เจาะกึ๋น Toyota Prius จิตวิญญาณไฮบริดตัวจริงใช่เพียงคำโฆษณา
ช่วงนี้กระแสรถยนต์ hybrid ดูจะแรงขึ้นพอสมควรหลังจากทางค่ายโตโยต้าได้มีการส่งรถไฮบริดในตำนานแนะนำสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาที่บางคนก็ว่าเหมาะสมบางคนก็ว่าแพงไปนิด แต่ไม่ว่าวันนี้คุณคิดอย่างไรกับรถเครื่องยนต์ไฮบริดของโตโยต้า วันนี้ได้เวลาที่เรามากระชากของดีที่จะทำให้คุณรู้ว่า รถรุ่นนี้คุ้มที่จะจ่ายหรือไม่
Toyota Prius Hybrid ที่วางจำหน่ายในบ้านเรานั้น รถรุ่นนี้เป็นรถรุ่นที่ 3 ของตำนานเครื่องยนต์ไฮบริด ที่โตโยต้าใช้เวลาพัฒนาใต้ร่มผ้ามานานนับ 10 ปี ก่อนจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1997 ที่นำเครื่องยนต์ 1NZ มาพัฒนาขับเคลื่อนคู่กับระบบไฟฟ้าในรหัส 1NZ-FXE แล้วใช้บล็อกนี้สืบมาจนในเจนเนอร์เรชั่นที่ 2 ที่ค่ายรถยนต์นำเข้าบ้านเรา เริ่มนำเข้ามาในราคาระดับกว่า 3 ล้านบาท เมื่อสัก 5-6 ปีที่แล้ว
การออกมาเปิดตัวของ toyota Prius ในโฉมรถประกอบในบ้านเรานั้น ถือเป็นหมากเกมที่สำคัญ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อค่ายรถยนต์ Toyota ต้องการฉีกจาก honda ซึ่งตลาดไฮบริดนั้นเป็นตลาดที่คนจำนวนมากพร้อมที่จะควักประเป๋าจ่ายเพียงเพื่อได้ เทคโนโลยีสุดล้ำและความสะดวกสบายที่ควบคู่กับความหรูหราเล็กน้อยๆ
ข่าวคราวเรื่องการที่โตโยต้าเริ่มผลิต Prius ในประเทศ เริ่มหลุดออกมาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ที่มีการกล่าวอย่างไม่เต็มปากจากผู้บริหาร รวมถึงจากเหล่าฝ่ายเทคนิค ที่ต้องมีการรองรับรถที่กำลังจะมาใหม่ โดยเฉพาะ เมื่อการหันมาเอาจริงจังกับรถไฮบริด ที่ถึงขนาด นำรถที่ขายทั่วโลกลองมาเดินตลาด งานนี้โตโยต้าของหวังตอกตะปูปิดฝาโลงคู่แข่งไปเลย
Toyota Prius ในเจนเนอร์เรชั่นที่ 3 นั้นยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นรถรุ่นนี้ ที่ไม่เหมือนใครในค่ายโตโยต้าด้วยรูปทรงที่เรียกว่า 5 ประตูท้ายลาดหรือ Lift Back ซึ่งได้รับอิทธิพลจากบรรพบุรษในเจนเนอร์เรชั่นที่ 2 ของรถตระกูลนี้
รถรุ่นนี้ถูกพัฒนาอย่างมากทางด้านรูปทรง โดยเฉพาะเมื่อรถไฮบริดเกิดมาเพื่อประหยัดเทคโนโลยีหลักอากาศพลศาสตร์ จึงถูกแฝงไว้ทุกอณูของบอดี้รถ เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าที่เส้นสายนั้นถูกขลับให้ค่อนข้างโค้งมลไร้จุดเหลี่ยม เพื่อประสิทธิภาพในการแหวกอากาศให้มีความลู่ชมมากยิ่งขึ้นที่มีค่าเสียดทานเพียง 0.25 เท่านั้น ก่อนที่เส้นสายตัวถัง จะถูพลัดไปทางด้านข้างผ่านตัวถัง 4 ประตูขนาดคอมแพ็ค ท้ายสั้น ที่แรงสัมประสิทธิ์ลมดูดทางตอนท้าย ช่วยให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับบนหลังคาที่ออกแบบให้มีความโค้งเว้า ซึ่งลักษณะท้ายลาดของ Prius นั้น มีส่วนช่วยให้แรงลมมีความเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยสร้างแรงกด และไล่ลมออกทางด้านข้างหลังได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ไม่เพียงเท่านี้รายละเอียดการออกแบบนั้นยังมีมากมายรวมไปถึงล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้วที่ติดตัวออกมาจากโรงงานนั้น ดีไซน์ที่พิเศษของมันช่วยลดแรงเสียดทานและลมหมุนในซุ้มล้อ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะการประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ในดีไซน์ภายนอกวิศวกรยังให้เอกลักษณ์สุดพิเศษกับ toyota Prius ด้วยชุดโคมไฟหน้าและไปท้ายที่มาพร้อม ไฟแบบ LED ที่ใช้พลังงานต่ำแต่ยังความลงตัวในรูปลักษณ์สปอร์ต
