Land Cruiser BJ 40 มาดแกร่งพลัง 14B-TURBO

Land Cruiser BJ 40 มาดแกร่งพลัง 14B-TURBO

Land Cruiser BJ 40 มาดแกร่งพลัง 14B-TURBO
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในกลุ่มของคนเล่นรถประเภทขับเคลื่อนสี่ล้อ มีบางพวกที่พอใจรถรุ่นเก่าที่มีเหลือน้อยและต้องจับมาปรับแต่งกันใหม่ อย่างเช่น Toyota Land Cruiser BJ40 ซึ่งเป็นรถที่ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน แต่ที่นำมาอวดกันนี้มีความแตกต่างจากรุ่นเดียวกันตรงที่ท้ายเป็นแบบกระบะ ดังนั้นจึงดัดแปลงให้เป็นกระบะดัมพ์ พร้อมกับเสริมความแข็งแรงให้ตัวรถได้อย่างน่ามอง

 

ตามรูปโฉมของแลนด์ครูซเซอร์ บีเจ 40 นั้นมักจะถูกเรียกว่า จิ๊บหน้าหนู ทั้งนี้เพราะการออกแบบไปมีส่วนคล้ายกับรถจิ๊บ ซึ่งเป็นทรงเหลี่ยมตั้งแต่หน้าจดหลังจึงดูแข็งแกร่งในสไตล์รถลุย โดยกันชนหน้าที่คว้ามาติดตั้งนั้นเป็นของ ARB ที่ออกแบบท่อนเหลี่ยมเป็นสแตนเลส เพื่อมาช่วยป้องกันการกระแทกด้านหน้าได้อย่างดี และยังดูมาดดุดันขึ้น พร้อมกันนี้ได้ยึดหูลากไว้ใช้งานยามฉุกเฉินอีกด้วย และยังได้ติดไฟสปอร์ตไลท์ทรงกลมขนาดใหญ่อีกหนึ่งคู่

ต่อมาเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงคือ วินช์ของ WARN ในแบบไฟฟ้าที่ใช้กำลังจากมอเตอร์หมุน เพื่อฉุดลากน้ำหนักได้มากคู่กับลวดสลิงยาว 30 เมตร โดยติดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนฝากระโปรงหน้าได้ติดตั้งโช้คอัพคู่ให้เปิดง่ายขึ้น พร้อมติดตัวล็อกฝากระโปรงเพิ่มขึ้นอีก 2 ตัวที่ด้านบนและที่มุมขวาหน้ากระจกหน้าได้เสริมไฟสปอร์ตไลท์กลมของ PIAA ตามมาด้วยกระจกมองด้านข้างของอีซูซุ และข้างประตูขวาเป็นที่เก็บไฮลิฟท์แจ็ค ส่วนอีกฝั่งที่เสาหน้าได้แนบสนอร์เกิ้ลของ SAFARI ไว้เพื่อเป็นท่ออากาศ

 

สำหรับด้านข้างที่เผยถึงความบึกบึนเห็นจะเป็นยางดอกโตของ SIMEX รุ่น EXTREME TREKKER ที่มีขนาดไซส์ใหญ่ถึง 35X10.5-15 แบบ MUD TERRIAN ส่วนล้อแม็กเป็นลายห้าก้านแบบออฟเซ็ทลึกมีหมุดยำรอบขอบล้อ และบันไดข้างได้เสริมด้วยท่อกลมไว้กันกระแทก ขณะที่กันชนหลังเป็นของ ARB แบบทรงเหลี่ยมมีไฟเลี้ยวฝังในตัว พร้อมทำเป็นพื้นลายตีนไก่ เพื่อเป็นที่บันไดเหยียบ รวมไปถึงปากนกแก้วไว้ใช้ลากได้อย่างดี และมุมด้านข้างท้ายรถยังเสริมท่อกลมเหล็กไว้ป้องกันด้วย และไฟส่องป้ายทะเบียนเป็นของรุ่น PRADO


ทางด้านขุมพลังเดิมเป็นเครื่องยนต์รหัส 2 B แต่ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ โดยคว้านหาเครื่องในตระกูลเดียวกัน โดยได้เลือกเอาขนาด 4 สูบรหัส 14 B ในแบบที่มีเทอร์โบติดมาด้วย ซึ่งเป็นเทอร์โบของ TOYOTA CT 26 ที่สามารถสร้างกำลังม้าออกมาได้ประมาณ 150 ตัว พร้อมกับเกียร์ธรรมดาแบบ 5 สปีด แต่ก็ต้องทำการตัดต่อเพลาตามระเบียบ

 

ทางด้านช่วงล่างได้ปรับเปลี่ยนด้วยการเทริ์นเพลา โดยสลับแหนบที่เคยอยู่ใต้เพลาขึ้นมาไว้ด้านบนแทน และที่ทำแบบนี้จะช่วยให้ขยับความสูงขึ้นมาได้ พร้อมกับด้านหน้าได้หาช็อกแอบฯคุณภาพของ PROCOMP ES 9000 ปรับความหนืดได้ 5 ระดับ คู่กับช็อกแอบฯกันสะบัดของ PROCOMP เช่นกัน ส่วนด้านหลังต่างรุ่นกันเป็นโช้คอัพของ RANCHO RS 6000 เพื่อมาทำหน้าที่ในการซับแรงสะเทือนในเส้นทางขุรขระได้ดี

 

นอกจากนี้ในส่วนกระบะท้ายยังได้ติดตั้งระบบไฮดรอลิคเข้าไปด้วย ทั้งนี้เพื่อต้องการกระบะท้ายสามารถยกขึ้นได้ หรือเรียกง่ายว่า กระบะดัมพ์ ดังนั้นกระบะท้ายกับแชสชีส์จึงต้องแยกออกจากกัน โดยได้ทำคานขึ้นมารองรับพื้นกระบะ บริเวณหน้ากระบะไม่ยึดกับอะไร แต่ตรงกลางจะยึดกระบอกโช้คไฮดรอลิค ส่วนด้านหลังทำเป็นบู๊ชลูกปืนเพื่อให้สามารถให้ตัวได้ ควบคุมด้วยไฟฟ้าสามารถยกขึ้นได้หลายระดับ


 

สำหรับภายในห้องโดยสารได้มีการปรับแต่งพอสมควร โดยที่บริเวณที่คอนโซลหน้าของเดิมจะเป็นหุ้มหนัง แต่ได้สั่งทำใหม่ให้เป็นไฟเบอร์กลาสดูดีขึ้น พร้อมกับฝังเกจวัดเข้าไปอีก 3 ตัวเป็นของ PRO ซึ่งมีเกจวัดบูสท์ เกจวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง และเกจวัดอุณหภูมิความร้อน แถมด้วยเกจวัด AMPRESS ของ TSK ส่วนหัวเกียร์เปลี่ยนเป็นสไตล์ HKS ทั้งสองอัน และแป้นเหยียบแต่ง

ต้องยอมรับว่าเป็นแลนด์ ครูเซอร์ ในแบบกระบะที่หายาก และยิ่งมาปรับโฉมรอบคันอย่างนี้ จึงดูมาดแกร่งเหมาะที่เป็นตัวลุยได้อย่างสบาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook