FORD -MAZDA ร่วมทุน 11,000 ล้านบาท ในออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอรเรชั่น จะร่วมลงทุนมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) ในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ เอเอที ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างฟอร์ดและมาสด้า เพื่อสนับสนุนการผลิตรถกระบะคอมแพ็ครุ่นใหม่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตในกลางปี 2554

 

การลงทุนมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาทนี้ ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในระยะยาวของฟอร์ดและมาสด้าที่มี ต่อประเทศไทย โดยเงินลงทุนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับโรงงานและอุปกรณ์เครื่องมือ ต่างๆ เพื่อการผลิตรถกระบะคอมแพ็ครุ่นใหม่ของมาสด้าและฟอร์ด ทั้งนี้ เมื่อการลงทุนดังกล่าวเสร็จสิ้นลง จะทำให้การลงทุนร่วมกันระหว่างมาสด้าและฟอร์ดในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย มีมูลค่ารวมกว่า 1.85 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.82 หมื่นล้านบาท) นับตั้งแต่โรงงานดังกล่าวเริ่มดำเนินการครั้งแรกในปี พศ. 2538

“การประกาศการลงทุนในวันนี้ นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาเอเอทีให้เป็นศูนย์กลางแห่งการผลิต รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย” มร. โตชิโนริ คุซึฮาชิ ประธานบริหาร บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “การที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเติบโตและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เอเอทีสามารถผลิตและส่งออกรถกระบะและรถยนต์ระดับโลกได้ การลงทุนครั้งใหม่นี้จะทำให้เราสามารถพัฒนาชื่อเสียงของรถกระบะขนาดหนึ่งตัน ในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยต่อไป ได้”

 

ในโครงการลงทุนครั้งนี้ยังมีการจัดสรรทรัพยากรส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในการฝึก อบรมและพัฒนาแรงงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพนักงานของเอเอทีจะมีทักษะในการทำงานที่เหมาะสม และมีมาตรฐานการทำงานในระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการผลิตรถกระบะรุ่นใหม่ดังกล่าว

“การลงทุนในเอเอทีครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงพันธสัญญาในระยะยาวของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ที่มีต่อประเทศไทย ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตทางกลยุทธ์ในการดำเนินงานในระดับโลกของเรา” มร. โจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าว “การทำงานหนักด้วยความทุ่มเทของพนักงานเอเอที และความมุ่งมั่นของผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย จะยกระดับทำให้สายการผลิตใหม่ของ เอเอทีมีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ คุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น”

 

ทั้งนี้ ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีความทันสมัยมากที่สุดในประเทศ ไทยอยู่แล้วนั้น ได้มีส่วนสำคัญในการสร้างมาตรฐานให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ทั่วทั้งภูมิภาคอา เซียน ผ่านการทำงานที่ยึดมั่นต่อคุณภาพในระดับโลก ความมีมาตรฐาน และการรักษาต้นทุนให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้

“การลงทุนครั้งใหม่นี้จะทำให้เอเอทียังคงเป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศด้าน การผลิตรถกระบะคอมแพ็คของทั้งสองแบรนด์ และมีบทบาทสำคัญในแผนกลยุทธ์ระดับโลกของมาสด้า” มร. มาซาฮารุ ยามากิ ตัวแทนผู้อำนวยการ รองประธานบริหาร และผู้ช่วยประธานบริษัทมาสด้า ดูแลด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต จัดซื้อ และคุณภาพ กล่าว

 

เอเอทีประสบ ความสำเร็จในการส่งออกรถกระบะของฟอร์ดและมาสด้า ไปยังประเทศต่างๆ กว่า 130 แห่งทั่วโลก ในปีพ.ศ. 2550 ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ได้เฉลิมฉลองการผลิตรถคันที่ 1 ล้าน นับตั้งแต่โรงงานเริ่มต้นการผลิตครั้งแรกในปีพ.ศ. 2541 โรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งใหม่ที่มีความมันสมัยอย่างมากได้รับการ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2552 และปัจจุบัน ทำหน้าที่ในการผลิตรถมาสด้า 2 และฟอร์ด เฟียสต้า เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และเพื่อส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคอาเซียน และตลาดอื่นๆ