Accoord 2.0 EL Navi (Minor Change) Bangkok to Kho chang
Honda ปรับทัพอีกครั้งช่วงโค้งสุดท้าย..รับเทศกาลโชว์รถปลายปี 2010 ด้วยการจับพี่ใหญ่ในคลาสของ Mid-Size Sedan คันเก่งอย่าง Accord ในรุ่น 2.0 ลิตร มาแต่งหน้าทาปากเพิ่มสีสันและความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค
แน่นอนว่ากว่าจะถึงมือผู้บริโภคได้มันต้องผ่านการทดสอบจากนักข่าวฝีปากกล้า อย่างป้ายแดง และ ecareasy เสียก่อนเพื่อให้รู้ว่า Accord Minor-Change ตัวนี้มีดีอะไรซ่อนอยู่ หรือว่าจะแอบซุกข้อด้อยตรงไหนให้เราได้ขุดคุ้ยกันขึ้นมาบนเส้นทางที่มีเวลา ให้ได้ทำความรู้จักกันร่วม ๆ 300-400 กิโลเมตร ทั้งบนบกและบนเกาะกลางน้ำแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเกาะช้างนี่เอง
เริ่มออกสตาร์ตกันจากโชว์รูมฮอนด้าศรีอยุธยาเพื่อผ่าการจราจรที่ติดขัดก่อน จะมุ่งตรงสู่ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ความกว้างขวางและใหญ่โตของ Accord คันนี้ไม่ส่งผลให้มันขับยากแต่อย่างใดบนสภาวะถนนที่มีรถสัญจรไปมาเต็ม พื้นที่ แถมงานนี้บรรดา “อาหลง” ยังมาพร้อมกับระบบนำทางเนวิเกเตอร์ที่มีเพิ่มมาให้ในรุ่น 2.0 ลิตร ไมเนอร์เชนจ์ นอกจากนี้ยังมี HDD Audio เพิ่มมาให้เอาไว้บรรจุไฟล์เพลงให้ได้ฟังกันแบบไม่ซ้ำกว่า 3,000 เพลง จนถึงที่หมาย แถมยังขับได้สบาย ๆ แบบ ชิล ๆ ด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันไว้คอยควบคุมระบบเครื่องเสียงและฟังก์ชันต่าง ๆ พร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ถือเป็นไฮไลต์ภายในห้องโดยสารของ Honda Accord นอกเหนือจากความกว้างขวางที่ได้เปรียบคู่แข่งอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
มาถึงตรงนี้ ทุกท่านอย่าเพิ่งงงไปนะครับว่าทำไมผมไม่พูดถึงภายนอกเลย จุ๊..จุ๊..บอกตรง ๆ เลยครับว่าก่อนขึ้นรถ เท่าที่สังเกตได้คือล้อแม็กซึ่งหยิบยกเอาของรุ่น 2.4 ลิตรเดิมมาใส่แทนที่ กับสีใหม่ที่มีอยู่หนึ่งคันในกรุ๊ปทดสอบนี้ ซึ่งก็เป็นเฉดสีที่หยิบยืมมาจาก CR-V อีกเช่นกัน นอกนั้นผมยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตรงจุดไหนบ้าง เพราะมันดูต่างจากตัวเดิมน้อยมาก ๆ ดังนั้น พอผมมาถึงจุดพักรถ ผมจึงขอสำรวจหน้าตาอีกทีว่าไปยกกระชับตรงจุดไหนมาบ้าง สรุปแล้วมี "กระจังหน้าใหม่" ครับ แบบโครเมียมที่มีการสร้างให้มีมีติมากขึ้นด้วยแถบบน ดีไซน์เล่นระดับ เพื่อสร้างความหรูหราให้รับกับแถบโครเมียมที่ไฟท้ายตรงบริเวณใต้ไฟทับทิม นั่นเอง สุดท้ายเกือบลืมไปเสียสนิทเลยกับของที่อยู่ใกล้ตัวมาก ๆ อย่างกุญแจที่ Accord เปลี่ยนเป็นแบบมัลติฟังก์ชันซึ่งพับเก็บได้ (Jack Knife Key) เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ถึงจะเป็นตัวไมเนอร์เชนจ์ที่ไม่ได้มีการแตะต้องกับเครื่องยนต์บล็อกเดิมแต่ อย่างใด ผมก็ขอพูดถึงเสียหน่อยเผื่อผู้ที่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดของเครื่องยนต์ตัว นี้จะได้รู้ว่าใต้ฝากระโปรงเจ้า Accord คันนี้เป็นขุมพลังแบบ SOHC i-VTEC 2.0 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุดที่ 156 แรงม้าในช่วง 6,300 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดอีก 189 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ที่ถ่ายทอดพลังผ่านระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 สปีดล้อคู่หน้า ซึ่งเท่าที่ได้ทดสอบมาตลอดเส้นทางในทริปกรุงเทพฯ-เกาะช้าง รู้สึกได้ว่า Accord จะให้ความรู้สึกที่ดีในช่วงที่วิ่งแบบลอยตัว 140 กม./ชม. แต่สำหรับความเร็วช่วงต่อจากนี้จะรู้สึกช้าและใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงเพื่อ จะเค้นสมรรถนะในช่วงเร่งแซงแต่ละครั้ง ซึ่งสัมผัสได้จากเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแทรกเข้ามาพร้อมกับเข็มวัดรอบที่ ตวัดขึ้นเลย 6,000 รอบทุกครั้งที่กด Kick-down แต่ถ้าลองทำเฉยไม่สนใจว่ารถจะเหนื่อยหรือจะเติมน้ำมันกันเท่าไหร่แล้วกดต่อ ไปจนมิด คราวนี้แหละ เข็มความเร็วที่ค่อย ๆ ทำงานอย่างใจเย็นก็จะสร้างความประทับใจเมื่อมันไปแกว่งอยู่แถว ๆ 200-220 กม./ชม. จนได้ บนระยะทางตรงยาว ๆ หลายกิโลเมตร
สำหรับแฮนเดอร์ลิ่งของเจ้ายักษ์ใหญ่สไตล์รถผู้บริหารอย่าง Honda Accord ด้านความเร็วที่ขับแล้วดูไม่วอกแวกไม่โยนตัวจนวูบวาบ ก็น่าจะเป็นช่วงความเร็วแถว ๆ 140-160 กม./ชม. เช่นกัน ถ้าลองทำความเร็วเลยช่วงนี้ไปแล้ว น้ำหนักของพวงมาลัยดูจะเบาไปสักหน่อย เช่นเดียวกับโช้กและสปริงที่ยุบตัวได้มากขึ้นกับการกระแทกที่รุนแรงขึ้นจาก ความเร็วที่มากเกินไป ซึ่งผมดูที่ 150 กม./ชม. และ 160 กม./ชม.แล้ว...ผมว่าอย่าขับให้มันเร็วไปกว่านี้เลยนะครับ..ผม "เสียว"
Sanook! auto Comment
Honda Accord นั้นจัดว่าเป็นรถที่มีสมรรถนการขับขี่ที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว โดยเฉพาะระบบช่วงล่างนี่รับประกันความมันส์ได้หายห่วงว่าไม่มีโยน แม้คุณจะเข้าโค้งด้วยความเร็วสุงก็ตาม จุดเด่นของรถยนต์กลุ่มเก๋งกลางคืออัตราเร่งและการเกาะถนนในช่วงความเร็วกลางๆ คือตั้งแต่ 140 กิโลเมตรขึ้นไป ซึ่งทั้งหมดนั้นดูน่าประทับใช่ เช่นเดีัยวกับฟังชั่นต่างๆที่มีมาให้ครบครันในรถโฉมปรับปรุงใหม่นี้
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