ทดสอบลับ New MAZDA3 ครั้งแรกในไทย ก่อนเปิดตัว กลางมีนา 54 Exclusive TestDrive โดย วรพล สิงห์เขียวพง

ทดสอบลับ New MAZDA3 ครั้งแรกในไทย ก่อนเปิดตัว กลางมีนา 54 Exclusive TestDrive โดย วรพล สิงห์เขียวพง

ทดสอบลับ New MAZDA3 ครั้งแรกในไทย ก่อนเปิดตัว กลางมีนา 54  Exclusive TestDrive โดย วรพล สิงห์เขียวพง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมแปลกแหวกแนวครั้งแรกในไทย จัดให้สื่อมวลชนกลุ่มเล็กที่ได้รับการคัดสรร เพื่อทดสอบรถรุ่นใหม่แบบลับ พรางตัวด้วยการคลุมดำที่หัวและท้ายรถ คล้ายกับการทดสอบในต่างประเทศก่อนเปิดตัว (Spy Shot) ครั้งแรกในไทยของมาสด้า3 ใหม่ และเป็นครั้งแรกของสนามโบนันซา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ เขาใหญ่

มาสด้า 3 รุ่นแรกทำตลาดในไทยมาตั้งแต่ช่วงปี 2004 โดยนำเข้าจากโรงงานประกอบรถในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราภาษีนำเข้าถูกเพราะอยู่ในภูมิภาคอาเชียน ทำตลาดด้วย 2 ทางเลือกตัวถัง ซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบ็ค 5 ประตู พร้อม 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ 1,600 และ 2,000 ซีซี โดยชูภาพลักษณ์เป็นรถให้การตอบสนองความเป็นสปอร์ตแบบ ZOOM-ZOOM ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย น่าแปลกที่ขายดีขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งขายดีอย่างชัดเจนหลังเปิดตัวไปแล้ว 1-2 ปี แปลกยิ่งไปอีกที่ช่วงปลายอายุตลาดก็ขายได้เรื่อยๆ เหมือนว่าคนเห็นรถบนถนนแล้วรู้สึกว่าดูดี หรือการพูดปากต่อปากถึงสมรรถนะจากผู้ที่ซื้อไปใช้ก่อนหน้า แม้ในปี 2010 ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ไปแล้วในต่างประเทศ ไทยไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้ายก็ยังขายได้เรื่อยๆ

ในไทยรถซีดานนับเป็นตลาดหลัก และรถขนาดกลางที่มีรุ่นเครื่องยนต์ 1,600-1,800 ซีซี พร้อมรุ่นท๊อปเป็น 2,000 ซีซี ซึ่งรุ่นท๊อปมักขายได้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายโดยรวมเท่านั้น

มาสด้า3 โดยรวมแปลกกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน มียอดขายรุ่น 5 ประตูมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และถ้าแบ่งด้วยเครื่องยนต์ รุ่น 2,000 ซีซี ขายได้กว่า 20 เปอร์เซ็นต์

ถึงเวลาที่ไทยจะต้องเปิดตัวมาสด้า3 ใหม่ ช้ากว่าตลาดโลกบ้าง แต่ก็ไม่นานนัก เปลี่ยนโฉมทั้งคัน แม้บางมุมจะมีความคล้าย แต่มีหลายจุดที่สังเกตให้ทราบถึงความแตกต่างได้ง่ายๆ ที่สำคัญ รุ่นใหม่นี้ประกอบในประเทศไทยที่โรงงานขนาดยักษ์ในจังหวัดระยอง ซึ่งว่ากันว่าคนไทยมีฝีมือประกอบรถไม่แพ้ชาติใด และหลายคนให้ความเห็น (ส่วนตัว) ว่าดีกว่าฟิลิปปินส์ !

