บุ๋ม ปนัดดา อีกด้านของเธอในลีลานักบิดบิ๊กไบค์

ผู้หญิงสวยกับกิจกรรมท้าความเร็วแบบ 2 ล้อ ดูจะเป็นสิ่งที่ส่วนทางกัน แต่สำหรับผู้หญิงสวยระดับนางสาวไทยอย่างบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นความท้าทายที่รอเธอมาลิ้มลอง

เวลาหนึ่งปีกว่ากับความมุ่งมั่นของ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่หันมาสนใจและเอาจริงเอาจังกิจกรรมยามว่างอย่างการขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ทำให้ในหลายครั้งเราจะเห็นเธอในฐานะของเซเลบบริตี้สาวที่ยืนกระทบไหล่ผู้ชายอกสามศอก ร่วมงานหรือกิจกรรมแบบแมนของผู้ชายที่รักความเร็ว .......

แรกบันดาลใจที่นำพาสาวเก่งคนนี้เข้าสู้วงการบิ๊กไบค์ไม่ใช่อะไรอื่นไกลเลย นั่นคือคุณพ่อของเธอเองซึ่งก็เคยเป็นแชมป์นักแข่งรถแรลลี่ ที่ทำให้เธอได้เห็นและใกล้ชิดกับความเร็วมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิง(สวยซะด้วย) คุณพ่อก็เลยให้ดูอยู่ห่าง เมื่อโตขึ้นมาเธอได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับความเร็วมาทุกรูปแบบ จะเหลือก็แต่ขี่รถมอเตอร์ไซค์

“ทุกอย่าง ทำ เป็นหมดแล้ว เครื่องบินก็ขี่เป็น เรือก็ขี่เป็น รถเก๋งประลองความเร็วได้ไม่แพ้ใคร เหลือแต่ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นก็เท่านั้น”

แล้วเมื่อเธอได้ไปร่วมทริปเที่ยวปายกับเพื่อนๆ ใครๆ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ได้ แต่เธอต้องมานั่งเป็นคนซ้อน ทำให้เธอมีความคิดว่าเธอทำไมขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ และคือสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจจะลองขี่มอเตอร์ไซค์ดูสักครั้ง หากเป็นคนทั่วไปก็คงไปฝึกขี่รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดา.....

แต่สำหรับบุ๋ม ปนันดดา หากเธอคิดจะทำอะไรเธอจะทำแบบสุดๆ หาข้อมูล เข้าคอร์สอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยงานนี้เธอได้ที่ปรึกษาเป็นหนุ่มรูปหล่ออย่างโฬม พัชฏะ ปานนาม ที่จัดว่าเป็นอีกหนึ่งคนวงการบันเทิงที่ชอบเรื่องของมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบท์ หนุ่มโฬมเป็นคนแนะนำให้เธอได้รู้จักอาจารย์โห้ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนการขี่มอเตอร์ไซค์ที่ BRC หลังซีคอนสแควร์ เธอบอกกับเราว่าเธอเริ่มตั้งแต่พื้นฐาน ไล่ระดับตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดา เครื่อง 100-250 cc ก็เปลี่ยนรุ่นมาขี่แบบเกียร์สตาร์ต เริ่มที่ KSR 200 รถแต่งของอาจารย์ แล้วก็ขยับขึ้นมาเป็นแบบเครื่อง 600 cc และใหญ่สุดคือเครื่อง 1300 cc.

เมื่อถามถึงผู้หญิงกับความปลอดภัยในการควบเจ้าม้าเหล็กที่ใหญ่ขนาดนี้ คุณบุ๋มยอมรับว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องธรรมดาของคนขี่มอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นบิ๊กไบต์ที่มีขนาดน้ำหนักมากกว่าตัวเธอเป็นหลายเท่าจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่เกิด แต่เธอบอกว่าจากการที่ได้เรียนรู้อย่างจริงจังนั่นเอง ทำให้เธอรู้เทคนิคที่จะช่วยเซฟตัวเธอจากอันตรายในการควบเจ้าม้าเหล็กนี่ได้ไม่ยาก เธอบอกว่าหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมคนขี่มอเตอร์ไซค์จำพวกบิ๊กไบต์แบบนี้ต้องใส่ชุดหนังหนาๆ ซึ่งเธอบอกว่าเสื้อนี่เองก็มีส่วนช่วยในการเซฟร่างกายเป็นอย่างมาก ยิ่งเธอเป็นผู้หญิงแล้วพละกำลังต่างๆ ย่อมสู้ผู้ชายไม่ได้ การใช้เทคนิคและเรื่องของอุปกรณ์ในเซฟร่างกายก็ช่วยได้มาก

 

ปัจจุบัน กับ บิ๊กไบค์สไตล์ที่ชื่นชอบจะเป็นแนวสปอร์ตเรสซิ่ง ซึ่งเธอก็ไม่เลิฟอะไรมากมีสะสมไว้ใช้แค่ 5 คันเท่านั้นเอง

คันที่ถูกตาโดนใจสุด ก็ต้องเป็นเจ้า Suzuki Hayabusa 1300 cc ปี 09 ที่เธอได้ครอบครองเป็นอย่างถูกกฏหมายเป็นคนแรกของประเทศ เจ้า Hayabusa จึงได้ทะบียนหมายเลข 1 มาเป็นที่ระลึก, ส่วน Kawazaki ZX6R 650 cc ปี 07 เป็นรถที่บอกได้เลยว่ามีที่มาที่พูดไปก็หาว่าคุย เพราะ ZX6R เป็นคันโมเดลที่นำมาโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ในปีนั้น

เมื่อคุณบุ๋มเห็นก็ประกาศเลยว่าคันนี้ต้องเป็นของเธอเท่านั้น ซึ่งทาง Kawazaki ก็ใจดีขายมาให้ ส่วน Kawazaki Ninja 250 cc จำนวน 3 คัน สีดำ ดำแดง เขียว เป็นรถรุ่นเล็กที่เธอซื้อเก็บไว้สำหรับทีม ปนัดดาเรสซิ่ง ของเธอ ซึ่งเป็นทีมแข่งรถมอเตอร์ไซค์ของเธอเอง

1 ปีที่ผ่านมาคุณบุ๋มได้ควบเจ้า บิ๊กไบต์ไปเกือบทั่วประเทศแล้ว ทั้งกาญจนบุรี เชียงคาน ภูเก็ต อรัญประเทศ สำหรับทริปที่ไปไกลสุดก็เห็นจะเป็นการขี่จากอุดรธานีไปหลวงพระบาง สปป. ลาว ซึ่งแต่ละทริปก็จะมีความสนุกและโหดที่ต่างกัน แต่ทุกทริปคือความประทับไปที่คุณบุ๋มได้ไปเยือน ซึ่งนี่แหละคือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้บุ๋ม ปนัดดา หลงใหลในเจ้าม้าเหล็กเจ้าบิ๊กไบต์คันโต......

ข้อมูลเพิ่มเติม

ปนัดดาเรสซิ่ง ความตั้งใจที่ต้องการนำเด็กวัยรุ่นที่ชอบการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนกับการแข่งรถนอกสนาม มาสอนเทคนิคและเดินสายแข่งขันในสนามจริงแบบมืออาชีพ ปัจจุบันมีนักแข่งในสังกัดทั้งหมด 3 คน สามารถติดตามความเลื่อนไหวของ ปนัดดาเรสซิ่งได้ที่ http://www.panaddaracing.com/