ทดสอบลับ New MAZDA3 ครั้งแรกในไทย ก่อนเปิดตัว กลางมีนา 54 Exclusive TestDrive โดย วรพล สิงห์เขียวพง
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมแปลกแหวกแนวครั้งแรกในไทย จัดให้สื่อมวลชนกลุ่มเล็กที่ได้รับการคัดสรร เพื่อทดสอบรถรุ่นใหม่แบบลับ พรางตัวด้วยการคลุมดำที่หัวและท้ายรถ คล้ายกับการทดสอบในต่างประเทศก่อนเปิดตัว (Spy Shot) ครั้งแรกในไทยของมาสด้า3 ใหม่ และเป็นครั้งแรกของสนามโบนันซา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ เขาใหญ่
มาสด้า 3 รุ่นแรกทำตลาดในไทยมาตั้งแต่ช่วงปี 2004 โดยนำเข้าจากโรงงานประกอบรถในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราภาษีนำเข้าถูกเพราะอยู่ในภูมิภาคอาเชียน ทำตลาดด้วย 2 ทางเลือกตัวถัง ซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบ็ค 5 ประตู พร้อม 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ 1,600 และ 2,000 ซีซี โดยชูภาพลักษณ์เป็นรถให้การตอบสนองความเป็นสปอร์ตแบบ ZOOM-ZOOM ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย น่าแปลกที่ขายดีขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งขายดีอย่างชัดเจนหลังเปิดตัวไปแล้ว 1-2 ปี แปลกยิ่งไปอีกที่ช่วงปลายอายุตลาดก็ขายได้เรื่อยๆ เหมือนว่าคนเห็นรถบนถนนแล้วรู้สึกว่าดูดี หรือการพูดปากต่อปากถึงสมรรถนะจากผู้ที่ซื้อไปใช้ก่อนหน้า แม้ในปี 2010 ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ไปแล้วในต่างประเทศ ไทยไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้ายก็ยังขายได้เรื่อยๆ
ในไทยรถซีดานนับเป็นตลาดหลัก และรถขนาดกลางที่มีรุ่นเครื่องยนต์ 1,600-1,800 ซีซี พร้อมรุ่นท๊อปเป็น 2,000 ซีซี ซึ่งรุ่นท๊อปมักขายได้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายโดยรวมเท่านั้น
มาสด้า3 โดยรวมแปลกกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน มียอดขายรุ่น 5 ประตูมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และถ้าแบ่งด้วยเครื่องยนต์ รุ่น 2,000 ซีซี ขายได้กว่า 20 เปอร์เซ็นต์
ถึงเวลาที่ไทยจะต้องเปิดตัวมาสด้า3 ใหม่ ช้ากว่าตลาดโลกบ้าง แต่ก็ไม่นานนัก เปลี่ยนโฉมทั้งคัน แม้บางมุมจะมีความคล้าย แต่มีหลายจุดที่สังเกตให้ทราบถึงความแตกต่างได้ง่ายๆ ที่สำคัญ รุ่นใหม่นี้ประกอบในประเทศไทยที่โรงงานขนาดยักษ์ในจังหวัดระยอง ซึ่งว่ากันว่าคนไทยมีฝีมือประกอบรถไม่แพ้ชาติใด และหลายคนให้ความเห็น (ส่วนตัว) ว่าดีกว่าฟิลิปปินส์ !
มาสด้า3 โฉมปัจจุบัน ที่ขายอยู่ในไทย
ข่าวกระเซ็นกระสายมาว่า มาสด้า3 จะเปิดตัวในไทยช่วงต้นปี 2011 ซึ่งก็ไม่คลาดเคลื่อนจากความจริง แต่มาสด้าทำแปลก นับเป็นครั้งแรกที่จัดทดสอบลับของรถรุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดตัว พร้อมอนุญาตให้เผยแพร่รถพรางตัว และบอกกำหนดการเปิดตัวชัดเจนว่าเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคม 2011 เหมือนว่ารถรุ่นเก่าเคลียร์สต็อกเสร็จแล้ว และต้องการสร้างกระแสให้รุ่นใหม่ล่วงหน้า ทั้งที่รถยังไม่ขึ้นสายการผลิต หรือเรียกในวงการอุตสาหกรรมว่า Job1 ยังไม่เริ่ม
มาสด้า3 ใหม่ในต่างประเทศ
มาสด้า นำเข้ารถมาเป็นตัวอย่างและทดสอบจากญี่ปุ่น สเปคใกล้เคียงกับไทย มาใช้ในกิจกรรมนี้ 2 คัน เป็นรุ่น 4 และ 5 ประตู โดยมีรถทดลองประกอบในไทยเป็นรุ่น 5 ประตู 1 คัน มีความแปลกอยู่ 2 อย่าง คือ แปลกที่รถและตัวสนาม
ตัวรถทดสอบ ถูกพรางตัวด้วยหนังเทียมหรือไวนิลเย็บเข้ารูปสีดำในส่วนหัวและท้าย และแปลกที่สนามทดสอบ ซึ่งมักใช้สนามพีระ-พัทยา หรือสนามใหม่แก่งกระจาน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการทดสอบรถที่จัดโดยบริษัทรถในสนามใหม่เอี่ยมที่ ราดผิวแทร็คเสร็จแล้ว แต่โดยรวมยังไม่เสร็จและอีกหลายเดือนกว่าสนามจะเปิดเต็มตัว
รถใหม่ใครก็อยากดูและอยากขับกับมาสด้า3 ในสนามใหม่ บนแทร็ค โบนันซา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ ริมทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งซ้าย ในพื้นที่ของโบนันซา เป็นพื้นที่เดียวกับที่เคยจัดคอนเสิร์ตมาหลายครั้ง นับระยะทางจากแยกเซนทรัลลาดพร้าว ไปทางวิภาวดี พหลโยธิน บายพาสสระบุรี มิตรภาพ และธนรัชต์ รวมเลี้ยวซ้ายเข้าไป (มีทางเข้า-ออก 3 ทาง) ประมาณ 170 กม.
บ่ายวันที่ 10 ก.พ. 54 สื่อมวลชนไทยที่ถูกคัดสรรประมาณ 10 คน เดินทางเข้าสนามโบนันซาฯ ก็ได้พบมุมมองใหม่ของสนามแข่งรถที่ติดภูเขาเตี้ยๆ อย่าถามถึงการแข่งฟอร์มูลา-วัน เพราะเงินลงทุนระดับ 100 ล้านบวกลบอย่างนี้ ทำสนามยิ่งใหญ่ไม่ได้แน่ๆ ความยาวโดยรวมประมาณ 2.8 กม. ผิวแทร็คราดใหม่มาไม่กี่เดือน ผิวเรียบพอประมาณ แต่จับๆ และขับรถดูแล้วพบว่าเกาะแค่พอประมาณ ถือว่าดีพอใช้ได้ ถ้าจะเอาเกาะกว่านี้ ส่วนผสมที่ราดลงไป ต้องเพิ่มเงินอีกกว่า 5 ล้านบาท
ผู้จัดการสนามบอกว่าลายเส้นสนามบางส่วน เลียบแบบมาจาก 3 สนามดังๆ ในโลกนี้ โดยเฉพาะสนามลากูนา-เซกา ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาที่มีความคดโค้งและขึ้นลงเข้าชัดขณะเป็นโค้งด้วย ภาพรวมของสนามมีไว้แข่งในระดับประเทศหรือเอเชียในรายการเล็กๆ ได้ ถ้าปรับปรุงและทำสมบูรณ์อาจใช้แข่งโมโต2 มอเตอร์ไซค์ระดับโลกรุ่นรองๆ ได้ โดยรวมแล้วดูเหมือนสนามแข่งรถขนาดเล็กทั่วไปในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป จะเด่นหรือด้อยกว่าสนามพีระก็ไม่มากนัก เน้นว่าอย่าฝันถึงการแข่งรถล้อเปิด-ฟอร์มูลารุ่นใหญ่ๆ เพราะความกว้างและความยาว รวมถึง Run Off ของสนามนี้ไม่เพียงพอ
เจ้าของสนาม (และโบนันซา) ไม่น่าได้กำไรจากการจัดแข่งรถหรือเช่าสนาม แต่มีการสนามนี้ จะทำให้พื้นที่โดยรวมของโบนันซา คึกคักและมีราคาขึ้น โดยมีโครงการจะสร้างโรงแรม 200 ห้องริมสนาม รวมถึงสามารถใช้สนามจัดคอนเสิร์ตตามที่เคยจัดได้ และจัดได้ดีกว่าที่เคยเป็นลานดินหรือหญ้า
ครั้งนี้ มาสด้า จัดให้สื่อมวลชนเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถมาสด้ารุ่นปัจจุบัน คันละ 2-3 คน ผมได้ขับมาสด้า3 รุ่น 5 ประตู นับว่าโชคดี เพราะได้ขับยาว และได้เปรียบเทียบสมรรถนะกับรุ่นใหม่ที่จะได้ทดสอบในสนามฯ
ตีนเขาใหญ่ฝั่งซ้าย (เมื่อขึ้นจากทางปากช่อง) อากาศช่วงบ่ายกลางๆ ไม่ร้อนแบบแผดเผา ลมอ่อนๆ พอทำให้ไม่หนืดตัว เต๊นท์ชั่วคราวถูกลางไว้ริมทางตรงที่อนาคตจะเป็นคอนโทรลทาวเวอร์ 3-4 ชั้น
รถมาสด้า3 ใหม่ 3 คัน ถูกเตรียมไว้ 2 คันถูกคุลมผ้า และเมื่อเปิดผ้าจะห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอ แต่สัมผัสและนั่งได้ เป็นรุ่น 5 ประตูที่ทดลองประกอบในไทย ส่วนรุ่น 4 ประตู นำเข้าจากญี่ปุ่นมาชั่วคราวและอีกไม่นานก็ถูกส่งกลับ เพราะแจ้งต่อกรมศุลกากรไว้อย่างนั้นและไม่ได้เสียภาษี
เรื่องการห้ามบันทึกภาพหรือการพราง ตัวรถ นับเป็นนโยบายปกติของบริษัทรถที่ ถ้ายังไม่เปิดตัวก็มักจะไม่เผยแพร่เต็มตัว สำหรับมาสด้า3 ผมไม่ได้เซ็งอะไรกับเรื่องการไม่ให้บันทึกภาพ เพราะรถรุ่นนี้ออกขายในตลาดโลกมาระยะหนึ่งแล้ว เห็นโฉมคันจริงมานานแล้ว ใครๆ ก็เคยเห็นในสารพัดสื่อฯ เพียงแต่อยากทราบเท่านั้นว่า รายละเอียดสเปคไทย เช่น ทรงกันชนหรือช่องลม หรือย่อยๆ จะเป็นแบบไหนก็เท่านั้น
รถคันที่จัดให้ทดสอบ นำเข้าจากญี่ปุ่น ถูกเลือกมาใกล้เคียงกับสเปคที่จะประกอบในไทย เป็นรุ่น 5 ประตู เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ถูกคลุมด้วยไวนิลสีดำที่ตัดเย็บเข้ารูปทั้งส่วนหัวและท้าย ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าส่วนหัว-ท้าย ที่ขายในเมืองไทยจะแตกต่างหรือเหมือนกับที่ญี่ปุ่น เท่าที่เล็งดูคันที่เปิดผ้าคลุม แต่ห้ามถ่ายภาพ ก็พบว่าเหมือนๆ กับสเปคญี่ปุ่น
หากดูเผินๆ หลายคนอาจมองไม่ออกว่าร่นใหม่หรือเก่า แนะนำให้ดูที่กรอบประตูทั้ง 4 บานก็มองเห็นชัดเจนว่าเป็นรุ่นใหม่ ความแตกต่างของรุ่นใหม่ที่ชัดเจน มีหลายจุด เช่น ไฟหน้าที่เป็นทรงเรียวคล้ายกัน รุ่นเก่าออกแนวนอน แต่รุ่นใหม่เฉียงขึ้น บังโคลนหน้ารุ่นใหม่มีแนวโค้งชัดและโป่งขึ้น รุ่น 5 ประตูชัดมากในกรอบกระจกประตูหลังที่รุ่นเก่าเป็นช่องเดียว แต่รุ่นใหม่มีแบ่งเป็นช่อง 3 เหลี่ยมเล็ก ช่อง 3 เหลี่ยมโอเปราที่เสาซี รุ่นใหม่เล็กกว่าอย่างชัดเจน ส่วนรุ่น 4 ประตู ไฟท้ายก็ต่างจากรุ่นเดิมชัด แม้กรอบประตูหลังจะคล้ายเดิมก็ตาม
สรุป : ความแตกต่างกับจุดสังเกตุที่ชัดเจนว่าเป็นรุ่นใหม่หรือเก่า
หลายคนบอกว่า รูปลักษณ์รุ่นเก่ากับใหม่ดุคล้ายกันหากมองไม่ละเอียด ผมพอจะสรุปให้ได้ว่า เปลี่ยนทั้งคันแบบโมเดลเชนจ์ สามารถแยกรุ่นได้ชัดเจนจาก
1. ไฟหน้า : ทรงเรียวคล้ายเมล็ดข้าวเหมือนกัน รุ่นใหม่วางแนวนอน แต่รุ่นใหม่เพรียวยาวและเฉียงขึ้นชัด
2. ไฟท้าย : รุ่นใหม่เตี้ยและยาว (ในแนวนอน) ขึ้นอย่างชัดเจน
3. มุมมองด้านข้าง : แนวเส้นนอนตลอดแนวแยกได้ไม่ชัดเจนนัก ทั้งที่สันข้างต่างแนวกัน แต่ชัดเจนกว่าต้องดูที่ประตูหลัง
รุ่น 5 ประตู ประตูหลังมีกรอบกระจกรุ่นเก่าเป็นข่อเดียว ส่วนรุ่นใหม่มีแบ่งช่อง 3 เหลี่ยมเล็ก และกรอบประตูโดยรวมลู่ลงเตี้ยกว่า
ส่วนส่วนรุ่น 4 ประตู ดูกรอบประตูหลังก็แตกต่าง แต่แยกยากกว่ารุ่น 5 ประตูที่ชัดเจนกับการมีกรอบกระจก 3 เหลี่ยมเล็กเพิ่มขึ้นมาที่ประตูหลัง รุ่น 4 ประตู เล็งที่ไฟท้ายเตี้ยยาวจะชัดเจนกว่าว่าเป็นรุ่นใหม่
สนามไม่คุ้นเหมือนพีระที่ผมขับทั้งทดสอบและเคยแข่งรวมแล้วหลายร้อยรอบ รถถูกพลางด้วยไวนิลทำให้ถูกลมตีกระพือส่งเสียงกวนตลอด การเก็บเสียงดีหรือไม่จึงไม่ต้องพิสูจน์ หลายคนสงสัยว่าขับดีไหม ทั้งอัตราเร่งและการทรงตัว จากการขับคนละ 3 รอบ โดยก่อนขับเองมี พีท ทองเจือ (นักแข่ง) ขับแนะนำไลน์ในสนามนี้ และเมื่อได้สัมผัสตอบสั้นๆ ว่า อัตราเร่งดี แต่ไม่ต่างชัดเจนเท่ากับช่วงล่าง โดยเฉพาะช่วงล่างด้านหลังที่เซ็ทได้ดีขึ้นชัดเจน ส่วนระบบเกียร์ก็ที่ฉลาดขึ้นเมื่อเข้าเกียร์ D แล้วพลิ้วไปในสนามคดโค้งขึ้น-ลงเนินได้แบบไม่ต้องเกร็ง แค่เร่ง เบรก และเลี้ยวเท่านั้น ถ้าจะเล่นเกียร์ +/- เองก็ทำได้ง่ายๆ รุ่นขายจริงบางรุ่นคงมีแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย
หลายคนอ่านแล้วก็รีบบอกว่าเชียร์รถรุ่นใหม่ว่าดี ผมก็บอกได้จากการขับมาสด้า3 รุ่นเก่าไปยาวถึงระดับ 200 กม. เทียบกับรุ่นใหม่ที่ขับในสนาม 3 รอบเกือบ 9 กม. และทิ้งท้ายด้วยการขับรุ่นเก่าในสนามอีก 2 รอบ ก็บอกได้ว่า เกาะขึ้น เกียร์ดีขึ้น ลดความกระด้างลง แต่ขับสนุกในสไตล์ ZOOM-ZOOM เหมือนเดิม
ถ้าจะบอกว่า บริษัทรถใดทำรถรุ่นใหม่ออกมา ย่อมต้องดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า ไม่มากก็น้อย...คุณจะเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นไหม
กลางเดือนมีนาคม 2011 นี้ มาสด้า3 ใหม่ จะเปิดตัวในไทยครบทั้ง 2 ตัวถัง 4 และ 5 ประตู และ 2 รุ่นเครื่องยนต์ 1,600 และ 2,000 ซีซี จำนวนรุ่นย่อยพอๆ เดิม ราคาใกล้เคียงเดิม รุ่น 1,600 ซีซี ประมาณ 8-9 แสนบาท รุ่น 2,000 ซีซีเริ่มที่ประมาณ 9 แสนกลางๆ
ยกราคารุ่นเก่าในช่วงปลายปี 2010 มาแสดงให้ดู และเป็นรุ่นพิเศษด้วย
ดังนั้นรุ่นใหม่ที่ทางมาสด้าบอกว่าราคาจะพอๆ กับรุ่นเก่า จึงน่าจะไม่ต่างจากนี้มากนัก
Groove1,600cc 755,000 บาท
Spirit 1,600cc 830,000 บาท
Spirit Sport เบาะหนัง 1,600cc 857,000 บาท
Maxx 2,000cc 966,000 บาท
Maxx Sport S/R 2,000cc 1,035,000 บาท
***เน้นว่าราคาทั้งหมดนี้ เป็นของรุ่นเก่าในร่นพิเศษ
พบกับมาสด้า3 ใหม่ ผลิตโดยคนไทย ในเมืองไทย เพื่อคนไทยหัวใจ ZOOM-ZOOM กลางเดือนมีนาคม 2011
ขอบคุณ เรื่องและภาพจากนิตยสาร Thaidriver
Sanook! Auto Comment
เสียดายมากๆที่เราไม่ได้มีโอกาสไปทดสอบขับ แต่หวังว่าเมื่อรถเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วมาสด้าคงจะให้เราได้ลองขับเจ้ารถรุ่นใหม่คันนี้บ้าง ที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เมื่อเรากำลังกล่าวถึง รถคอมแพ็คยอดนิยมในตลาดเมืองไทย แน่นอนในไม่ช้ารถรุ่นนี้จะเปิดตัวเป็นให้เราได้ชม และเราคาดหวังว่ามันน่าจะประทับใจอย่างเลยทีเดียว