ห้องโดยสาร toyota Prius ได้รับการออกแบบให้มีความลงตัวในความสะดวกสบายและทันสมัย ที่ให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามความต้องการ ความอเนกประสงค์ของรถนั้นมีมากมายหลายหลาก เริ่มจากเบาะหลังที่พับได้ในอัตรา 60:40 พร้อมประตูท้ายลาดที่เปิดง่าย และเมื่อรวมการพับเบาะแล้ว เจ้า Prius ก็จะมีพื้นที่เหลือเฟืองให้ขนของ หากต้องการใช้งานหนัก
เรื่องความสบายนั้น ก็ดีเยี่ยมเป็นเลิศ ด้วยแนวคิดปฏิวัติมิติภายในห้องโดยสาร ที่มีการดีไซน์ เบาะนั่งผู้โดยสารให้มีความพิเศษไม่เหมือนรถรุ่นอื่น ทั้งยังมีการเพิ่มพื้นที่ระยะห่างระหว่างเบาะหน้าและเบาะหลัง หรือช่วง Leg room ทำให้คนตัวใหญ่ หรือขายาวนั่งได้สบายไม่อึดอัดนัก
ในส่วนของความบันเทิงคงไม่ต้อพูดถึงมากเพราะเครื่องเสียงชั้นดี ที่สามารถให้คุณเลือกเล่นได้สูงสุดมากถึง 6 แผ่น พร้อมความกระหึ่มลำโพง 8 ตัว(รุ่นท๊อปเท่านั้น) โดยรอบห้องโดยสาร พร้อมความสะดวกสบายกับเบาะหนัง (รุ่นท๊อป) ที่หากคุณเป็นคนขับก็จะพบว่าระบบ Keyless Entry พร้อมระบบ Push start ที่เพียงเหยียบเบรคก็สามารถสตาร์ทเครื่องได้นั้น ทำได้แสนง่าย และคุณจะลืมมาตรวัดแบบเชยๆไปได้เลย เพราะในความไฮเทคของโดยสารใน Prius จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล พิเศษ ที่แสดงโหมดในการขับไปจนถึง ความเร็วและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
เรื่องความปลอดภัยทางค่ายโตโยต้าก็อัดมาให้เต็มปรี่ยาวเป็นหางว่าว เริ่มตั้งแต่ระบบทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีหรือ TRC และเมื่อเบรคก็มั่นใจได้กับระบบป้องกันล้อล็อค ABS ที่เสริมการกระจายแรงเบรคด้วยระบบ EBD และพร้อมรับแรงกระแทกเมื่อยามฉุกเฉินกับชุดถุงลมนิรภัยรอบคัน มากกว่า 7 จุด ซึ่งมีมากกว่าในรุ่นใหญ่อย่าง Toyota Camry Hybrid และยังมี Active head rest ที่ช่วยลดการบาดเจ็บกระดูกต้นคอได้
ทีนี้ก็มาถึงสิ่งที่หลายคนเฝ้าถามเรากับระบบไฮบริด ที่ถือเป็นจุดเด่นที่สุดในรถยนต์รุ่นนี้ และโดยมากคนที่เลือกซื้อ Prius ที่ได้ข่าวมาว่าตอนนี้ยอดจองล้นทะลักจนการส่องมอบรถยาวไปถึงช่วงต้นปี 2554 กันแล้ว
ระบบ Hybrid ที่อยู่ในโตโยต้า Prius นั้นเป็นระบบแบบที่เรียกว่า Power Splits หรือทำงานโดยให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือว่า ระบบจะทำงานสอดประสานกัน และสามารถแยกโหมดการทำงานระหว่างกันได้ ซึ่งใน Toyota Prius คุณสามารถเลือกโหมดการทำงานได้ โดยแยกเป็น EV,ECO และ Power ซึ่งจะทำงานดังต่อไปนี้
โหมด EV รถจะใช้กำลังหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทำให้รถมีความเงียบนิ่ม โดยใช้พลังงานจากแบตเตอร์รี่ไฮบริดเพียงอย่างเดียว เหมาะกับการใช้ขับเคลื่อนในย่านความเร็วต่ำ หรือ รถติด ซึ่งไม่ต้องการความเร็วในการขับเคลื่อน
