คนกทม.เตรียมใจ ปีหน้าน้ำมันในเมืองเพิ่มอีก 5 ส.ต.
ทุกวันนี้น้ำมันก็แพงกันอยู่แล้ว จนมีหลายท่านหันไปใช้พลังงานทางเลือกติดแก๊ส ที่แม้จะประหยัดแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเสียสุขภาพ เช่นเดียวกันกับการเสื่อมสมรรถนะที่ไวขึ้นของเครื่องยนต์ที่ต้องซ่อมบำรุ่งกันบ่อยเสียหน่อย
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำมันมันมีการปรับตัวสูงขึ้นอีกว่า 60 สตางค์ บางเจ้าก็ขยับไปบาทกว่า และเป็นสัญญาณใกล้วิกฤติ หากน้ำมันดีเซลแตะ 30 บาท กองทุนน้ำมันจะมีภาระหนี้เพิ่ม หลังจากทีโดนบ่นอุบจากผู้ใช้แก๊สให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าพลังงานด้วย เพื่อรอการปรับโครงสร้างราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะมีการเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในปีหน้า โดยแยกค่าใช้จ่ายพลังงานทางด้านภาคยานยนต์ ออกจากภาคครัวเรือน สำหรับแก๊ส หุงต้มหรือ LPG ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ ในฐานะพลังงานทดแทน
แม้นี่ดูเหมือนจะเป็นการหนีเสือปะจรเข้ แต่ฝันร้ายคนใช้รถยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อล่าสุดเขตเมืองหลวงที่มีศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเป็นพ่องานในการจัดเก็บรายได้ เปิดเผยว่า กทม.จะขยายฐานภาษี 3 ชนิดเพิ่มเติมจากปัจจุบัน และหนึ่งในนั้นก็คือภาษีน้ำมัน ที่มีกำหนดการณ์จะเริ่มในช่วงต้นปีหน้า
"นับจากนี้อีก 4 เดือนจะมีการเริ่มจัดเก็บภาษีจากน้ำมัน ซึ่งเป็นไปตามตามพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจาย อำนาจสู่หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ที่ให้อำนาจหน่วยงานท้องถิ่นต่าง ๆ จัดเก็บได้ แต่ที่ผ่านมา กทม.ยังไม่ได้จัดเก็บ ขณะที่ท้องถิ่นอื่น ๆ จัดเก็บไปแล้วตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งขณะนี้ระเบียบดังกล่าว อยู่ในระหว่างรอสภากทม.ให้ความเห็นชอบร่างข้อบัญญัติ กทม.เกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ภาษีน้ำมัน และเมื่อผ่านตามกระบวนการและก็จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และใช้ปฏิบัติจริง"
สำหรับอัตราภาษีที่จะมีการจัดเก็บเพิ่มในส่วนของภาษีน้ำมันนั้น ทางกทม.จะมีการจัดเก็บเต้มเพดานตาม พระราชบัญญัติบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 กำหนดไว้ คือ 5 สตางค์/ลิตร ซึ่งจะทำให้ทางกทม.มีรายได้เพิ่มกว่า 500 ล้านบาทต่อปี หากปริมาณการใช้น้ำมันอยู่ที่ 10,000 ล้านลิตร ซึ่งปัจจุบัน ในเขตกรุงเทพมีสถานีบริการน้ำมันกว่า 800 แห่ง ที่จะต้องมีการจัดเก็บตามระเบียบดังกล่าวเมื่อมีการประกาศใช้
นี่เป็นเรื่องใหม่ที่หลายคนควรจะทราบถึงอนาคตของทิศทางราคาน้ำมัน ที่จะรังแต่เพิ่มขึ้น ซึ่งการจัดเก็บดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบส่งผลกระทบต่อราคาจำหน่ายปลีกบ้างเล็กน้อย แต่เราก็หวังว่าเมื่อ กทม. มีรายได้เพิ่ม ก้ควรจะมีการพัฒนาที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ภาพประกอบบทความจาก Gettyimages.com
Sanook! Auto Comment
การจัดเก็บเพิ่มอีก 5 สต.ต่อลิตร ถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่มากเลยเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน ที่มีการราคา 30 กว่าบาทไปแล้วนั้น ทั้งนี้การจัดเก็บตามาระเบียบดังกล่าวจะมีขึ้นเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น ซึ่งน่าจะเริ่มในช่วงปีหน้า ที่กองทุนน้ำมันจะตัดแก๊สออกไปลอยตัวตามตลาดโลก ตามที่เคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้