระมัดระวังสักหน่อย แต่รู้ผลชัวร์ว่าจริงหรือหลอก เพียงแค่คุณนำกรดเกลือไฮโดรคลอริกที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนสูง มาหยดทดสอบลงบนชั้นผิวรถที่ผ่านการเคลือบ กรดเกลือดังกล่าวจะไม่สามารถเข้าไปทำลายสีผิวรถของคุณได้ แต่หากเคลือบด้วย Fake Glass หรือ น้ำยาเคลือบที่มีความเข้มข้นของ SiO2 (ซิลิกอนไดออกไซด์) อยู่น้อย ฤทธิ์จากกรดดังกล่าวจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับชั้นผิวในทันที
นี่คือวิธีทดสอบง่ายๆ ที่จะทำให้คุณรู้ว่าถูกหลอกหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากคุณไม่อยากมานั่งทดสอบให้ปวดหัว เลือกคาร์แคร์ที่มีมาตรฐานไว้ใจได้ หรือไม่ก็ล้างเอง และเลือกซื้อน้ำยาเคลือบปกป้องคุณภาพดี เสียเวลาสักนิด แต่ประหยัดกว่า สบายใจกว่า ก็ถือว่าคุ้มค่านะ
ที่มา OLX.co.th