โหมด Eco ในภาวะการทำงานของโหมดนี้ ระบบจะทำงานโดยใช้การสอดประสานกันของระบบเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะคำนวนให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด และคุ้มค่าที่สุด โดยระบบส่งกำลังไฟฟ้าของรถจะเลือกใช้พลังงานเองจากมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ เครื่องยนต์
โหมด power ในการทำงานโหมดนี้ ระบบจะทำการเรียกพลังเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเต้มกำลังมาทำงานร่วมกัน ซึ่งจะทำให้รถมีพละกำลังที่เหนือชั้น มากกว่า
แน่นอนเครื่องยนต์ Atkinson Cycle ขนาด 1.8 ลิตร มีพละกำลังติดตัว 99 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร อาจจะถูกมองว่ารถคันนี้อาจจะขับไม่สนุกก็เป็นได้ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นระบบเครื่องยนต์ไฮบริด ที่ต้องมีการทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งตัวมอเตอร์ไฟฟ้าก็มีกำลังอีกว่า 82 แรงม้า และแรงบิด 207 นิวตันเมตร
เมื่อเรามองถึงระบบการทำงานของรถไฮบริดโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อแตกต่างอย่างชัดเจนจากตัวพี่คือระบบส่งกำลังของ Toyota Prius ที่ไม่ซ้ำใคร กับระบบเกียร์ไฟฟ้า ที่ใช้งานง่ายเหมือนจอยสติ๊คเล่นเกม และจะคืนตำแหน่งอัตโนมัตินั้น ทำให้รถรุ่นนี้มีความเป็นไฮบริดที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อมองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากการสามารถเลือกส่งกำลังได้ตามต้องการใช้งานง่าย ถือว่าลงตัวอย่างยิ่ง
สิ่งที่เราได้พูดมาทั้งหมดนั้น คุณจะสามารถพบได้ใน Toyota Prius เท่านั้น และแม้ราคามันอาจจะใกล้เคียง Camry และมีหลายคนที่ถามเรามาว่า Camry Hybrid ไม่ดีกว่าหรือกับราคาบวกอีก 4 แสนบาท ได้รถใหญ่กว่าด้วย ทว่า ถ้าศึกษาโดยลึกๆ ดีๆ คุณก็จะพบความแตกต่างว่า รถที่เกิดมาเป็น hybrid กับรถที่ดัดแปลงเป็น hybrid นั้นมันมีสิ่งที่ขาดออกไปนั้น คงไม่พ้นเรื่องจิตวิญญาณแห่งเทคโนโลยี
Sanook! Auto Comment
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นถือเป็นเรื่องที่อาจจะลึกไปหน่อยสำหรับบางคนแต่เราอยากจะชี้ให้เห็นว่า นี่เป็นรายละเอียดที่บางคนไม่ได้ใส่ใจและเห็นว่าเพียงดูราคาเปรียบเทียบแล้ววิพากษ์วิจารณ์ กันไปต่างๆนานา โดยที่ไม่ได้ศึกษาอย่างถี่ถ้วน
สำหรับข่าวล่าสุดของ Toyota Prius นั้น เราสืบมาว่า สิ่งที่แตกต่างกว่าอีก 7 หมื่น ในระหว่างรุ่น Standard กับ รุ่นท๊อปนั้น คือ เบาะผ้าและชุดเครื่องเสียง ซีดี 6 แผ่น ซึ่งเรายังไม่แน่ใจว่ารถรุ่นนี้ถ้าไม่มีเครื่องเสียงจะเป็นเช่นไรกัน
อย่างไรก็ดีใครที่สนใจจะซื้อหามาขับ เรามีราคาขายคร่าวๆจากตัวแทนจำหน่ายมาฝาก ด้วยยอดค่าจ่ายออกรถรวมแล้ว อยู่ที่ 1,319,000 บาท (รุ่นท๊อป) รวมประกันภัย-ค่าจดทะเบียน วงเงินดาวน์ที่ 25% ยอดจะอยู่ที่ 329,750 บาท ยอดจัดไฟแนนซ์อยู่ที่ 989,250 บาท ค่าใช้จ่ายในการผ่อนนั้น จำนวน 48 เดือน ตกเดือนละ 18,383 บาท (ดอกเบี้ย 2.3%) ส่วน 60 เดือนผ่อนเดือนละ 15,883 บาท (ดอกเบี้ย 2.3%) เช่นกัน
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