"มาสด้า 2" คล่องตัว ขับสนุก และหนึบ

"มาสด้า 2" คล่องตัว ขับสนุก และหนึบ

"มาสด้า 2" คล่องตัว ขับสนุก และหนึบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

ต้องยอมรับวันนี้ มาสด้า 2 ถือว่าเป็นรถที่โดดเด่น ทั้งจากยอดขาย และสิ่งที่เรียกว่าเป็น ทอล์ค ออฟเดอะทาวน์ และอีกอย่าง ก็คือ

อย่างน้อยเมื่อมันวิ่ง อยู่บนถนน เราก็จะเห็นมันเด่นจากสีสันสุดแสบทั้งเขียว ทั้งแดง  

ช่วงรอยต่อปี คุณอุทัย พีอาร์ ใหญ่ จัดมาสด้า 2 ให้ผมได้ลอง หลังจากพลาดทริปน้ำพุ 7 สี ที่เชียงใหม่กับเขาก่อนหน้านี้ ลืมถามว่าเป็นแนวคิดใครที่ใช้น้ำพุเป็นภาษาสัญลักษณ์ ว่า มาสด้า 2 นั้นทำออกมา 7 สี จะได้เอาผ้าเจ็ดสีไปผูกเป็นรางวัล

รุ่นที่ผมรับมาเป็นตัวท็อปสุด Maxx Sports เกียร์อัตโนมัติ ราคา 6.9 แสนบาท และอะไรบ้างที่มีในตัวท็อป แต่ตัวอื่นไม่มี ก็เช่น ยาง 195/45 R16 กระจกมองข้างพับเก็บด้วยไฟฟ้า พวงมาลัยหุ้มหนัง ซีดี 6 แผ่น กุญแจรีโมต และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ หรือระบบที่สามารถเปิด-ปิด สตาร์ท-ดับ เครื่องยนต์ โดยไม่จำเป็นต้องหยิบกุญแจออกมา

ส่วนสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ระบบกันขโมย ถุงลมคู่หน้า รายการเหล่านี้รุ่น spirit sport ก็มีด้วยเช่นกัน

รูปร่างหน้าตาของมาสด้า 2 ผมว่ามีคนพูดกันไปเยอะแล้ว และคิดว่าทุกคนคงมีคำตอบแล้วว่าสวยหรือไม่สวย แล้วแต่ความชอบ มุมมอง ทัศนคติ รสนิยม แต่ส่วนตัวผมว่าเส้นสายคมเข้มดีครับ ดูมีกำลัง ลื่นไหล และก็ช่วยให้ดูตัวไม่เล็ก ยกเว้นถ้ามองจากด้านหลังที่บีบเข้ามา

ก่อนขับมีคนถามผมมากว่ามันเล็กหรือเปล่า นั่งอึดอัดไหม หัวติดหลังคาไหม เพราะการออกแบบที่ทำให้ดูสปอร์ต หลังคาจึงลาดลง ต่างจากผู้นำในตลาดซัพคอมแพคท์ แฮทช์แบ็ค

ผมแทรกตัวขนาดมาตรฐานชายไทยเข้าไปที่เบาะหลัง เมื่อนั่งเข้าที่เข้าทางดีแล้ว พื้นที่บนศีรษะยังเหลือครับ ไม่มากนัก แต่ถามว่าพอไหม พอครับ

ในทางกลับกัน ผมว่าเบาะหลังมีจุดเด่น คือ ความกระชับ และลาดเอียงเหมาะสม นั่งแล้วไม่เมื่อย ไม่ต้องพลิกไปพลิกมาลื่นขึ้นลื่นลง

