วิจัยสหรัฐเผยนักขับเกือบครึ่งเคยหลับใน
ข่าวนี้อาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับใครที่ธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟช่วยให้กระปรี้กระเปร่า แต่ถ้าคุณเป็นคนใช้ถนนแล้วเมื่ออ่านแล้วอาจจะสยองก็เป็นได้ หลังผลวิจัยในต่างประเทศเผยว่ากว่า 41 เปอร์เซ็นต์ของนักขับยอมรับ พวกเขาเคยหลับในคาพวงมาลัย
ไม่เชื่อก็เชื่อว่านี่คือเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นในท้องถนนสหรัฐ แต่ล่าสุดจากรายงานของ AAA Foundation for Traffic Safety ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ทำงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า จากผลการศึกษาทางด้านความปลอดภัยบนถนนล่าสุด พบว่านักขับจำนวนกว่า 41 % ยอมรับว่าพวกเขาเคยหลับในขณะขับรถ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
จากการศึกษาในกรณีเดียวกันยังพบว่า สาเหตุคนขับหลับในนั้นก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากถึง 17 % จากตัวเลขอุบัติเหตุทั้งประเทศ ซึ่งทำให้ปัญหาคนขับหลับในกลายมาเป็นอันตรายที่มีความเสี่ยงสูงบนถนน เช่นเดียวกับการขับรถเร็ว,เมาแล้วขับ และขับรถด้วยความประมาท
ทั้งนี้ผลการวิจัยดังกล่าว นักวิจัยได้ใช้วิธีโทรศัพท์สำรวจกว่า 2000 คน ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมากกว่า 1 ใน 4 ของกลุ่มผู้ใหญ่ระบุว่า "มันเป็นการยากที่พวกเขาถ่างตาขับรถให้ถึงที่หมายในช่วงเดือนที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ดี ในกลุ่มผู้ขับที่มีอายุ 16-24 ปี ระบุว่าพวกเขาเคยหลับในในช่วงปีที่ผ่านมาเช่นกัน และจากผลสำรวจก็ยังระบุว่าผู้ชายมีโอกาสหลับในมากกว่าผู้หญิง และกว่า 56% ของผลสำหรวจดังกล่าว ผู้ขับมักบอกว่า พวกเขาจะหลับในก็ต่อเมื่อวิ่งบนทางหลวงที่ถนนหลายๆ เลน
Sanook Auto Comment
นี่เป้นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับรถของคนในสหรัฐ ที่แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ก็เพียงพอที่จะสามารถอ้างอิงเกี่ยวกับความจริงในสังคมบนถนนได้ ทั้งนี้หากคุณขับรถแล้วง่วงมากๆ ควรรีบจอดพักเอาแรงสักเล็กน้อย ดีกว่าหลับในคาพวงมาลัย เพราะคุรไม่มีวันรู้หรอกว่า แบตร่างกายจะหมดเมื่อไรกันแน่