Navara Calibre VS Vigo Prerunner ขุมพลัง 2.5 ลิตร...คันไหนจะ work กว่ากัน!

Navara Calibre VS Vigo Prerunner ขุมพลัง 2.5 ลิตร...คันไหนจะ work กว่ากัน!

Navara Calibre VS Vigo Prerunner ขุมพลัง 2.5 ลิตร...คันไหนจะ work กว่ากัน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ขอยกเนื้อที่ให้กระบะจอมเก๋า 2 คัน ระหว่าง Toyota Hilux Vigo กับน้องใหม่ Nissan Navara ซึ่งวันนี้ทั้งคู่พร้อมที่จะสู้รบปรบมือกันในคลาสขับ 2 ยกสูง เครื่อง 2.5 ลิตร อีกครั้ง ด้วยกลยุทธ์ที่หยิบเอาเทอร์โบแปรผัน VNT (Variable Nozzle Turbo) โดยทางฝั่งโตโยต้าได้ขยับเทอร์โบจากรุ่นใหญ่ลงมาใช้กับรุ่นเล็ก ส่วนต้นสังกัด Navara ก็เล่นไม่ยาก จับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ชนเข้ากับเครื่องเดิมที่มีเทอร์โบแปรผันติดตัวอยู่ แล้วคันไหนจะลงตัวกว่ากัน

Navara Vs. VigoNavara Vs. Vigo

คู่ชกในวันนี้จัดอยู่ในกลุ่มกระบะ 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่สวมบุคลิกมาในมาดรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการภาพลักษณ์สไตล์ Off-Road แต่ไม่สนเรื่องบุกป่าฝ่าดง อีกทั้งยังเซฟตังค์กว่าจะข้ามไปเล่นรุ่น 4 WD ของจริง โดยมุมแดงคือ Vigo Prerunner 2.5E VN Turbo รุ่น Double-Cab เกียร์ธรรมดา 5 สปีดค่าตัว 7.55 แสนบาท ส่วนมุมน้ำเงินเป็น Navara Calibre Double-Cab LE 5AT (เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด) ที่ประเมินความคุ้มค่าไว้สูงกว่าที่ 7.96 แสนบาท

 

===========================

หน้าตาอาจไม่ใช่สิ่งจูงใจสำหรับทั้งคู่

===========================

 

ความชินชาอันเกิดขึ้นกับการที่ได้เห็นอะไรซ้ำ ๆ เป็นปี ๆ นั้นมีผลทำให้ผมไม่ได้รู้สึกชื่นชอบคันไหนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเจ้า Vigo Prerunner ที่ผมรู้สึกชาชินถึงขั้นเอียนกับพลพรรค Vigo ที่วิ่งกันให้เกลื่อนจนผมนึกว่าโตโยต้าเขาแจกฟรี! เช่นเดียวกับ Navara Calibre ถึงแม้จะมาทีหลังแต่ก็ไม่ได้ช่วยสร้างแรงจูงใจให้เกิดอารมณ์พิศวาสมากขึ้น สักเท่าไร วันนี้ทั้งคู่อาจดูเชยสนิทเมื่อเทียบกับกระบะเจ้าอื่นซึ่งเน้นหล่อมากกว่า เรื่องอื่น

ก่อนจะขับขอเดินชมสักหน่อยว่าทั้งใครเปลี่ยนอะไรไปบ้าง...ผมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ได้คำตอบว่าแทบไม่มีอะไรต่างจากรุ่นเดิม จะมีก็แค่ยิบย่อยอย่าง Prerunner ที่หันไปหยิบเอากันชนและกระจังหน้าสไตล์เดียวกับรุ่น Smart Cab มาใช้ และเพิ่มความแตกต่างด้วยโลโก้ VN Turbo ตรงแถบโครเมียมที่หน้ากระจังกับสติ๊กเกอร์ที่ด้านท้ายของตัวกระบะ พร้อมแม็กใหม่ที่อัพไซซ์ใหญ่เป็น 17 นิ้ว ส่วน Calibre นอกจากสีขาวมุกอินเทรนด์ ซึ่งเปลี่ยนลุคจากตอนเปิดตัวโดยพี่ติ๊ก-เจษฎา กับตัวรถสีดำดุแล้ว ถ้าลองลอกเอาสติ๊กเกอร์ ECO-PWR Common-Rail VN TURBO ออกก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่นเดิม

 

ใครที่ซื้อกระบะ 4 ประตูเชื่อได้ว่าต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก ไอ้เรื่องบรรทุกหนักคงไม่มีใครไปซีเรียส และจากที่เคยสัมผัสกับภายในของทั้ง 2 คันมาหลายครั้งถ้าเทียบบรรยากาศที่ดูคล้ายรถเก๋งมากกว่าคงต้องยกให้ Prerunner ที่ทั้งความกว้างขวางและมีดีไซน์ที่ดูนุ่มนวลกว่าเมื่อเทียบกับ Calibre ที่ออกแนวแข็งกร้าวมีเหลี่ยมสันตั้งชันแบบเลขาคณิตสไตล์รถกระบะ ประกอบกับการเลือกโทนสีเบสตัดกับสีน้ำตาลที่ให้อารมณ์เข้มและดุดัน แต่เมื่อมองด้านจำนวน Calibre อาจทำคะแนนได้เปรียบนิดหนึ่งด้วยเรื่องจุกจิกไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของฝั่ง ผู้โดยสารแบบ 2 ชั้น กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน หรือระบบเครื่องเสียงเป็นแบบซีดี 6 แผ่นพร้อม MP3 ส่วนอีกคันเป็นแบบแผ่นเดียวพร้อมด้วยลำโพง 6 ตัว มากว่าคู่กัดอยู่ 2 ตัว แต่โตโยต้าคงไม่มายเท่าไร เพราะทั้งดีไซน์และความสะดวกสบายนั้น Prerunner ค่อนข้างจะลงตัวกว่า อย่างไรก็ตามผมคิดว่าการมีออพชั่นมาให้มากแต่มีความจำเป็นน้อย แล้วที่ถีบค่าตัวขึ้นไปเกือบ 8 แสน ผมว่ามันดูไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าไร

==============================

ทั้ง 2 คันให้อัตราเร่งที่ดีขึ้นไม่ชัดเจนนัก...

==============================

 

เกิดก่อน...เกิดหลังไม่สำคัญ ตอนนี้ทั้งคู่ถือว่าก้าวมายืนในจุดเดียวกันทั้งด้านของเทคโนโลยีและการตลาด ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ขุมพลังไซซ์เล็กที่มีแนวโน้มน่าจะทำตลาดได้ดีในช่วงภาวะ เศรษฐกิจเช่นนี้ จากเดิม Prerunner ที่มีเพียงแค่เครื่อง 3 ลิตรเท่านั้น ส่วน Nissan ใช้การแบ่งซีรี่ส์ความแรงให้แตกต่างกันโดยใช้เครื่องยนต์ความจุเดียวคือ 2.5 ลิตร แค่เพิ่มเกียร์อัตโนมัติเข้าไปก็จบ

โตโยต้าได้นำเครื่องยนต์รหัส 2KD-FTV(I/C)ที่ประจำการอยู่ในรุ่น Smart Cab มาทำการปัดฝุ่นเปลี่ยนระบบอัดอากาศใหม่เป็นแบบแปรผัน แล้วตอกรหัสใหม่เป็น 2KD-VNT แน่นอนแรงม้าต้องน้อยกว่าเครื่องคิงไซซ์ แต่มันก็ร้อนแรงขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับ 2KD ตัวเก่า จนแรงม้าพุ่งขึ้นมาเท่ากับขุมพลังที่มีเทอร์โบแปรผันตั้งแต่ต้น อย่าง Calibre ที่ 144 ตัวจาก 120 เช่นเดียวกับแรงบิดที่ขยับขึ้นจาก 320 เป็น 343 นิวตัน-เมตร ซึ่งยังเป็นรองคู่ชกที่มีแรงบิดสูงสุดถึง 365 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ยังดีที่ฝ่ายแรกนั้นเล่นสูตรเรียกกำลังแบบ Flat-Torque ตั้งแต่รอบต่ำ 1,700-2,700 รอบ/นาที ทำให้มีพลังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลเหล่านี้ Prerunner อาจยังดูเสียเปรียบอยู่ดีถ้า Calibre นั้นใช้เกียร์แบบเดียวกัน แต่แมตช์นี้นิสสันต่อให้ด้วยการนำเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแบบ L-Type มาชนเข้ากับเครื่องตัวนี้แทนที่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด

 

เมื่อเครื่องเล็กบวกเทอร์โบแปรผันที่เข้ามาจัดการปริมาณของมวลอากาศให้เพียง พอกับความต้องการในช่วงต่าง ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนองศาของครีบภายในเทอร์โบ ซึ่งควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่สั่งการได้แม่นยำให้พละกำลังได้ต่อเนื่องและ อัตราสิ้นเปลืองที่ลดต่ำกว่าเทอร์โบแบบเก่า แล้วคำถามคือ ทั้ง 2 คันใครจะเจ๋งกว่า และงานนี้ Prerunner ก็อาศัยข้อได้เปรียบสับเกียร์เรียกอัตราเร่งที่จัดจ้านอย่างต่อเนื่องแบบไม่ เกรงใจคันที่ต่อให้เลย ซึ่งจากผลสอบจะเห็นได้ว่าทั้งคู่แทบทิ้งห่างกัน ในช่วงต้นถึงแม้ Prerunner จะชิงออกตัวทิ้งให้ Calibre ไล่ตามกัดท้ายอยู่แบบไม่ห่าง แต่เผลอแผล็บเดียวเหลือบมองกระจกหลังกลับไม่เห็นใครเพราะ Clibre เริ่มได้สปีดที่ต่อเนื่องจนขยับขึ้นมาข้าง ๆ และทำเวลาได้ในระดับ 17 วินาที ตามหลัง Prerunner อยู่แค่เศษเสี้ยวของวินาทีแล้วต่อด้วยการกดคันเร่งจนมิดจนเข็มไมล์ไปสิ้นสุด ที่ 165 กม./ชม. เท่า ๆ กัน ส่วนเรื่องประหยัดทั้งคู่ก็ทำตัวเลขออกมาได้ใกล้เคียงในระดับ 11-12 กม./ลิตร โดยที่ Prerunner เกียร์แมนนวลยังเป็นฝ่ายที่ทำตัวเลขได้มากกว่าแบบไม่ถึงลิตร

รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่าง ๆ

(km./h.@ Rpm.) Prerunner (M/T) Calibre (A/T)

เกียร์ 5 เกียร์ 5

90 1,750 1,800

100 1,950 2,000

120 2,400 2,500

140 2,750 2,900

Consumption (km./l.)

เฉลี่ยรวม 12.11 11.36

 

==================================

อาการท้ายไวยังเกิดขึ้นกับ Prerunner ชัดกว่า

Calibre ซึ่งเตี้ย...ล่ำ...ศูนย์ถ่วงดี

==================================

 

ถึงแม้ทั้งคู่จะมีพื้นฐานช่วงล่างในลักษณะเดียวกันคือด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 คู่ คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังใช้เป็นแหนบแผ่นซ้อนกับโช้กอัพทรงกระบอก แต่สรีระอันสูงชะลูดที่ช่วยส่งเสริมให้ Prerunner ดูมีภาพลักษณ์ในสไตล์กระบะพร้อมลุยมากกว่า Calibre ที่เตี้ย...ล่ำ ดูไม่ต่างจากกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อทั่ว ๆ ไปก็ตาม ซึ่งในทางกลับกันอาการท้ายไวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถในกลุ่มนี้มันก็ตามมา หลอนกระบะจากค่ายโตโยต้าได้ชัดเจนกว่า โดยเฉพาะในช่วงทางโค้งที่พื้นถนนเป็นลอนคลื่นจนทำให้ล้อหลังของ Prerunner เกิดอาการอยากแซงล้อคู่หน้าซะให้ได้ ซึ่งนี่ก็ถือว่าอากรดีขึ้นเมื่อเทียบกับตัวมันเองตอนแบกเครื่อง 3 ลิตรไว้ด้านหน้ากับล้อ 16 นิ้ว ระบบเบรกทั้งคู่ยกชุดมาจากรุ่นเดิมโดย Prerunner ยังใช้จานเบรกขนาด 15 นิ้ว ซึ่งผมยังไม่ค่อยมั่นใจนักรู้สึกว่าต้องเบรกลึกและออกแรงเหยียบมากนีถ้าใจ ปล้ำเอาจานรุ่นขับ 4 มาผมว่าเวิร์ค

ส่วน Calibre ดูเหมือนจะตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ค่อนข้างดีกว่า ด้วยระยะเบรกที่สั้นและกระชับกว่า ไม่รู้สึกโหลดที่เกินพิกัดเหมือนกับ Prerunner อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ได้จัดชุดปลอบขวัญให้ตามสูตรคือ ABS และ LSV ที่ผมว่าคงไม่มีใครอยากลองใช้สักเท่าไรถ้าไม่จำเป็น...

 

===========================

เทียบความคุ้มค่าแล้วไม่มีคันไหน...

ตอบโจทย์ได้ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น

===========================

 

สรุปแล้วทั้งคู่ถือว่าเป็นกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าตาหล่อแบบ 4WD ซึ่งน่าสนใจที่สุดตอนนี้ แต่เหมือนว่ายังไม่มีคันไหนสมบูรณ์แบบนัก ดูเหมือนยังกั๊ก ๆ ไม่ค่อยชัดเจน ซึ่งถ้าให้ผมเลือก Prerunner ผมว่าไอ้เกียร์ธรรมดา 5 สปีดมันก็ดูไม่ค่อยจะเข้ากับชีวิตในเมืองที่เน้นสะดวกสบายเป็นหลักสไตล์ กระบะ 4 ประตู เหมือนกับ Calibre ที่ลดช่องว่างตรงนี้ไปได้แต่กลับดูด้อยด้วยสรีระที่ต่ำเตี้ยไม่สูงสง่าสมกับ เป็นตัวยกสูง ส่วนในด้านการขับ Prerunner อาจขับสนุกกว่าก็จริง แต่กลับต้องมากังวลกับช่วงล่างและเบรกที่ยังซับพอร์ตได้เต็มที่ ต่างกับ Calibre ซึ่งขับได้มั่นใจแต่ต้องไปแบบเรื่อย ๆ

ถ้าเป็นไปได้ผมอยากได้ Prerunner เกียร์ออโต้กับช่วงล่างและเบรกใหม่สักชุดคงจะดี หรือไม่ก็เอา Calibre ไปใส่ชุดยกให้ดูหล่อสมฐานะเท่านี้ก็จบเรื่อง


ขอบคุณเรื่องและภาพจาก Ecareasy.com

Sanook! Auto Comment

 

เป็น 2 คู่ปรับที่ยากที่จะพูด แต่ถ้าถามเราในฐานะคนที่เคยขับรถทั้ง 2 รุ่นเช่นกัน Navara ดูจะมีภาษีกว่า แม้ ดีไซน์คนไทยอาจจะบอกว่าไม่ค่อยโดนใจเท่าไรนักก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพการขับขี่แล้ว เอาเรื่องดีพอสมควรเลย

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ Navara Calibre VS Vigo Prerunner ขุมพลัง 2.5 ลิตร...คันไหนจะ work กว่ากัน!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook