มร.โทรุ ฮาเซกาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดว่า ตั้งแต่ประกาศแผนการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง 2012 เมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็นสองเท่าในปี 2012 นิสสันดำเนินงานเป็นไปตามที่ได้วางไว้ ทั้งยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด ผลิตภัณฑ์ แผนงานดีลเลอร์และบริการหลังการขาย

โดยปีงบประมาณ 2553 (สิ้น มี.ค.2554) จะมียอดขายกว่า 62,500 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 7.4% สูงจากปีที่ผ่านมา 80% ซึ่งเป็นผลจาก นิสสัน มาร์ซ อีโค คาร์ คันแรกในไทยและรถรุ่นอื่นๆ และปี 2554 (เริ่ม เม.ย.54 - มี.ค.55) ตั้งเป้าขายกว่า 76,500 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 9% โดยใช้กลยุทธ์การขาย การตลาดและสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ต่อเนื่อง นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเน้นคุณภาพการผลิต

จากความสำเร็จการเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ นิสสัน มาร์ซ (อีโค่ คาร์) นิสสันได้ต่อยอดด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและรถยนต์พลังงาน ไฟฟ้า "นิสสัน ลีฟ" มาไทยเป็นครั้งแรก โดยจะเผยโฉมในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 นี้

"ลีฟ ที่มาโชว์ไม่ได้นำมาขาย ไม่ใช่คอนเซ็ปป์คาร์ "ลีฟ" คือรถพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตและขายในตลาดจริง สามารถวิ่งได้ 160 กม.ต่อชม. ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าปกติที่บ้าน 8 ชม. มีโหมดชาร์จเร็วภายใน 30 นาที เป็นรถที่จะมาสานต่อความเป็นผู้นำด้านรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยวางแผนประชาสัมพันธ์รถรุ่นนี้ต่อเนื่อง และเตรียมงานเพื่อให้ลูกค้าได้ทดสอบขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรกอีกด้วย"

รถยนต์ไฟฟ้า 100% "ลีฟ" คันนี้ นิสสันนำเข้ามาศึกษาและวิจัยตลาด เพื่อทดสอบว่า เหมาะสมต่อสภาพภูมิอากาศไทยเพียงใด ล่าสุดเจรจากับภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสนใจกับโครงการรถยนต์ไฟฟ้า 100% แล้ว

"นิสสันชี้ให้เห็นข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อป้อนตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นโอกาสของไทยในการสร้างโปรดักแชมเปี้ยนเบอร์ 3 ต่อจากปิกอัพและอีโคคาร์ในอนาคต โดยเฉพาะโครงสร้างภาษีที่รัฐจะให้การสนับสนุน เราเพียงแค่ให้รัฐอุดหนุนเท่าเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียมีอัตรา 0% และยังศึกษาถึงสถานีหรือจุดชาร์จไฟฟ้าให้กับรถด้วย หากทุกอย่างขับเคลื่อนได้จริง คาดว่าราว 3-5 ปีนี้ โครงการรถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดขึ้นในไทย"

ส่วนสถานการณ์ภัยพิบัติแผ่นไหว สึนามิ และโรงงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ระเบิด จนส่งผลกระทบวงกว้างต่อชีวิตและความเป็นอยู่คนญี่ปุ่น และระบบเศรษฐกิจประเทศ นิสสันในไทยได้ส่งความช่วยเหลือเบื้องต้นไปช่วยเหลือแล้ว ส่วนการผลิตรถยนต์นิสสัน มาร์ซ เพื่อไปขายที่ญี่ปุ่นและการนำเข้าอะไหล่มาใช้ประกอบรถยนต์นิสสันในไทยนั้น มร.โทรุ ฮาเซกาวา กล่าวเพิ่มเติมว่า

"ตอบไม่ได้ว่าจะส่งผลมากน้อยเพียงใด โดยนิสสัน มาร์ซ ใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ในไทย 87% อินเดีย 8% อีก 5% จากญี่ปุ่น ทราบว่าซับพายเออร์ในญี่ปุ่นประสบปัญหาจากภัยพิบัติ ปัจจุบันกำลังผลิตนิสสัน มาร์ซ ในไทยยังอยู่ในภาวะปกติจนถึงเดือนเมษายนนี้ แต่หากเลยจากนี้ไปต้องพิจารณาดูจากสถานการณ์แบบวันต่อวัน อย่างไรก็ตาม นิสสันไว้วางแผนสำรองไว้แก้ไขปัญหาตรงนี้แล้ว และเราจะเร่งผลิตนิสสัน มาร์ซที่มีแบกออเดอร์อยู่ราว 9,000 คัน ให้เร็วขึ้นเพื่อส่งมอบให้ลูกค้า"

Sanook! @uto Comment

น่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับแนวคิดใหม่จากค่ายรถยนต์ Nissan ที่ต้องการปั้นรถไฟฟ้ามาเป็นอีกโปรดักส์ของประเทศตามนโยบาย Detoit of Asia ที่ต้องการให้ไทยเป็นศูนยกลางอุตสาหกรรมของการผลิตรถยนตืในภูมิภาค ที่ปัจจุบัน เรามีกระบะ 1 คัน และรถยนตืนั่งขนาดเล็กที่เรียกอีโค่คาร์ เป้นของดีของประเทศที่ได้รับการยอมรับในตลาดโลกแล้ว

อัลบั้มภาพ นิสสันปั้นโปรเจครถยนต์ไฟฟ้า ภาพที่ 3 / 4

นิสสันปั้นโปรเจครถยนต์ไฟฟ้า