รถแห่งชาติ วาระใหม่ที่คนไทยอยากให้เกิด

ทุกวันนี้ที่การแข่งขันรถยนต์ในบ้านเราทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ที่ในศึกโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ ทุกค่ายต่างก็เดินหน้าเทกระจาด อยากให้ยอดขายตัวเองทะลุตามเป้า แม้บางเจ้าจะมีการทะลุเป้าไปแล้วตามความคาดหมายนั้น แต่ว่า นี่เป็นช่วงเวลากอบโกยหลังจากการเมืองบ้านเรา ทำเอาเศรษฐีเงียบเหงามาหลายปี

บรรยากาศที่ชื่นมื่นนี้ ทำให้เราหันมามองสิ่งที่อยู่รอบตัวที่อดไม่ได้ที่จะกล่าวถึง รถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย ซึ่ง ในชั่วโมงนี้ที่รัฐบาลกำลังปั้นบ้านเราให้เป็น detroit of Asia และสนับสนุนให้ค่ายรถยนต์หลายๆ เจ้า เข้ามาตั้งโรงงานผลิต ทำตลาด ในประเทศนั้น ทว่ามีอย่างหนึ่งที่คงจะลืมไปว่า เราจะเป็นแค่คนประกอบรถทำไม ในเมื่อศักยภาพคนไทยนั้น สามารถทำรถขายได้เอง...

ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน แม้จะมีการกล่าวว่า การที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายๆ เจ้าต่างมาลงทุนเปิดโรงงานในไทยและผลิตสินค้ามาขายในบ้านเรานั้น มันเป็นรถยนต์จากแรงงานไทยเพื่อคนไทยเช่นกัน แม้คำกล่าวดังกล่าวอาจจะเป็นจริง แต่สิ่งที่น่าคิดคือ คนไทยมีความสามารถ ทำไมไม่มีรถยนต์ยี่ห้อของคนไทยออกมาบ้าง เหมือนดั่งที่เพื่อนบ้านทางใต้ของประเทศเรามีและยังนำมาจำหน่ายในบ้านเรา

แน่นอนการสร้างรถหนึ่ง 1 รุ่น เพื่อการจำหน่ายไม่ได้ใช่เงินทุนน้อยๆ และการลงทุนตั้งต้นบริษัทรถยนต์ขึ้นมาสักบริษัทนั้นก็ต้องใช้ความสามารถเช่นเดียวกับการตลาดที่เฉียบคม ซึ่งเมื่อมามองถึงความเป็นจริงของสภาวะการแข่งขันในตลาดปัจจุบันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่รถยนต์คนไทยจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมหากขาดแรงสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐบาล

ส่วนหนึ่งเราต้องมองถึงพฤติกรรมผู้บริโภคของคนไทยเองด้วย โดยเฉพาะคนอย่างเราๆท่านๆ ที่มีนิสัยยังนิยมของแบรนด์เนมกันอยู่มาก ซึ่งจะยังสังเกตได้จากยอดจำหน่ายรถยนต์ของ 2 ยักษ์ใหญ่ตลาดรถยนต์ที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน และความจงรักภักดีในแบรนด์ของคนไทย นั้นค่อนข้างมีสูง ทำให้หากรถคนไทยเกิดขึ้นมา ในเรื่องขั้นตอนการผลิตคงไม่ยากเท่าไรนัก แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือเมื่อผลิตออกมาแล้วนั้น จะมีสักกี่คนที่กล้าควักกระเป๋าจ่าย ขับรถที่เพื่อนร่วมชาติที่ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมา

ความจริงแล้วรถคนไทยไม่ใช่ว่าไม่มีเอาเสียเลยและในอดีตจวบจนปัจจุบันก็มีเกิดขึ้นมาบ้าง อย่างบริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ที่นำรถยนต์จากค่ายยักษ์ใหญ่มาดัดแปลงให้มีความอเนกประสงค์เพิ่มมากยิ่งขึ้น แล้วเปิดขายให้คนไทยได้สัมผัส ถึงยนตรกรรมจากคนไทย

ประวัติความเป็นมาของบริษัทไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์นั้น เดิมทีเป็นบริษัทไทยรุ่งวิศวกรรมจำกัด ที่มีแกนนำเจ้าแห่งการดัดแปลงรถกระบะเมืองไทย นายห้างวิเชียร เผอิญโชค เป็นผู้ก่อตั้ง โดยทำการเปลี่ยนแปลงรถกระบะธรรมดาๆ ให้มีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น เหมาะแก่การใช้งานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการทำตัวถังสเตชั่นแวกอนเมื่อสัก 10-20 ปีที่แล้วทำให้ไทยรุ่งเป้นที่รู้จักในฐานะรถจากความสามารถของคนไทยมากขึ้น

รถไทยรุ่งเป็นที่รู้จักของคนไทยมาอย่างช้านาน และจวบจนถึงทุกวันนี้ก็เกือบ 50 ปี แห่งการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ทว่าจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถครองใจคนไทยให้ติดและเลือกซื้อรถได้อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้รถของคนไทยนั้นกลับไม่ก้าวหน้าอย่างที่ควรจะเป็น

ถ้ามองต่อไปเราก็จะพบว่าคนไทยไม่ใช่สามารถผลิตรถยนต์ 4 ล้อได้ เท่านั้น แต่ยังสามารถผลิตรถมอเตอร์ไซค์ ออกจำหน่ายได้อีกด้วย ภายใต้ชื่อแบรนด์ tiger ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนสีกากี (ในฐานะรถสวัสดิการ)

ความเป็นมาของจักรยานยนต์ ไทเกอร์ 2 ล้อ โดยคนไทยเพื่อคนไทย เริ่มขึ้นมา 10 แล้ว เมื่อมีกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ในประเทศไทย เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ ในการจับชิ้นส่วนต่างๆ รวมเป็นรถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ก่อนที่ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Show ครั้งที่ 23

ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ที่จัดจำหน่ายในปัจจุบันนั้นกว่าครึ่งมาจากแบรนด์ honda ตามด้วย Yamaha -Kawasaki และ อื่นๆตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารถโดยคนไทยนั้นยังไม่เป็นที่ติดตลาดตามอย่างที่ควรจะเกิดขึ้น เมื่อรัฐบาลมีเป้าหมายที่อยากจะปั้นชาติไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ระดับโลก

ทั้งนี้คงถึงเวลาที่เราต้องมองถึงความเป็นไปได้ในการสร้างแบรนด์รถยนต์ของคนไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะรัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่อยากให้ประเทศไทยก้าวหน้าสู่ความเป็นเลิศทางด้านผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก แต่วันนี้เรายังเป็นแค่แรงงานประกอบรถยนต์ให้ฝรั่งตาน้ำข้าวเท่านั้นเอง!!!

 

Sanook! Auto Comment

 

เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ ถ้าคุณรู้ว่า รถที่คนไทยคิด ไทยทำ มีมานานเกือบ 50 ปีแล้ว แต่มันยังไม่ได้รับความนิยมอย่างที่ควรจะเป็น เราต้องยอมรับครับว่า คนบ้านเราเก่งเกินความรู้ อย่างล่าสุดที่มีการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานน้ำได้ แต่การเกิดเป็นกลุ่มเล็กๆนั้น ไม่ได้ช่วยให้คนไทยแข็งแกร่งพอที่จะมีรถยนต์เป็นแบรนด์ของตัวเองได้ หากแต่พวกเราต้องช่วยกัน โดยเฉพาะแรงสนับสนุนจากคนในชาติ หากวันหนึ่งวาระรถแห่งชาติ เกิดสำเร็จเป็นรูปธรรมขึ้นมา