มาสด้า3 โฉมปัจจุบัน ที่ขายอยู่ในไทย

ข่าวกระเซ็นกระสายมาว่า มาสด้า3 จะเปิดตัวในไทยช่วงต้นปี 2011 ซึ่งก็ไม่คลาดเคลื่อนจากความจริง แต่มาสด้าทำแปลก นับเป็นครั้งแรกที่จัดทดสอบลับของรถรุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดตัว พร้อมอนุญาตให้เผยแพร่รถพรางตัว และบอกกำหนดการเปิดตัวชัดเจนว่าเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคม 2011 เหมือนว่ารถรุ่นเก่าเคลียร์สต็อกเสร็จแล้ว และต้องการสร้างกระแสให้รุ่นใหม่ล่วงหน้า ทั้งที่รถยังไม่ขึ้นสายการผลิต หรือเรียกในวงการอุตสาหกรรมว่า Job1 ยังไม่เริ่ม

มาสด้า3 ใหม่ในต่างประเทศ

มาสด้า นำเข้ารถมาเป็นตัวอย่างและทดสอบจากญี่ปุ่น สเปคใกล้เคียงกับไทย มาใช้ในกิจกรรมนี้ 2 คัน เป็นรุ่น 4 และ 5 ประตู โดยมีรถทดลองประกอบในไทยเป็นรุ่น 5 ประตู 1 คัน มีความแปลกอยู่ 2 อย่าง คือ แปลกที่รถและตัวสนาม

ตัวรถทดสอบ ถูกพรางตัวด้วยหนังเทียมหรือไวนิลเย็บเข้ารูปสีดำในส่วนหัวและท้าย และแปลกที่สนามทดสอบ ซึ่งมักใช้สนามพีระ-พัทยา หรือสนามใหม่แก่งกระจาน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการทดสอบรถที่จัดโดยบริษัทรถในสนามใหม่เอี่ยมที่ ราดผิวแทร็คเสร็จแล้ว แต่โดยรวมยังไม่เสร็จและอีกหลายเดือนกว่าสนามจะเปิดเต็มตัว

รถใหม่ใครก็อยากดูและอยากขับกับมาสด้า3 ในสนามใหม่ บนแทร็ค โบนันซา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ ริมทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งซ้าย ในพื้นที่ของโบนันซา เป็นพื้นที่เดียวกับที่เคยจัดคอนเสิร์ตมาหลายครั้ง นับระยะทางจากแยกเซนทรัลลาดพร้าว ไปทางวิภาวดี พหลโยธิน บายพาสสระบุรี มิตรภาพ และธนรัชต์ รวมเลี้ยวซ้ายเข้าไป (มีทางเข้า-ออก 3 ทาง) ประมาณ 170 กม.

บ่ายวันที่ 10 ก.พ. 54 สื่อมวลชนไทยที่ถูกคัดสรรประมาณ 10 คน เดินทางเข้าสนามโบนันซาฯ ก็ได้พบมุมมองใหม่ของสนามแข่งรถที่ติดภูเขาเตี้ยๆ อย่าถามถึงการแข่งฟอร์มูลา-วัน เพราะเงินลงทุนระดับ 100 ล้านบวกลบอย่างนี้ ทำสนามยิ่งใหญ่ไม่ได้แน่ๆ ความยาวโดยรวมประมาณ 2.8 กม. ผิวแทร็คราดใหม่มาไม่กี่เดือน ผิวเรียบพอประมาณ แต่จับๆ และขับรถดูแล้วพบว่าเกาะแค่พอประมาณ ถือว่าดีพอใช้ได้ ถ้าจะเอาเกาะกว่านี้ ส่วนผสมที่ราดลงไป ต้องเพิ่มเงินอีกกว่า 5 ล้านบาท

ผู้จัดการสนามบอกว่าลายเส้นสนามบางส่วน เลียบแบบมาจาก 3 สนามดังๆ ในโลกนี้ โดยเฉพาะสนามลากูนา-เซกา ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาที่มีความคดโค้งและขึ้นลงเข้าชัดขณะเป็นโค้งด้วย ภาพรวมของสนามมีไว้แข่งในระดับประเทศหรือเอเชียในรายการเล็กๆ ได้ ถ้าปรับปรุงและทำสมบูรณ์อาจใช้แข่งโมโต2 มอเตอร์ไซค์ระดับโลกรุ่นรองๆ ได้ โดยรวมแล้วดูเหมือนสนามแข่งรถขนาดเล็กทั่วไปในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป จะเด่นหรือด้อยกว่าสนามพีระก็ไม่มากนัก เน้นว่าอย่าฝันถึงการแข่งรถล้อเปิด-ฟอร์มูลารุ่นใหญ่ๆ เพราะความกว้างและความยาว รวมถึง Run Off ของสนามนี้ไม่เพียงพอ

เจ้าของสนาม (และโบนันซา) ไม่น่าได้กำไรจากการจัดแข่งรถหรือเช่าสนาม แต่มีการสนามนี้ จะทำให้พื้นที่โดยรวมของโบนันซา คึกคักและมีราคาขึ้น โดยมีโครงการจะสร้างโรงแรม 200 ห้องริมสนาม รวมถึงสามารถใช้สนามจัดคอนเสิร์ตตามที่เคยจัดได้ และจัดได้ดีกว่าที่เคยเป็นลานดินหรือหญ้า

ครั้งนี้ มาสด้า จัดให้สื่อมวลชนเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถมาสด้ารุ่นปัจจุบัน คันละ 2-3 คน ผมได้ขับมาสด้า3 รุ่น 5 ประตู นับว่าโชคดี เพราะได้ขับยาว และได้เปรียบเทียบสมรรถนะกับรุ่นใหม่ที่จะได้ทดสอบในสนามฯ

ตีนเขาใหญ่ฝั่งซ้าย (เมื่อขึ้นจากทางปากช่อง) อากาศช่วงบ่ายกลางๆ ไม่ร้อนแบบแผดเผา ลมอ่อนๆ พอทำให้ไม่หนืดตัว เต๊นท์ชั่วคราวถูกลางไว้ริมทางตรงที่อนาคตจะเป็นคอนโทรลทาวเวอร์ 3-4 ชั้น

รถมาสด้า3 ใหม่ 3 คัน ถูกเตรียมไว้ 2 คันถูกคุลมผ้า และเมื่อเปิดผ้าจะห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอ แต่สัมผัสและนั่งได้ เป็นรุ่น 5 ประตูที่ทดลองประกอบในไทย ส่วนรุ่น 4 ประตู นำเข้าจากญี่ปุ่นมาชั่วคราวและอีกไม่นานก็ถูกส่งกลับ เพราะแจ้งต่อกรมศุลกากรไว้อย่างนั้นและไม่ได้เสียภาษี

เรื่องการห้ามบันทึกภาพหรือการพราง ตัวรถ นับเป็นนโยบายปกติของบริษัทรถที่ ถ้ายังไม่เปิดตัวก็มักจะไม่เผยแพร่เต็มตัว สำหรับมาสด้า3 ผมไม่ได้เซ็งอะไรกับเรื่องการไม่ให้บันทึกภาพ เพราะรถรุ่นนี้ออกขายในตลาดโลกมาระยะหนึ่งแล้ว เห็นโฉมคันจริงมานานแล้ว ใครๆ ก็เคยเห็นในสารพัดสื่อฯ เพียงแต่อยากทราบเท่านั้นว่า รายละเอียดสเปคไทย เช่น ทรงกันชนหรือช่องลม หรือย่อยๆ จะเป็นแบบไหนก็เท่านั้น

รถคันที่จัดให้ทดสอบ นำเข้าจากญี่ปุ่น ถูกเลือกมาใกล้เคียงกับสเปคที่จะประกอบในไทย เป็นรุ่น 5 ประตู เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ถูกคลุมด้วยไวนิลสีดำที่ตัดเย็บเข้ารูปทั้งส่วนหัวและท้าย ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าส่วนหัว-ท้าย ที่ขายในเมืองไทยจะแตกต่างหรือเหมือนกับที่ญี่ปุ่น เท่าที่เล็งดูคันที่เปิดผ้าคลุม แต่ห้ามถ่ายภาพ ก็พบว่าเหมือนๆ กับสเปคญี่ปุ่น

หากดูเผินๆ หลายคนอาจมองไม่ออกว่าร่นใหม่หรือเก่า แนะนำให้ดูที่กรอบประตูทั้ง 4 บานก็มองเห็นชัดเจนว่าเป็นรุ่นใหม่ ความแตกต่างของรุ่นใหม่ที่ชัดเจน มีหลายจุด เช่น ไฟหน้าที่เป็นทรงเรียวคล้ายกัน รุ่นเก่าออกแนวนอน แต่รุ่นใหม่เฉียงขึ้น บังโคลนหน้ารุ่นใหม่มีแนวโค้งชัดและโป่งขึ้น รุ่น 5 ประตูชัดมากในกรอบกระจกประตูหลังที่รุ่นเก่าเป็นช่องเดียว แต่รุ่นใหม่มีแบ่งเป็นช่อง 3 เหลี่ยมเล็ก ช่อง 3 เหลี่ยมโอเปราที่เสาซี รุ่นใหม่เล็กกว่าอย่างชัดเจน ส่วนรุ่น 4 ประตู ไฟท้ายก็ต่างจากรุ่นเดิมชัด แม้กรอบประตูหลังจะคล้ายเดิมก็ตาม

สรุป : ความแตกต่างกับจุดสังเกตุที่ชัดเจนว่าเป็นรุ่นใหม่หรือเก่า

หลายคนบอกว่า รูปลักษณ์รุ่นเก่ากับใหม่ดุคล้ายกันหากมองไม่ละเอียด ผมพอจะสรุปให้ได้ว่า เปลี่ยนทั้งคันแบบโมเดลเชนจ์ สามารถแยกรุ่นได้ชัดเจนจาก

1. ไฟหน้า : ทรงเรียวคล้ายเมล็ดข้าวเหมือนกัน รุ่นใหม่วางแนวนอน แต่รุ่นใหม่เพรียวยาวและเฉียงขึ้นชัด

2. ไฟท้าย : รุ่นใหม่เตี้ยและยาว (ในแนวนอน) ขึ้นอย่างชัดเจน

3. มุมมองด้านข้าง : แนวเส้นนอนตลอดแนวแยกได้ไม่ชัดเจนนัก ทั้งที่สันข้างต่างแนวกัน แต่ชัดเจนกว่าต้องดูที่ประตูหลัง

รุ่น 5 ประตู ประตูหลังมีกรอบกระจกรุ่นเก่าเป็นข่อเดียว ส่วนรุ่นใหม่มีแบ่งช่อง 3 เหลี่ยมเล็ก และกรอบประตูโดยรวมลู่ลงเตี้ยกว่า

ส่วนส่วนรุ่น 4 ประตู ดูกรอบประตูหลังก็แตกต่าง แต่แยกยากกว่ารุ่น 5 ประตูที่ชัดเจนกับการมีกรอบกระจก 3 เหลี่ยมเล็กเพิ่มขึ้นมาที่ประตูหลัง รุ่น 4 ประตู เล็งที่ไฟท้ายเตี้ยยาวจะชัดเจนกว่าว่าเป็นรุ่นใหม่

สนามไม่คุ้นเหมือนพีระที่ผมขับทั้งทดสอบและเคยแข่งรวมแล้วหลายร้อยรอบ รถถูกพลางด้วยไวนิลทำให้ถูกลมตีกระพือส่งเสียงกวนตลอด การเก็บเสียงดีหรือไม่จึงไม่ต้องพิสูจน์ หลายคนสงสัยว่าขับดีไหม ทั้งอัตราเร่งและการทรงตัว จากการขับคนละ 3 รอบ โดยก่อนขับเองมี พีท ทองเจือ (นักแข่ง) ขับแนะนำไลน์ในสนามนี้ และเมื่อได้สัมผัสตอบสั้นๆ ว่า อัตราเร่งดี แต่ไม่ต่างชัดเจนเท่ากับช่วงล่าง โดยเฉพาะช่วงล่างด้านหลังที่เซ็ทได้ดีขึ้นชัดเจน ส่วนระบบเกียร์ก็ที่ฉลาดขึ้นเมื่อเข้าเกียร์ D แล้วพลิ้วไปในสนามคดโค้งขึ้น-ลงเนินได้แบบไม่ต้องเกร็ง แค่เร่ง เบรก และเลี้ยวเท่านั้น ถ้าจะเล่นเกียร์ +/- เองก็ทำได้ง่ายๆ รุ่นขายจริงบางรุ่นคงมีแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย

หลายคนอ่านแล้วก็รีบบอกว่าเชียร์รถรุ่นใหม่ว่าดี ผมก็บอกได้จากการขับมาสด้า3 รุ่นเก่าไปยาวถึงระดับ 200 กม. เทียบกับรุ่นใหม่ที่ขับในสนาม 3 รอบเกือบ 9 กม. และทิ้งท้ายด้วยการขับรุ่นเก่าในสนามอีก 2 รอบ ก็บอกได้ว่า เกาะขึ้น เกียร์ดีขึ้น ลดความกระด้างลง แต่ขับสนุกในสไตล์ ZOOM-ZOOM เหมือนเดิม

ถ้าจะบอกว่า บริษัทรถใดทำรถรุ่นใหม่ออกมา ย่อมต้องดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า ไม่มากก็น้อย...คุณจะเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นไหม

กลางเดือนมีนาคม 2011 นี้ มาสด้า3 ใหม่ จะเปิดตัวในไทยครบทั้ง 2 ตัวถัง 4 และ 5 ประตู และ 2 รุ่นเครื่องยนต์ 1,600 และ 2,000 ซีซี จำนวนรุ่นย่อยพอๆ เดิม ราคาใกล้เคียงเดิม รุ่น 1,600 ซีซี ประมาณ 8-9 แสนบาท รุ่น 2,000 ซีซีเริ่มที่ประมาณ 9 แสนกลางๆ

 

ยกราคารุ่นเก่าในช่วงปลายปี 2010 มาแสดงให้ดู และเป็นรุ่นพิเศษด้วย

ดังนั้นรุ่นใหม่ที่ทางมาสด้าบอกว่าราคาจะพอๆ กับรุ่นเก่า จึงน่าจะไม่ต่างจากนี้มากนัก

Groove1,600cc 755,000 บาท

Spirit 1,600cc 830,000 บาท

Spirit Sport เบาะหนัง 1,600cc 857,000 บาท

Maxx 2,000cc 966,000 บาท

Maxx Sport S/R 2,000cc 1,035,000 บาท

***เน้นว่าราคาทั้งหมดนี้ เป็นของรุ่นเก่าในร่นพิเศษ

 

พบกับมาสด้า3 ใหม่ ผลิตโดยคนไทย ในเมืองไทย เพื่อคนไทยหัวใจ ZOOM-ZOOM กลางเดือนมีนาคม 2011


ขอบคุณ เรื่องและภาพจากนิตยสาร Thaidriver

 

Sanook! Auto Comment

 

เสียดายมากๆที่เราไม่ได้มีโอกาสไปทดสอบขับ แต่หวังว่าเมื่อรถเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วมาสด้าคงจะให้เราได้ลองขับเจ้ารถรุ่นใหม่คันนี้บ้าง ที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เมื่อเรากำลังกล่าวถึง รถคอมแพ็คยอดนิยมในตลาดเมืองไทย แน่นอนในไม่ช้ารถรุ่นนี้จะเปิดตัวเป็นให้เราได้ชม และเราคาดหวังว่ามันน่าจะประทับใจอย่างเลยทีเดียว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook