THAIDRiVER พิสูจน์จริง ลบความเชื่อที่ผิดในวงกว้าง ชัดเจนว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยช้า กว่าเบนซิน

THAIDRiVER พิสูจน์จริง ลบความเชื่อที่ผิดในวงกว้าง ชัดเจนว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยช้า กว่าเบนซิน

THAIDRiVER พิสูจน์จริง ลบความเชื่อที่ผิดในวงกว้าง ชัดเจนว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยช้า กว่าเบนซิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใครๆ ก็คิดว่าแก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซินผสมแอลกอฮอล์ (เอทานอล) ต้องระเหยเร็วกว่าน้ำมันเบนซิน ยิ่งผสมแอลกอฮอล์มากขึ้น ก็ยิ่งระเหยเร็ว เชื่อกันแบบผิดๆ ฝังรากลึก

THAIDRiVER จัดการทดสอบชัดเจนกับการระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิง ทดลองซ้ำๆ เพื่อความแน่ใจ ในสภาพแวดล้อมและเวลาต่างกัน มีหลักฐานบันทึกทั้งภาพนิ่งและวีดิโอ

- ไม่เลือกทดสอบและวัดในถังน้ำมันรถจริง เพราะจะทำให้มองไม่เห็นหรือตวงยาก แต่เลือกใส่ในภาชนะต่างรูปร่างและปริมาณ อีกทั้งพื้นที่ปากที่จะระเหยก็ต่างกัน เพื่อให้พิสูจน์อย่างครอบคลุมทุกด้าน และที่สำคัญ...วางไว้ในรถจริง จอดข้ามวันข้ามคืน คล้ายกับสภาพจริงที่น้ำมันต้องนอนในถังทุกวินาที

- ผลการทดลอง มีครบทั้ง เบนซิน 95 / 91 แก๊สโซฮอล์ อี10 ออกเทน 91 / 95, อี20, อี85 และอี100 หรือแอลกอฮอล์ล้วนซึ่งทีมงาน THAIDRiVER ได้มาอย่างไม่ง่าย เนื่องจากไม่มีขายและเล็ดลอดออกมายาก เพราะคนจะเอาไปทำเหล้าขาวหรือยาดอง

- ผลลัพธ์ไร้ข้อกังขา ไม่มีข้อโต้แย้ง ทุกภาชนะ ทุกการทดสอบ เบนซินระเหยเร็วกว่าแก๊สโซฮอล์ ระดับลดต่ำกว่าทุกช่วงเวลา มีภาพเห็นชัดเจนไม่ต้องเล็ง

- คุณต้องอุทานว่า...มันเป็นไปได้ยังไง (วะ)

- ทั้งที่มันก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่มีวันที่เบนซินจะระเหยเร็วกว่าแอลกอฮอล์ แต่ผู้คนล้วนเชื่อกันไปเอง 
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของหลายความเชื่อในสังคมวงกว้างที่ผิดอย่างไม่รู้ตัว และยากจะลบ

- คิดก่อนเชื่อเสมอและจำไว้ว่า เรื่องที่เชื่อกันมานานในคนหมู่มาก อาจไม่จริงเสมอไป

- อย่าลืม...แม้แต่บทความนี้ คุณก็ต้องคิดก่อนเชื่ออย่างแรง !

 

คนไทยทั่วไปมักเชื่อว่าแอลกอฮอล์หรือเอธานอล (เอทิลแอลกอฮอล์) ซึ่งผลิตจากพืชผลทางการเกษตร ที่นำมาผสมกับน้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์ จะระเหยเร็วกว่าเบนซินมาก

 

ทำไมคนไทยจึงเชื่ออย่างนั้น

น่าจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่เคยถูกฉีดยา ถูกแอลกอฮอล์ทาผิวแล้วเย็นและแห้งเร็วมาก แต่น้อยคนที่จะเป็นช่างซ่อมรถแล้วเคยใช้เบนซิน
ล้างอะไรๆ หรือโดนผิวหนังแล้วเห็นว่าเบนซินก็ระเหยและแห้งเร็ว แม้แต่ช่างหลายคนที่เคยถูกทั้งแอลกอฮอล์และเบนซินโดนผิวหนัง ก็ไม่เคยมาเปรียบเทียบว่าอะไรระเหยเร็วกว่า และน่าแปลกว่า หลายคนเชื่อว่าเอานอลหรือแก๊สโซฮอล์ระเหยเร็วกว่าเบนซิน ประกอบกับคำร่ำลือที่เกิดขึ้นง่ายในสังคมไทย ไม่ว่าเรื่องนั้นจะจริงหรือไม่ก็ตาม

คนส่วนใหญ่จึงเชื่อ (แบบผิดๆ) ว่า แก๊สโซฮอล์ (น้ำมันเบนซินหรืออีกชื่อว่าแก๊สโซลีน ผสมเอธานอลหรืออีกชื่อว่าแอลกอฮอล์) จะระเหยเร็วกว่าน้ำมันเบนซิน ร่ำลือกันในวงกว้างและเชื่อแบบฝังรากลึก ทั้งที่ความจริงอาจจะกลับกันก็ได้ น้ำมันเบนซินอาจระเหยเร็วกว่าก็เป็นได้ ไม่มีใครคิดจะพิสูจน์ เพราะไม่ใช่หน้าที่ ในเมื่อเชื่อแบบฝังรากลึกและเป็นวงกว้าง ก็เลยคิดกันไปเองว่า...เป็นความจริง จึงไม่ต้องพิสูจน์หรือจับผิดอะไร

THAIDRiVER เป็นสื่อมวลชนด้านรถยนต์ ที่ตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพมากว่า 12 ปี สะดุดใจและสนใจในประเด็นนี้ จึงจัดการพิสูจน์ว่า จริงๆ แล้วเบนซิน แก๊สโซฮอล์ รวมถึงเอธานอลล้วนๆ อะไรระเหยเร็วกว่ากันแน่ จะเป็นไปตามความเชื่อเกือบทั้งประเทศ หรือต่างออกไป ?

 

ผลพิสูจน์ในทุกการทดลอง...

น้ำมันเบนซิน ระเหยเร็วที่สุด !

แก๊สโซฮอล์ ระเหยช้ากว่า !!

เหลือในภาชนะมากกว่าเบนซิน แบบไม่ต้องลังเล มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน ยิ่งผสมเอธานอลมาก ยิ่งระเหยช้า !!! แม้แต่อี10 แก๊สโซฮอล์ที่ผสมเอธานอลแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ก็ชัดเจนว่าระเหยช้ากว่าเบนซิน ที่สำคัญ...ยิ่งน้ำมันชนิดใด ผสมเอธานอลลงไปเป็นเปอร์เซ็นต์มากเท่าไร ก็ยิ่งระเหยช้า ! ถ้าเป็นเอธานอลล้วนๆ อี100 ก็สุดจะชัดเจนว่า ระเหยช้ากว่าเบนซินมากๆ ขัดแย้งกับความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่อย่างสิ้นเชิง ไปในคนละทิศเลย !!!

ในการทดลองใช้หลอดแก้วหรือบิ๊กเกอร์แก้วที่ใช้ในทางเคมี ทุกชิ้นได้มาตรฐาน มีขีดบอกปริมาตรเป็นซีซี โดยซื้อจากศึกษาภัณฑ์ฯ ในราคาชิ้นละหลายร้อยบาท หน่วยชั่งตวงวัดถูกต้อง และใช้ขวดเหล้าแบบใสที่ล้างสะอาดแล้ว มีการทดลองหลายครั้ง เพื่อให้ครบครันทั้งเบนซิน แก๊สโซฮอล์ อี10 อี20 อี85 และเอธานอลล้วน ซึ่งหาซื้อจากปั๊มขายปลีกทั่วไป ยกเว้นเอธานอลล้วน-อี100 แท้ๆ ไม่มีขายให้แก่บุคคลทั่วไป เนื่องจากป้องกันการทำเหล้าเถื่อน และการผลิตเอธานอลปลอดภาษี ทีมงานต้องใช้ความสัมพันธ์พิเศษไปขอจากโรงงานมาเป็นปริมาตรไม่กี่ลิตร ด้วยเหตุผลที่จะใช้ในการทดลองเท่านั้น

ทดลองครั้งนี้เน้นเรื่องการระเหยแบบใกล้เคียงชีวิตจริง ทำทั้งหมด 3 ครั้ง ช่วงเวลาที่เริ่มทดลองมีทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อสังเกตว่าช่วงเวลาที่เริ่มต้นมีผลลัพธ์ต่างกันหรือไม่ จัดทดสอบโดยนำน้ำมันไปไว้ในรถตู้ จอดใน 2 สถานที่ ห่างจากถนนประมาณ 10 กว่าเมตร จอดบนลานปูนกลางแจ้ง ทิ้งไว้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้สภาพใกล้กับรถที่ใช้งานจริงมากที่สุด

ภาชนะถูกวางอยู่ภายในรถตู้ปิดประตู แต่ก็ไม่สนิทนัก มีทั้งอากาศเข้า-ออก และความชื้นบ้าง เพราะเป็นรถตู้ที่เก่ามากแต่วิ่งได้ ซีลยางต่างๆ ก็เปื่อยไปไม่น้อย ไม่ได้มีการเปิดเพื่อระบายความร้อน ยกเว้นตอนถ่ายรูปหรือวิดีโอ ทำให้บางช่วงตอนแดดแรงๆ มีความร้อนถึง 40-50 องศา และตอนกลางคืนก็ลดลงเหลือ 25-30 องศา และนอกจากนี้มีการทดลองด้วยการวางขวดเหล้าเปล่าที่ใส่น้ำมันหรือเอธานอลไว้ ใต้โรงจอดรถที่โปร่งพอสมควรนานหลายเดือนด้วย ตลอดการทดลองมีการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ พร้อมจดบันทึกระดับอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตจะมีการแสดงวิดีโอผลการทดลองในสื่อเวบไซต์ www.thaidriver.com ทุกการทดลองไม่มีการกระเซ็นของน้ำฝนหรือไอน้ำแรงๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงไม่ต้องสงสัยว่าแก๊สโซฮอล์หรือเอธานอลที่ลดระดับช้ากว่าเบนซิน อาจเป็นเพราะมีการดูดความชื้นเข้าไปผสม ส่วนการดูดน้ำ แม้ภายในรถตู้มีความชื้นบ้าง เพราะเป็นรถเก่ามาก ขอบยางต่างเสื่อมสภาพไปมากแล้ว เมื่อมองเข้าไปผ่านผิวหรือปากภาชนะ ก็ไม่พบด้วยตาเปล่าว่า ภาชนะใดมีน้ำเข้าไปผสมให้เห็นอยู่แม้แต่หยดเดียว

ทดลองด้วยภาชนะที่มีพื้นที่ปากต่างกัน เพื่อดูว่ามีผลกับการระเหยของแต่ละชนิดน้ำมันหรือไม่สีน้ำมันเปลี่ยนแปลงไป แม้เป็นชนิดเดียวกัน อย่าคิดว่าเราลงรูปผิด เพราะในการทดลองต่อละครั้งต่างช่วงเวลากัน เนื่องจากราชการเปลี่ยนสีน้ำมันมาหลายครั้ง เพื่อป้องกันการปลอมปนน้ำมัน ทีมงานไม่ได้แอบสลับชนิดน้ำมันแต่อย่างใด และสีน้ำมันที่เปลี่ยนก็ไม่มีผลต่อการทดลอง

 

ผลการทดลองพบว่า...

น้ำมันเบนซิน ที่ไม่ได้ผสมเอธานอล ระเหยเร็วที่สุด

แก๊สโซฮอล์ ระเหยช้ากว่า ยิ่งผสมเอธานอลลงไปเป็นเปอร์เซ็นต์มากเท่าไร ก็ยิ่งระเหยช้าลง เหลือในภาชนะมากกว่าเบนซิน แบบไม่ต้องลุ้น มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน

 

ด้านมลพิษที่หลายคนมองข้าม...

ทิ้งท้ายกับการทดลองเรื่องมลพิษแบบง่ายๆ ชาวบ้านๆ แต่เห็นผลชัดเจน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 และเอธานอลล้วนอี100 ราดลงพื้นปูน 2 จุดแยกกัน จุดไฟพร้อมกัน ตาเปล่ามองเห็นได้ชัดว่า ควันไฟของอี20 มีสีดำ ดูแล้วเป็นมลพิษมากกว่า อี100 ที่แทบไม่มีควันสีดำเลย บนพื้นปูนหลังจากอี20 ไหม้ เกิดคราบเขม่าสีดำ ส่วนอี100 สะอาดเกือบปกติ ถ้าเป็นเบนซินล้วน คงจะสกปรกกว่านี้ แต่วันที่ทดลองไม่ได้เตรียมเบนซินไว้เผา ไว้จะทดลองใหม่ การใช้เอธานอล จึงมีข้อดีที่ชัดเจนอีกข้อ คือ การสร้างมลพิษต่ำกว่าเบนซิน ใครจะบอกว่าในเครื่องยนต์มีการเผาไหม้ในระบบปิด แตกต่างจากการราดแล้วเผาบนพื้นปูน ก็อยากจะบอกว่า ไม่ได้ทดลองเปรียบเทียบกับตรงตัวขนาดนั้น แต่ทั่วโลกล้วนมีการทดสอบในเครื่องยนต์มานับครั้งไม่ถ้วน แล้วพบว่าแอลกฮออล์เผาไหม้แล้วสกปรก-มีควันน้อยกว่าเบนซิน

นึกถึงง่ายๆ ตอนหาหมอ ที่บางครั้งมีการลนไฟฆ่าเชื้อเครื่องมือทางการแพทย์ในห้องแอร์ ล้วนใช้แอลกอฮอล์ ถ้าใช้เบนซินก็ควันท่วมก็ยังงงว่า ทำไมหลายคนยังเชื่อว่า ใช้น้ำมันเบนซินแล้วเครื่องสะอาดกว่า หรือถนอมเครื่องมากกว่าแก๊สโซฮอล์ ภาพและบทความนี้ เป็นเพียงการทำให้ทราบความจริงเฉพาะเรื่องการระเหย กระตุ้นเตือนว่า หลายเรื่องราวในชีวิต อาจเป็นความเชื่อที่ผิดในวงกว้าง จนเหมือนเป็นเรื่องจริง ทั้งที่ไม่จริง !

ครั้งนี้ทดสอบการระเหยเท่านั้น

การทดสอบด้านอื่น ยังไม่เกี่ยวกัน ใครที่จะถกเถียงกัน ต้องใช้สติ อย่ามั่วหรือสับสนประเด็น เราทดลอง และแสดงให้เห็นชัดเจนในด้านการระเหย ส่วนใครจะสนใจเรื่องอื่นด้วย ก็เป็นเรื่องอื่นที่แตกต่างกันออกไป ต้องพิสูจน์ และรออ่าน-รอดูกันต่อไป

สรุปง่ายๆ ว่า ต้องพิสูจน์กันเป็นเรื่องๆ ไป ตามเวลาและโอกาสจะอำนวย ไม่ต้องโวยวายว่า เฮ้ย...มันไม่ใช่ประเด็นสนใจ เพราะหัวเรื่องก็ชัดเจนว่าทดลองเรื่องอะไร ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น ด้านสมรรถนะ ความสิ้นเปลืองที่มากกว่า หรืออื่นๆ ของแก๊สโซฮอล์ ก็จะต้องพิสูจน์กันต่อไป เช่น หลายคนเชื่อว่าใช้แก๊สโซฮอล์แล้วแรงตก และกินน้ำมันมากขึ้น เพราะมีค่าความร้อนในตัว น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน

THAIDRiVER หาข้อมูลที่ไม่ค่อยมีใครเปิดเผย

พบว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง ข้อมูลจากการทดสอบจริงช่วงปี 2008 โดยผู้ผลิตไม่ได้เน้นใช้ในการโฆษณา เพราะทำกันภายในองค์กรนั้นอยู่เสมอ จึงเชื่อถือได้ พบว่า....

 

เบนซิน ออกเทน 95

แก๊สโซฮอล์ ที่มีออกเทน 95 ส่วนผสมเอธานอล 10 เปอร์เซ็นต์ (อี10-95) มีค่าความร้อน 43.50 เมกกะจูล/กิโลกรัม เบนซิน 95 ในยี่ห้อเดียวกันมีค่าความร้อน 43.16 เมกกะจูล/กิโลกรัม คุณจะเชื่อไหมว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ยี่ห้อนั้น มีพลังงานความร้อนต่อน้ำหนักมากกว่าเบนซิน เป็นไปได้อย่างไร ? เพราะยี่ห้อนั้น ใช้น้ำมันพื้นฐาน 90 เปอร์เซ็นต์ที่มีค่าความร้อนมากกว่าน้ำมันที่จะมาผสมเอ็มทีบีอีเป็นเบนซิน 95 นั่นเอง


เบนซิน ออกเทน 91

แก๊สโซฮอล์ ที่มีออกเทน 91 ส่วนผสมเอธานอล 10 เปอร์เซ็นต์ (อี10-95) มีค่าความร้อน 43.15 เมกกะจูล/กิโลกรัม

เบนซิน 91 ในยี่ห้อเดียวกันมีค่าความร้อน 44.49 เมกกะจูล/กิโลกรัม แก๊สโซฮอล์ 91 มีค่าความร้อนน้อยกว่าเบนซิน 91 อยู่ 2 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องถามว่าน้ำมันนั้นยี่ห้ออะไร และทุกยี่ห้อเป็นเช่นนี้หรือไม่ รวมถึงในปี 2010 จะเป็นอย่างนั้นอยุ่หรือไม่ ! เพราะเราไม่ทราบแล้ว เนื่องจากผ่านมา 2 ปี จึงไม่มีคำตอบ

ถ้าใช้น้ำมันพื้นฐานเหมือนกัน อี10 ในน้ำหนักเท่ากับเบนซินที่เติมเอ็มทีบีอี 5-8 เปอร์เซ็นต์ จะมีค่าความร้อนน้อยกว่าประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่าลืมว่า ค่าเอ/เอฟ เรโช(AIR/FUEL RATIO) ของอี10 กล่องอีซียูจะต้องสั่งให้ยิงหนากว่าหรือมากกว่าเบนซินผสมเอ็มทีบีอี ที่ใช้ประมาณ 14.5 ต่อ 1 ส่วนอี 10 ที่ค่าแลมบ์ดา 1 จะต้องยิง 14.2 ต่อ 1 ซึ่งเท่ากับจะมีปริมาณแก๊สโซฮอล์ในกระบอกสูบมากกว่าเบนซินเล็กน้อย

สรุปก็คือ เนื้อของแก๊สโซออล์ต่อกรัม อาจมีความร้อนร้อนน้อยกว่าบ้าง แต่เมื่อต้องยิงเข้าไปหนาหรือมากกว่าบ้าง ค่าความร้อนที่เผาไหม้มาถีบลูกสูบ เพื่อเป็นกำลังงาน ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ไมได้แตกต่างกันฟ้ากับเหว เน้น ว่าการทดลองนี้เป็นเรื่องของเรื่องระเหยเท่านั้น ใช้แก๊สโซฮอล์แล้วกินน้ำมันมากขึ้น...จริง THAIDRIVER ก็เน้นว่าจริง จึงไม่ใช่เพราะการระเหย ส่วนเรื่องอื่น-ด้านอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่คิดว่าใช้แก๊สโซฮอลล์แล้วแรงม้าตก...ไม่จริง มีผลเป็นตัวเลขยืนยัน เล่มหน้ามีบทความเรื่องเกี่ยวกับแก๊สโซฮอล์ทดสอบและมีเนื้อหาในแง่มุมอื่น ต้องติดตาม THAIDRiVER กันต่อไป

 

คราว หน้าดูกันชัดๆ ว่า ใช้เอธานอลแล้วรถสแตนดาร์ดโรงงานจะแรงกว่าเบนซิน ทั้งที่คนทั่วไปเชื่อว่า แค่เติมเอธานอลลงไปเป็นแก๊สโซฮอล์อี10 ยังแรงตกตั้งเยอะ แล้วทำไมอี85 หรือเอธานอลล้วน จึงแรงกว่าเบนซิน บอกใบ้ว่าจริงๆ แล้วเอธานอลมีค่าความร้อน ต่อกรัมน้อยกว่าก็จริง แต่สามารถและจะต้องใส่เข้าไปในเครื่องยนต์มากกว่า เมื่อใส่ได้หลายกรัมกว่า รวมค่าความร้อนออกมาแล้วจึงทำให้ เครื่องยนต์แรงกว่าสารพัดรถแข่งในโลกใช้เอธานอลทั้งแบบผสมหรือเพียวๆ แต่คนไทยหวาดระแวง เล่มหน้าอ่านบทความเรื่องนี้กันต่อในแง่มุมุมอื่นครับ

 

Sanook! Auto Comment

 

นี่เป้นเรื่องจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ แต่สาเหตุที่คนไทยมีความเชื่อว่าแก๊สโซฮอลล์จะทำให้มีปัญหาต่อเครื่องยนตืนั้น โดยมากมักเกิดจากกลุ่มช่างที่ แม้พวกเข้าจะค่อนข้างมีความรู้ความใจในงานซ่อม แต่ว่าเมื่อมีเหตุที่ผิดปกติ ก้เลยมักเหมาเอาว่าส่วนหนึ่งมากจากน้ำมันที่ไม่ได้คุณภาพ ยังไง เมื่อมีการพิสูจน์แล้ว เราควรลองเปลี่ยนทัศนคติดูบ้างอย่างอคติมากเกินไป

 

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ THAIDRiVER พิสูจน์จริง ลบความเชื่อที่ผิดในวงกว้าง ชัดเจนว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยช้า กว่าเบนซิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook