รถขับหน้า..ใช้อย่างไรปลอดภัยสุด
ความจริงแล้วเรื่องการใช้รถใช้ถนนนั้น เป็นรื่องที่เราก็เบื่อที่จะมานั่งพูดพร่ำ เพราะสุดท้ายมันก็ยังขึ้นอยู่กับสำนึกของคนแต่ละคนอยู่ดี ทว่าจากเหตุการณ์ล่าสุดที่ทางเราไปประสบด้วยตัวเอง ระหว่างวันหยุด 3 วันที่ผ่านมานี้ ทำให้เราต้องตัดสินใจหยิบยกบางประเด็นขึ้นมาพูด
มีคนจำนวนไม่น้อยไม่ทราบว่ารถของตัวเองขับเคลื่อนแบบใด และมีไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะรู้ว่าขับรถแบบที่ตัวเองขับอยู่อย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด หลายคนไม่รู้และอีกมากที่ไม่เข้าใจ แต่วันนี้ที่เราบังเอิญเจอหนุ่มนักซิ่งที่คงคิดว่าตัวเองเป็นชูมาร์คเกอร์จนเกือบเอารถไม่อยู่จนเกือบพุ่งข้ามฝั่งถนนในซอยเล็กอย่างถนนในเมืองเอกนั้น ทำให้เราเล็งเห็นว่าน้องเขาคงไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอย่างไรให้ขับเร็วได้ ปลอดภัยได้ และไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่น
ปัจจุบันถ้าพูดถึงรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยและทั่วรถนั้นเกือบ 80% ของรถที่เราเลือกซื้อหามาใช้นั้น โดยเฉพาะรถยนต์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นนั้น ไม่นับกลุ่มรถกระบะ ทั้งหมดล้วนแล้วมาพร้อมพร้อมแพลทฟอร์มการออกแบบที่เรียกว่า “เครื่องยนต์วางหน้า-ขับเคลื่อนล้อหน้า” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกย่อว่า FF ที่มาจากวลีที่ว่า Front engine-frone wheel drive
รถยนต์แบบนี้เริ่มมีมาสักระยะหนึ่งแล้ว และเริ่มมาบูมในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ค่อยมีใครอยากพูดถึงเรื่องความสุ่มเสี่ยงในการใช้งานนัก เนื่องจากทั้งหลายทั้งปวงเป็นเรื่องของผู้ใช้ที่ต้องระมัดระวังและเข้าใจในตัวรถเอาเอง
หลายคนที่ซื้อรถมาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังใช้รถขับเคลื่อนล้อหน้า ที่จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจในการขับขี่ แม้ข้อดีของรถแบบนี้คือมันให้อัตราการเกาะถนนที่ดี วงเลี้ยวที่แคบ และอัตราเร่งที่เร้าใจกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่หาก คุณใช้อย่างไม่เข้าใจแล้ว พลาดนิดเดียว อาจหมายถึงชีวิต ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นที่ใช้เส้นทางบนท้องถนนร่วมกับคุณ
ความจริงแล้วการใช้งานรถขับหน้านั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะการที่มันขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าที่เป็นล้อนำและบังคับเลี้ยวนั้น ทำให้มันมีความแม่นยำในการเลี้ยวสูงและใช้วงเลี้ยวที่แคบกว่ารถแบบอื่นๆ แต่ด้วยสิ่งที่เราพูดว่ามันขับเคลื่อนด้วยล้อนำทางนี่เอง ที่เป็นบ่อเกิดแห่งอันตราย
อันตรายของรถขับเคลื่อนล้อหน้านั้นมาจากการใช้ล้อนำเป็นล้อขับเคลื่อน โดยเฉพาะใครที่มักขับรถแบบเหยียบคันเร่งใส่เข้าว่า จะทำให้การขับรถแบบขับเคลื่อนมีอันตรายมากยิ่งขึ้น สาเหตุหนึ่งนั้นก็มาจากการที่เราเหยียบคันเร่งทำให้ล้อหน้าตะกุยทุกเวลา และเมื่อระบบบังคับเลี้ยวอยุ่กับชุดขับเคลื่อน ทำให้ถ้ามือคุณไม่ไวพอ สิ่งต่อไปที่คุณจะเห็นก็คงไม่พ้นข้างทางหรือฟุตบาทอย่างแน่นอน
อีกประการที่เราเห็นบ่อยจนชิน คงไม่พ้นการเข้าโค้งของบรรดาผู้ใช้รถขับหน้าที่บางครั้งเราก็เข้าใจว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็อีกนั่นแหละ ด้วยความที่รถนั้นมีความไวในการเลี้ยวสูงทำให้รถขับหน้ามักจะถูกพบเห็นว่า ขับรถกินเลน ตัดเลน และอีกสารพัดที่เราจะพบได้ ซึ่ง สาเหตุนั้นก็มาจากลักษณะการขับขี่ของรถขับหน้าที่หากคุณเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมันจะให้ความรู้สึกเหมือนจะแหกออกไปจากโค้ง ทั้งๆที่มันก็สามารถเลี้ยวไปได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนเกิดวิตกกังวลและหักเลี้ยวก่อนระยะโค้งจริง เป็นต้นตอที่มาของการเบียดเลน กินไลน์ หรือสารพัดที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ดีถ้าคุณกำลังซื้อรถ หรือขับรถขับเคลื่อนล้อหน้าอยู่ ไม่ต้องคิดมากและกังวล เพราะทุกอย่างมีทางออกเสมอ และวันนี้เรามีวิธีขับรถแบบนี้มาฝากกัน ที่อาจช่วยคุณเข้าใจและรอดจากภยันตรายได้
1.รู้จักรถของคุณ ไม่ว่าคุณขับรถอะไรจำไว้ว่า คุณต้องรู้จักปรับตัวเข้าหารถมากกว่าให้รถปรับตัวเข้าหาคุณ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก่อนเพื่อนเลยนั้น คือคุณต้องให้ความเข้าใจในรถที่คุณขับว่ามันเป็นรถแบบไหนกันแน่
2.ควบคุมคันเร่ง อะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านแข่งกับเวลาและอีกมากมาย อาจจะกดดันให้คุณกดคันเร่งเพื่อไปถึงที่หมายให้รวดเร็ว แต่จำไว้ โดยเฉพาะรถขับหน้า ให้คุณควบคุมคันเร่งรถให้พอเหมาะ อย่าเร่งมากไป โดยเฉพาะทางโค้ง เพราะ สิ่งสุดท้ายที่คุณเห็นอาจเป็นต้นไม้ข้างทาง เนื่องจากการให้คันเร่งมากไปจะทำให้รถทะยานไปข้างหน้าและเมื่อชุดบังคับเลี้ยวรวมกับชุดขับเคลื่อน มันก็ย่อมควบคุมยากเป็นธรรมดา
3.อย่าหักพวงมาลัยกระทันหัน และเร่ง ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญมาก และมันไม่มีคำเตือนไว้บอกคุณด้วย เพราะ การหักพวงมาลัยอย่างกระทันหันของรถขับหน้า และเมื่อคุณเดินคันเร่งนั้น ลองนึกภาพตามว่า เลี้ยวและเร่งไปพร้อมกันนั้น ถ้าคุณไม่ไวจริงรับรองมีข้ามฝั่ง หรือขึ้นฟุตบาท แบบที่เราพบเจอจนเกือบเกิดอุบัติเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้
4.ระวังท้ายให้ดี รถขับหน้ามีข้อดีที่เครื่องอยู่หน้าขับเคลื่อนทางด้านหน้า ทำให้มัน แม่นยำในการเลี้ยว แต่ถ้าคุณเป็นสิงห์นักซิ่ง เราแนะนำเลยว่าระวังท้ายไว้ให้ดี เพราะน้ำหนักที่น้อยทางบั้นท้าย จะทำให้รถแบบนี้เกิดการท้ายปัดได้ง่าย เวลาคุณเหยียบเบรคแรงๆ และแน่นอนว่า คุณอาจจะคิดว่ามันง่ายมากที่แก้ แต่ถ้าคุณจับอาการไม่ถูกก็อาจไปเบียดรถคันข้างๆก็ได้
5.รู้จัก Understeer ** ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อที่สำคัญ เพราะคนขับรถขับเคลื่อนล้อหน้าจะเจอบ่อย และโดยมากด้วยอาการ Understeer นี่แหละที่ส่งหลายคนเกิดอุบัติเหตุไปแล้วนักต่อนัก อาการ Understeer หรือหน้าดื้อนั้นเป็นอาการที่เกิดขึ้น เมื่อกำลังที่ส่งลงล้อคุณมีอัตราเร่งมากเกินไป และเมื่อคุณหักเลี้ยว ก็จะพบว่ารถไม่ไปตามทิศทางที่ควรจะไป ซึ่งมักจะเกิดใน 2 กรณีใหญ่ คือ 1 พื้นถนนลื่น กับ 2.หักเลี้ยวและเร่งมากเกินไป
ไม่ว่าคุณเจออาการนี้ในแบบใด จงจำไว้ว่า วิธีแก้ Understeer ที่ถูกต้องนั้น มีอยู่วิธีเดียวคือลดความเร็ว ด้วยการผ่อนคันเร่ง และถ้าหากคุณมาเร็วมากอาจจะเหยียบเบรกเล็กน้อยเพื่อช่วยให้รถลดความเร็วและได้อัตราเกาะถนนคืนมา และที่สำคัญคุณต้องจับพวงมาลัยให้มั่น …..อย่าเหยียบเบรคแรงเกินไป ..อย่าตกใจ เพราะถ้าคุณเหยียบเบรกแรงไปอาจทำให้รถหมุน หรือ ถ้าคุณตกใจก็อาจทำให้ไม่มีสติในการแก้ไขสถานการณ์
ทั้งหมด 5 ข้อนี้เป็นการแก้ไขและขับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแพลทฟอร์มแบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่ถูกต้อง และแก้ไขอย่างปลอดภัยที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งคุณควรจะศึกษาไว้เพราะว่า คุณจำเป็นต้องรู้จักรถเพื่อการขับขี่ที่ถูกต้อง
Sanook! Auto Comment
เราเห็นด้วยที่ว่าคนขับส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้จักรถของตัวเองมากนัก และมันเป็นต้นตอนำไปสู่อุบัติเหตุ โดยเฉพาะ เมื่อรถคันนั้นขับเคลื่อนล้อหน้า....ความจริงระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ได้ผิด บริษัทผู้ผลิต ก็ไม่ได้ผิด แต่มันเป็นหน้าที่ของผู้ใช้ที่ควรทำความเข้าใจในตัวรถว่าเป็นแบบใด ก่อนที่คุณจะเที่ยวนำมันไปขับบนท้องถนน