ส่วนใหญ่ผมขับมาสด้า 2 ในกรุงเทพฯ และออกไปชานเมืองย่านพุทธมณฑล นครชัยศรี สองสามรอบ และออกเดินทางไปต่างจังหวัด 1 ครั้ง ไม่ไกลนัก คือ สุพรรณบุรี ผมบรรทุกเต็มพิกัด มีทั้ง 2 ถึง 5 คน ซึ่งเมื่อนั่งครบทุกที่นั่ง ผมสอบถามแล้วทุกคนก็บอกว่านั่งได้ไม่เมื่อย แม้ว่าพื้นที่ด้านข้างจะแคบไปหน่อย ไหล่ชนไหล่

มาสด้าย้ายคอนโซลเกียร์ไปไว้ร่วมกับคอนโซลหน้า บางคนบอกว่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสาร ระหว่างเบาะนั่งซ้ายขวาให้กว้างขึ้น แต่ผมว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะย้ายไปแล้วก็ไม่ใช้พื้นที่ตรงกลางสักเท่าไร ว่าแล้วก็สรุปเอาเองว่า เป็นเรื่องของมุมมองการออกแบบเท่านั้นเอง

แต่เกียร์อยู่ตรงนั้นผมว่ามันก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะมือทีเดียว ผมขับแล้วก็นึกๆ ว่า ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาน่าจะสนุกไม่น้อย

ตำแหน่งคนขับเบาะนั่งสบาย แต่ว่าตรงตำแหน่งเข่าซ้าย ได้รับผลกระทบจากคอนโซลเกียร์ที่บีบเข้ามาบ้าง แต่ถ้าไม่ใช่คนตัวอ้วนมากมาย ชนิดขาหุบยาก ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่โตอะไรครับ

มาสด้า 2 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 103 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ใช้เชื้อเพลิงออกเทน 91 และใช้ได้ถึง อี 20 เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มาพร้อมกับ เอบีเอส อีบีดี ส่วนเบรกนั้นหน้าดิสก์ หลังดรัม 

น้ำหนักของมาสด้า 2 รุ่นท็อป 1,060 กก. ซึ่งมาสด้าบอกว่ารุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีรีดน้ำหนักออกไปได้ 100 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ซึ่งก็ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์ลงไปได้มากทีเดียว

สมรรถนะของเครื่องยนต์ ผมพูดถึงตอนนั่งกันเต็มๆ เลยดีกว่า สบายๆ ครับ สามารถเร่งแซงได้ไม่เหนื่อย แม้ว่าช่วงความเร็วกลางๆ จะมีจังหวะหน่วงบ้างเล็กน้อย ก็อยู่ที่จังหวะการตัดสินใจของผู้ขับครับ มาสด้า 2 ยังมี ปุ่ม hold เอาไว้ให้ใช้ แต่ผมว่าไม่จำเป็นครับ แค่การคิกดาวน์ก็พอแล้ว

ความเร็วระดับ 150-160 ไม่ใช่เรื่องยาก และการทรงตัวในช่วงนั้นก็ค่อนข้างนิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของมาสด้า 2 เลยทีเดียว รวมไปถึงการเปลี่ยนช่องทางที่ความเร็ว และการขับขี่ในเส้นทางโค้งด้วยเช่นกัน ที่ผมให้คะแนนเหนือกว่าคู่แข่งครับ

จุดเด่นอีกอย่าง ก็คือ การรักษาระดับของตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นช่วงทางโค้ง เร่ง หรือว่าเบรก รถไม่ค่อยมีอาการเอียง หรือหน้าเชิด ท้ายกระดก ทำได้ดีครับในจุดนี้ มาสด้า 2  ค่อนข้างปราดเปรียวทีเดียว การเปลี่ยนทิศทางตอบสนองได้ดีรวดเร็ว จนบางครั้งผมรู้สึกว่าหน้าค่อนข้างไว แต่เมื่อคุ้นเคยแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกเช่นกัน  ผ่านไปกว่า 1,000 กม. อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงตอนนี้ผมมีคำตอบที่จะไปตอบคนที่สอบถามมาแล้ว

นี่ถ้าไม่ลอง ก็ยังไม่รู้ครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook