เทียบสเป็ค Mazda 2 และ Honda Jazz ใหม่ อ็อพชั่นใครแน่นกว่ากัน
เปรียบเทียบสเป็คระหว่าง Mazda 2 SKYACTIV-D ใหม่ล่าสุด และ Honda Jazz ใหม่ ลองไปดูว่าเจ้าตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องอ็อพชั่นแน่นสุดๆ หากเทียบกับ Mazda 2 ใหม่ จะเป็นอย่างไร?
Mazda 2 ใหม่นั้น แม้ว่าจะถูกจัดว่าเป็นรถยนต์อีโคคาร์ตามหลักเกณฑ์ใหม่ (อีโคคาร์เฟส 2) แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่แซงหน้ารถยนต์กลุ่มซับคอมแพ็คในตลาดบ้านเราแทบทุกรุ่น จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายของมาสด้า 2 ใหม่ ใกล้เคียงกับกลุ่มรถซับคอมแพ็คมากกว่าที่จะเทียบกับรถอีโคคาร์ในบ้านเรา
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ยกเอา 'Honda Jazz 1.5 SV+' รุ่นท็อปสุด ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์มาตรฐานแบบครบๆในราคา 754,000 บาท เทียบกับ Mazda 2 XD Sports High Plus ตัวถัง 5 ประตู กับราคาที่สูงกว่าเล็กน้อยที่ 790,000 บาท จะเป็นอย่างไร ไปดูกันครับ
มิติตัวถังและเครื่องยนต์
หากมองจากตัวเลขมิติตัวถังและความยาวฐานล้อ จะเห็นว่า Mazda 2 มีความได้เปรียบอยู่เล็กน้อย แต่ Jazz สามารถออกแบบห้องโดยสารภายในได้กว้างขวางกว่า ขณะที่จุดแตกต่างสำคัญก็คือเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5 ลิตร ของ Jazz แม้จะผลิตแรงม้าได้มากกว่า Mazda 2 อยู่ 12 ตัว แต่แรงบิดของ Mazda 2 เยอะกว่า Jazz อย่างชัดเจน ซึ่งแรงบิดนี้จะส่งผลโดยตรงต่ออัตราเร่ง การไต่ขึ้นทางชัน เป็นต้น
อุปกรณ์ภายนอก
ทั้งคู่ติดตั้งไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ฮาโลเจน ขณะที่ไฟท้ายของ Jazz เป็นแบบ LED (ไฟหรี่และไฟเบรก) รวมถึงติดตั้งสเกิร์ตด้านข้างมาให้ด้วย ขณะที่มาสด้าติดตั้งกระจกบังลมหน้าลดเสียงรบกวนมาให้ รวมถึงกระจกกรองแสง UV แต่เชื่อว่าเกือบทุกคนที่ซื้อไปก็คงติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพิ่มเติมอยู่แล้ว
อุปกรณ์ภายใน
ทั้งสองรุ่นติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้อย่างครบครันไม่หนีกันเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นแอร์ออโต้, กุญแจรีโมทแบบอัจฉริยะทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ท, เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เป็นต้น แต่ Jazz เหนือกว่าด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย สามารถปรับอัตราทดได้เอง 7 สปีด, เบาะหลังสามารถปรับเอนได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสาร รวมถึงกล้องมองภาพด้านหลังปรับองศาได้ 3 ระดับ
ขณะที่ Mazda 2 เหนือกว่าด้วยเบาะหนังสลับผ้า หัวเกียร์และพวงมาลัยแบบหุ้มหนัง หน้าจอ Active Driving Display แสดงความเร็วเหนือแผงคอนโซล รวมถึงระบบ i-stop ที่ช่วยดับเครื่องยนต์ขณะรถติดไฟแดง และ i-ELOOP ที่ช่วยสร้างกระแสไฟฟ้านำกลับไปชาร์จไว้ในแบตเตอรี่ สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆภายในรถ ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์ได้อีกทางหนึ่ง
ส่วน Jazz ติดตั้งระบบ ECO Coaching มาให้ ซึ่งจะช่วยควบคุมการขับขี่ให้ประหยัดขึ้นกว่าปกติ
เครื่องเสียง
ทั้งคู่ติดตั้งเครื่องเสียงทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว โดย Mazda 2 ยังมาพร้อม Center Commander ที่สามารถใช้ปุ่มหมุนในการควบคุม รวมถึงช็อตคัทในการเข้าสู่เมนูต่างๆได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถสั่งงานด้วยการสัมผัสหน้าจอโดยตรงได้ ขณะที่ Jazz อาศัยการสัมผัสผ่านทางหน้าจอและปุ่มที่พวงมาลัยเท่านั้น
ทั้งคู่ยังสามารถรองรับการทำงานระบบนำทาง แต่ต่างกันเล็กน้อยที่ Mazda 2 ติดตั้งตัวรับสัญญาณมาให้ แต่ต้องซื้อแผนที่เพิ่มเป็นอ็อพชั่นเสริม ขณะที่ Jazz ใช้วิธีส่งภาพจากโทรศัพท์ iPhone ขึ้นมาแสดงผลบนหน้าจอ
ระบบความปลอดภัย
ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบความปลอดภัยมาอย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ แต่ Jazz เหนือกว่าด้วยถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยมาให้ ส่วน Mazda 2 ติดตั้งแป้นเบรกแบบยุบตัวได้มาให้ ซึ่งช่วยลดการบาดเจ็บบริเวณเท้าหากเกิดการชนขึ้นมา
ทั้ง Mazda 2 และ Honda Jazz ที่เรายกมาเปรียบเทียบในครั้งนี้ มีบุคลิกการขับขี่ และความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างชัดเจน ซึ่งด้วยราคาที่ห่างกันราว 36,000 บาท ก็ขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านแล้วล่ะครับ ว่าลงตัวกับสไตล์ไหนกันแน่
ราคาจำหน่าย
- Honda Jazz 1.5 SV+ ราคา 754,000 บาท
- Mazda 2 1.5 XD Sports High Plus ราคา 790,000 บาท
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