10 สุดยอดรถแพงปี 2011 ...ที่เศรษฐียังร้องจ๊าก!!
นี่ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงเวลาปีใหม่กันแล้ว เป็นเมืองนอกหน่อยไม่ได้นะเดือนหน้าหยุดงานกันแบบว่า แทบทั้งเดือน สบายจริงๆ และแน่นอนเหมือนที่เราเคยพูดว่า ช่วงเวลานี้เป็น ห้วงที่ชอบมีการจัดอันดับต่างๆ จากหลายๆค่าย และ ในปลายปีแบบนี้ ก็มีการจัดอันดับรถที่แพงหูฉี่ประจำปี 2011 กัน
การจัดอันดับรถแพงนั้น แน่นอนว่า มันจะต้องเป็นศูนย์รวมของรถสปอร์ตหรือรถหรูมูลค่าหลายล้านบาท ที่คนอย่างเราๆ ท่านๆ อาจจะไม่มีวันได้สัมผัส ทว่า รถทั้ง 10 คัน ที่ถูกหวยสักครั้งต้องไปซื้อนั้น มีอะไรบ้างวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมกัน
อันดับที่ 10 SC Ultimate Aero
เจ้าสถิติความเร็วตัวยง 412 กิโลเมตรที่ถูกบันทึกไว้ได้โดย กินเนสบุ๊คนั้น คงไม่ใช่รถที่ใครจะสัมผัสได้ง่ายๆ เพราะมันมีค่าตัวถึง 740,000 ดอลล่าร์ นี่ยังไม่นับค่าดูแลรักษาที่ต้องการเป็นพิเศษ และแม้มันจะเริ่มแก่ไปนิด แต่ความเก๋าของมันนั้น ยังมีอยู่กับสถิตเจ้าความเร็วที่เพิ่งโดน Bugati Veyron Super Sport ลบไปในปีนี้
อันดับที่ 9 Leblanc Mirabeau
ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามเข้ามาในอันดับนี้ กับรถที่เป็นสปอร์ตดิบๆ แต่ราคาแพงเหลือร้ายกว่า 765,000 ดอลล่าร์ Leblanc Mirabeau นั้นเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดหน้าต่างไร้กระจก ให้ความดิบดุดัน ด้วยเครื่องวางกลางขับหลัง ตามสไตล์การแข่งขันรถ Le-mans ซึ่งรถรุ่นนี้พกแรงม้ามากว่า 700 ตัว ทางด้านหลังคุณ รับรองไม่มีวันไปทำงานสายๆแน่ๆ
อันดับที่ 8 Koenigsegg CCX
ขยับกันขึ้นมาอีกนิดสำหรับรถสปอร์ตมูลค่า 7 หลัก กับ Koenigsegg CCX ที่มีมูลค่ากว่า 1.1 ล้าน ดอลล่าร์ ค่าตัวที่แพงแลกกับอัตตราเร่ง 0-100 กม/ชม ในเวลาเพียง 3.2 วินาที และ ใน 9.8 วินาที มันก็สามารถพาคุณถึงความเร็วที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดของรถรุ่นนี้มีรายงานว่าสามารถทะลุเพดานได้กว่า 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
อันดับที่ 7 Koenigsegg CCXR
ค่าตัว 1.3 ล้านดอลล่าร์ กับเวอร์ชั่นเพิ่มความแรงของ Koenigsegg CCX นั้นถือเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับเศรษฐี โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์ V8 พร้อม Supercharger สามารถทำแรงม้าได้กว่า 806 เมื่อคุณเลือกใช้ ออกเทน 98 แต่ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้รองรับการใช้งานของ E85 และ E 100 ซึ่งเมื่อได้รับน้ำมันดังกล่าวนั้น มันจะมีพละกำลังกว่า 1,018 แรงม้า เลยทีเดียว
อันดับที่ 6 Maybach Landaulet
Maybach Landaulet ที่มาพร้อมค่าตัว 1.4 ล้านดอลล่าร์นั้น มันอาจจะไม่ใช่ รถสปอร์ตพันธุ์แรงมากมายเหมือนที่ผ่านมาแต่น่าสนใจด้วยความหรูหราและแน่นนอนขุมพลัง V12 พร้อมแรงม้า 612 แรงม้านั้น อาจมองไม่คุ้มค่ากับที่จะจ่าย แต่ถ้าคุณรู้ว่ารถรุ่นนี้หรูเพียงใด คงอาจจะไม่ปฏิเสธที่จะอยากได้มัน
อันดับที่ 5 Lamborghini Reventon
เจ้ากระทิงดุ ชื่อแปลกๆ ผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 20 คัน พร้อมค่าตัวสุดแพงกว่า 1.42 ล้านดอลล่าร์นั้น เป็นอะไรที่หลายคนคงชอบ และแน่นอน ค่าตัวที่แสนแพงมาพร้อมความแรงจากเครื่องยนต์ V12 ที่ทะยานได้ว่องไว และคล่องตัวในทุกสมรรถนะการขับขี่กับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
อันดับที่ 4 Lamborghini Reventon Roadster
เจ้ากระทิงดุพันธ์แรงเวอร์ชั่นโรดสเตอร์นั้น ตามมาติดๆ และมันขึ้นนำในเรื่องความแพงกว่าเวอร์ชั่นธรรมดา สูงถึง 1.56 ล้านดอลล่าร์ และทุกอย่างมีความสวยงามมากกว่าเดิม จนน่าหามาใช้สักคัน
อันดับที่ 3 Roadster Pagani Zonda Cinque
อีกหนึ่งสปอร์ตพันธุ์แรงแดนมักกะโรนี ที่แพงและความแรงที่ไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว ค่าตัวกว่า 1.8 ล้านดอลล่าร์ของ Roadster Pagani Zonda Cinque ความแพงที่สุดแสนจะบรรยายนี้มาจากเครื่องยนต์ V12 ที่บรรจุเอาไว้ในรถให้แรงม้าเพียง 678 แรงม้า แต่มีความแรงในระดับ 0- 100 กม/ชม ในเวลาเพียง 3. 4 วินาที และความเร็วปลายให้คุณได้สะใจกว่า 349 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อันดับที่ 2 Bugatti Veyron Grand Sport
เจ้าVeyron ยังคงแพงเหมือนเคยและครองตำแหน่งในอันดับ 2 ในปีนี้กับค่าตัวระดับ 2 ล้านดอลล่าร์ ที่ไม่ใช่จะเป็นเจ้าของกันง่ายๆเสียด้วย เรื่องสมรรถนะความแรงระดับเจ้าสถิติโลกความเร็วปัจจุบันนั้น คงไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าคุณซื้อเวย์รอนมาขี่ แน่นอนคุณต้องชอบความเร้วและทันสมัย บวกกับความหรูหราของมัน
อันดับที่ 1 Koenigsegg Trevita
แพงที่สุดและหาตัวจับยากที่สุดกับค่าตัว 2.21 ล้านดอลล่าร์ ถือว่าไม่ใช่อะไรที่แพงถ้าคุณกำลังมองหารถหายากที่สุดรุ่นหนึ่งบนถนนกับเจ้า Koenigsegg Trevita ที่เป็นรุ่นพิเศษกว่าเดิม 1,018 แรงม้า จากรุ่นปกติคงเป็นอะไรที่ไม่สามารถพบได้บ่อยนักจากเครื่องยนต์ V8 และแน่นอน มันพิเศษจริงๆ
ที่มาจาก ToptenThailand
Sanook! Auto Comment
ถ้าดูดีๆ เราจะพบว่ารถแพงประจำปีนี้นั้น เราไม่เห็นเฟอร์รารี่มาขึ้นโผกันเลย ซึ่งนั่นบ่งบอกถึงอะไรบางอย่าง ที่ทางเฟอร์รารี่ขวัญใจรถในฝันของหลายๆคน อย่างไรก็ดี รถที่แพงแบบนี้เราอาจจะไม่ได้มีโอกาสสัมผัส แต่เราหวังว่าสักวันคงจะได้มีโอกาส