ทดลองขับจริง Lancer EX 1.8 เก๋งญี่ปุ่นรุ่นเดียวที่เติม E85 ได้

ทดลองขับจริง Lancer EX 1.8 เก๋งญี่ปุ่นรุ่นเดียวที่เติม E85 ได้

ทดลองขับจริง Lancer EX 1.8  เก๋งญี่ปุ่นรุ่นเดียวที่เติม E85 ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Mitsubishi Lancer EX นับเป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 8 ของตระกูล โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ทั้งแบบ 1.8 ลิตรและ 2.0 ลิตร ที่จะมาพร้อมกับรูปโฉมโฉบเฉี่ยวทันสมัยขึ้น ห้องโดยสารกว้างกว่ารถระดับเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่น 1.8 ลิตร GLS ที่รองรับพลังงานทางเลือก E10, E20 จนถึง E85 ให้การตอบรับที่น่าสนใจหลายประการ

 

จากการขับขี่ทดสอบระยะทางกว่า 500 กม. ทั้งการใช้งานทั่วไปภายในเมืองและขับขี่ท่องเที่ยวระหว่างจังหวัด เส้นทาง (กทม.-แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี-กทม) ต้องออกปากชมว่า เป็นรถที่ให้การตอบสนองต่อการใช้งานที่ดีอีกคันหนึ่ง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเบนซิน MIVEC แบบ FFV ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 172 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT INVECS-III6 (6 สปีด) พร้อม Sport mode ที่เปลี่ยนเกียร์แบบ บวก / ลบ ช่วยให้การขับขี่สนุกสนาน คล้ายเกียร์ธรรมดา

สมรรถนะอัตราเร่งช่วงการออกตัวและช่วงหวังผลในการแซงนั้น จัดจ้านดี โดยระยะ 0-60 กม.ต่อ ชม. .ใช้เวลา 05.08 วินาที ระยะจาก 0-100 กม.ต่อ ชม. ใช้เวลา 13.58 วินาที ด้านอัตราสิ้นเปลื้องน้ำมันเชื้อเพลิง (เติมแก๊สโซฮอล์ E10) เพราะแก๊สโซฮอล์ E20 กับ E85 หาปั๊มเติมยากเหลือเกินตามต่างจังหวัด ด้วยความเร็วเฉลี่ย 100-120กม./ชม. ขับแบบเซฟๆ รอบเครื่องนิ่งๆ ทำตัวเลขเฉลี่ยเกือบ 10 กม.ต่อลิตร ด้วยระยะทาง 234 กม.

ส่วนห้องโดยสารเก็บเสียงดี โดยเริ่มมีลมเข้ามาในห้องโดยสารช่วงความเร็ว 130 ขณะที่ความเร็วระดับ 150 กม.ต่อชม. การควบคุบรถยังไว้วางใจได้สบายๆ ระบบช่วงล่างทรงตัวและยึดเกาะถนนมั่นใจ ไม่แข็งจนกระด้างแต่ไม่ถึงยวบยาบนัก น้ำหนักพวงมาลัยให้กำลังดีไม่เบาเกินไป แถมวงเลี้ยวยังมีความแม่นยำ

สรุปจุดเด่น Mitsubishi Lancer EX 1.8 GLS คันนี้ที่เห็นได้ชัดคือ ขุมพลังรองรับน้ำมันเบนซินตั้งแต่ชนิด 91-95 แล้ว ยังเติมแก๊สโซฮอล์ตั้งแต่อี 10 อี 20 และอี 85 ได้อีกด้วย

 Sanook ! Auto Comment

  สำหรับ Lancer EX ที่ทางทีม ecareasy นำมาทดสอบนั้นเป็นรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ซึ่งถือว่าสมน้ำสมเนื้อกลับรถยนต์นั่งขนาดนี้ ทั้งเครื่องยนต์ความจุปริมาตรนี้ยังมีอัตราความประหยัดที่น่าพอใจ เรียกว่าไปได้ทั่วทุกสารทิศ ทั้งในเมืองที่อัตรากินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเครื่องขนาด 1500 ซีซีมาก ส่วนนอกเมืองก็อยู่ในอัตรารับได้ ด้วยขุมพลังที่สามารถเติมน้ำมันได้แทบทุกชนิดและรูปกายที่ถอดร่างออกมาจากตัวแรง Evolution จึงเป็นอีกครั้งที่ทำให้ Mitsubishi กลับมาขึ้นสังเวียนในตลาดรถเก๋งอีกหน สำหรับใครที่รอดูสมรถนนะรุ่น 2.0 คงต้องรอกันไปก่อน ยังไงทีมงานจะรีบนำบททดสอบมาลงให้อ่านครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook