พับปรับใหญ่ภาษีรถยนต์ คลังลั่น ก.พ. จบแน่
สรรพสามิตลั่นปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์จบเดือนนี้ แย้มพับปรับใหญ่ ค่ายรถแห่วอนขอความชัดเจน
นายพงศ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ทางกรมสรรสามิตเตรียมนพดสนอโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ให้กับนาย มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งแนวทางการเก็บภาษีรถยนต์ใหม่นี้จะเป"นธรรมต่อผู้ประกอบการ ทั้งยังสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แล้วยังไม่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้อีกด้วย
"ขณะนี้คณะทำงานปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ที่มีทั้งกรมสรรพสามิต กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ได้หารือกันอย่างเคร่งเครียด ซึ่งคาดว่าผลออกมาจะไม่มีการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์มากตามที่คาดไว้ก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ เพราะมีการลงทุนผลิตภายใต้โครงสร้างภาษีปัจจุบัน
ส่วนการปรับโครงสร้างภาษีรถกระบะดัดแปลงนั้นต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ เพราะเป็นโปรดักแชมป์เปี้ยน แต่ในส่วนของรถยนต์พลังงานทางเลือก ต้องมีการทบทวนว่าการลดภาษีที่ผ่านมาสามารถประหยัดการใช้พลังงานได้จริงหรือไม่"
นาย พงศ์ภาณุ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอโครงสร้างภาษีให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังต้องรอการพิจารณาจากส่วนของกระทรวงการคลังร่วมด้วย จึงจะได้ทราบว่า โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่จะออกมาเป็นเช่นไร
ด้าน นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายบริษัทต้องการหารือร่วมกับ สศค. เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการพัฒนาและผลิตรถยนต์
อย่างไรก็ดี สศค. ได้ทำการวิเคราะห์โครงสร้างภาษีรถยนต์ แล้วเห็นว่าการจัดเก็บภาษีตามลักษณะการใช้สอยนั้นควรคงไว้เช่นเดิม แต่ในส่วนที่จัดเก็บตามปริมาตรของกระบอกสูบ ควรมีการปรับเปลี่ยน เป็นการคิดตามอัตราการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงต่อระยะทาง หรือค่าการปล่อยมลพิษต่อระยะทาง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันอัตราภาษีรถยนต์นั่งที่มีขนาดซีซีไม่เกิน 2,000 ซีซี และแรงม้าไม่เกิน 220 แรงม้า จะมีอัตราภาษีต่ำที่สุดในประเภทรถยนต์นั่งโดยคิดภาษีในอัตรา 30%.
ภาพประกอบจาก Gettyimages.com
Sanook! Auto Comment
น่าสนใจอย่างมากเกี่ยวกับการปรับภาษีรถยนต์ที่แม้ตอนนี้ความหวังจะลดน้อยลงไป เนื่องจากคงจะไม่ใหญ่อย่างที่คิด แต่ก้ยังเป้นที่น่าสนใจ ด้วยแนวทางความประหยัดที่น่าจะก้าวเข้ามามีบทบาทในการคิดภาษีมากยิ่งขึ้น