Mitsubishi Lancer EX 2011....สมรรถนะมั่นใจได้..ลูกเล่นเพียบ
ออกมาเตรียมพร้อมกันได้สักระยะหนึ่งแล้วสำหรับ Mitsubishi Lancer EX ที่ต้อง รับศึกหนักจากตลาดคอมแพ็คคาร์ ที่เริ่มร้อนระอุขึ้นตามลำดับหลังหลายค่ายเริ่มส่งคู่แข่งลงสนาม ทำให้ค่ายรถยนต์ mitsubishi จำต้องยอมที่จะปรับเปลี่ยนรถคอมแพ็คคาร์ของค่ายให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ต้องยอมรับมากๆว่า mitsubishi Lancer EX ใหม่เวอร์ชั่น2011 นี้เป็นหนึ่งในรถที่หลายๆคนสนใจ และน่าจะพูดได้อย่างเต็มปากว่านี่เป็นรถรุ่นแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาที่ปรับลดลง ที่บ้างอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าพูดถึงออพชั่นภายในที่จัดหนักมาอย่างเต็มที่ก็ถือว่าน่าสนใจ
เมื่อเร็วๆนี้ทางบริษัท Mitsubishi ได้เชิญทีมงานไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ของ Lancer EX 2011 ที่กำหนดเส้นทางกรุงเทพ-ปราจีนบุรี-นครนายก ที่แม้นี่ถือเป็นช่วงเวลาสั้นๆกับน้องสปอร์ตเจ้าตำนาน แต่มันก็น่าสนใจในประสบการณ์ขับขี่ที่ให้ความรู้สึกที่ดี เช่นเดียวกับลูกเล่นของรถที่น่าสนใจ
Mitsubishi Lancer EX 2.0 GT
การเดินทางครั้งนี้เราเริ่มกันที่สำนักงานใหญ่ mitsubishi ที่ย่านรังสิต ที่ในครั้งแรกนี้เราเริ่มกันที่รุ่นท๊อปสุดของคอมแพ็คคาร์ DNA Rally ในรุ่น 2.0 GT ที่ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตั้งแต่ใบหน้าที่โหดสะใจด้วยการจับเอารูปลักษณ์สปอร์ต Mitsubishi Evolution มาใส่ไว้ทำให้มีความดุดัน เช่นเดียวกันกับสปอร์ยเลอร์หลัง สเกิร์ตข้าง ที่ก่อนขึ้นi5จะพบไฟเล็กๆที่ตา welcoming light ที่ให้ความน่าสนด้วยระบบกุญแจ KOS หรือ Keyless Operation system ช่วยให้ง่ายไม่ต้องไขกุญแจแค่ปลายนิ้วสัมผัสก็ปลดล็อคประตู
ช่วงแรกทีมงาน sanook! รับบทเป็นผู้โดยสาร ที่เมื่อเรานั่งลงในเบาะตอนหน้าก็รู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณสปอร์ตที่เปี่ยมล้นกับภายในสีดำและเบาะคู่หน้าที่นั่งนี้ก็เป็นสไตล์สปอร์ต จนน่าจะถูกใจใคร ซึ่งในระหว่างการทดสอบช่วงนี้เราพบว่าห้องโดยสาร Lancer EX ใหม่ สามารถเก็บเสียงได้และให้ความรู้สึกทางด้านความเร็วที่นิ่งไม่ยวบยาบ จนเมื่อเราพูดคุยกับพี่สื่อมวลชนร่วมทาง ก็พบว่าเรากำลังเดินทางที่ความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ความเงียบอาจทำให้นึกว่าขับแค่ 80-90 กิโลเมตรเท่านั้น
ไม่นานเราก็ได้มาเปลี่ยนไม้ที่แถวฉะเชิงเทราที่ทันทีที่ได้ขับเราก็พบว่า Lancer EX 2.0 GT เปี่ยมด้วยความสปอร์ตที่น่าจะครบครันแล้วสำหรับใครที่มองหาสปอร์ตซีดานที่รุ่นนี้มาพร้อมระบบ Paddle shift ให้การเปลี่ยนเกียร์ง่ายๆ
เราออกเดินทางกันอย่างต่อเนื่องใน Lancer EX 2.0 GT ที่เริ่มกันที่อัตราเร่งในโหมด Dynamic หรือ D ที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 154 แรงม้าสามารถให้อัตราเร่งที่เร้าใจ แม้รอบปลายๆจะหนืดนิดๆ แต่ในช่วงที่แรงบิดมาอย่างเต็มที่ช่วง 4250 รอบต่อนาทีก็เพียงพอแล้วสำหรับการเร่งแซง
ขับมาสักระยะ เราลองเล่นโหมดสปอร์ตและ Paddles Shift ดูที่งานนี้ให้อารมณ์การขับขี่ที่น่าสนใจ เกียร์ CVT ตอบสนองเร็วใช้ได้ ให้เดินหน้าได้ 6 สปีด ในขณะที่ช่วงล่างเกาะถนนเป็นเยี่ยมหนึบแต่ไม่กระด้าง ซึ่งส่วนหนึ่งคงมาจาก ยางYokahama advan 215/45/R18 ในล้อแม็ก 18 นิ้ว ให้หน้าสัมผัสที่ดี ส่วนการเปลี่ยนเลนเร็วๆ ไม่มีปัญหา ไม่เหวี่ยงจนโยนเช่นเดียวกับเข้าโค้งที่สาดได้เต็มๆ แม้นี่ไม่ใช่ Evolution แต่คุณก็จะรัก น้องเล็กพันธุ์สปอร์ตคันนี้ ถึงGT wing อาจจะสร้างความรำคาญที่กระจกหลังบ้างก็เถอะ แต่คุณจะลืมมันไปเมื่อขับขี่แบบสปอร์ต
Mitsubishi Lancer EX 1.8 Gls-Ltd
หลังจากสนุกในรุ่นใหญ่มาสักพัก เราก็มาถึงจุดพักและในครั้งนี้เราย้ายมาทำการที่รุ่น Mitsubishi Lancer EX 1.8 Gls-Ltd ที่รุ่นนี้มีราคา 879,000 บาท ที่น่าจะถูกใจหลายคน ก่อนขึ้นรถเราลองสำรวจความแตกต่างที่เราพบว่า ใบหน้านั้นจะดูเรียบร้อยยิ่งขึ้นผิดกับรุ่นพี่ และในปี 2011 นี้ มีสเกิร์ตข้างจากโรงงาน(เฉพาะรุ่นนี้) ใช้ขอบ 16 นิ้ว แต่ที่น่าสนใจคือยาง Yokohama Advan ขนาด 205/60/R16 ที่ติดตัวมาให้
การก้าวขึ้นรถยังคงง่ายด้วยระบบ KOS ที่เบาะสปอร์ตยังคงต้อนรับเหมือนเดิม แต่ในรถคันนี้ เราได้สัมผัสภายในสีเบจที่ให้อีกอารมณ์ในความรู้สึกของห้องโดยสารในแบบเรียบหรู แถมยังดูกว้างกว่าสีดำ
การเป็นผู้โดยสารของรถนับเป็นการทดสอบหนึ่งที่สำคัญ ที่เพียงนั่ง เราก็พบว่า ระบบเครื่องเสียงแบบจอDVD หายไป แต่เป็นเครื่องเสียง MP3 พร้อมเลือกเล่น CD 6 แผ่น ที่ยังมีความสบายจากระบบ แอร์อัตโนมัติเช่นเดียวกับที่สัมผัสในรุ่น 2.0 GT
ความแตกต่างที่ชัดเจนในรุ่นนี้คือช่วงล่างที่ยังทำได้ดีเหมือนเดิม แต่อาจให้ความรู้สึกนุ่มกว่าและเงียบกว่าซึ่งน่าจะเป็นผลของยางที่ให้การแสดงออกอย่างชัดเจน ในขณะที่เราผ่านตามถนน 2 เลน แถวปราจีนนั้น การเร่งแซงอาจไม่หวือหวามาก แต่การบังคับเลี้ยวดูคล่องตัวกว่าชัดเจน
ไม่นานนัก เราก็สับเปลี่ยนมาทำหน้าที่พลขับเดินทางกลับสู่กทม. ที่เราเริ่มต้นกันที่อัตราเร่งลากโหดๆในเครื่อง 1.8 ลิตร ที่ตอบสนองด้วย 139 แรงม้าแถมยังบอกว่าใช้ E85 ได้อีกด้วย ทันทีที่เหยียบ ขุมพลังก็ให้อัตราเร่งที่น่าประทับใจแม้จะไม่เท่ารุ่นพี่ แต่การตอบสนองได้ดีในช่วงรอบกลาง ตั้งแต่ 3000-4200 รอบ ก็เพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป
การตอบสนองของเกียร์ CVT ที่เป็นตัวเดียวกับ 2.0 GT สามารถทำได้ดีแม้จะเซ็งที่ไร้ Paddle shift แต่ฟีลลิงจากการมาโยกคันเกียร์ เดินหน้าลดอัตราทด -ถอยพลังเพิ่มอัตราทดแบบรถแข่งจริงๆ (เกียร์ซีเคนเชียล) ก็ให้ความอารมณ์ไปอีกแบบ
ในย่านความเร็วสูงห้องโดยสารยังเก็บเสียงได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่ ในขณะที่ช่วงล่างลองจัดหนักๆ ในความเร็วสูงๆ ก็ยังสามารถมั่นใจไม่ลอยหรือออกอาการบิน แม้จะดูเหมือนนุ่มนิ่มกว่าแต่ยังทำได้ประทับใจ ซึ่งความนุ่มสบายขึ้นน่าจะมาจากแก้มยางที่สูงขึ้นกว่ารุ่น GT
ด้านลูกเล่นหลากหลายนั้น ก็จัดมาให้ที่สามารถควบคุมได้ปลายนิ้วสัมผัสที่พวงมาลัย ที่เราลองใช้ระบบต่างๆ โดยเฉพาะ Cruise Control ในช่วงทางยาวกลับบ้าน ก็ถือว่าสามารถทำงานได้ง่ายไม่ยากจนเกินเข้าใจ และอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอดี และเมื่อใช้งานยังเซทค่าทำให้อัตราประหยัดเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะทำได้ดี ถ้ามีโอกาสได้ทดลองยาวๆกว่านี้
ตลอดเส้นทางการขับขี่ Mitsubishi Lancer EX ใหม่ เวอร์ชั่น 2011 ทำให้ได้พบความประทับใจหลายๆอย่างในคอมแพ็คคาร์สายพันธุ์แรลลี่ ที่มาพร้อมฟังชั่นต่างที่น่าสนใจ ที่เราอยากจะแนะนำว่าถ้าคุณมองรถใหม่ก็ไม่ควรมองข้ามรถรุ่นนี้ที่คุ้มค่าในราคา แต่มาครบทุกความต้องการ โดยเฉพาะคอสปอร์ตต้องลองให้ได้!!
Sanook! Auto Comment
ในช่วงเวลา 1 วัน กับระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร นั้น เราต้องยอมรับอย่างตามตรงต่อผู้อ่านว่ายังไม่สามารถบอกอะไรได้มากมาย แต่ก็ต้องยอมว่า Mitsubishi Lancer EX ใหม่นี้มีหลานสิ่งที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะช่วงล่างของรถที่สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่น 2.0 GT ในราคา 1.051 ล้านนี้ ถือเป็นรถที่ลงตัวดีพอสมควรเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีถ้าคุณชอบความสบายและประหยัด 1.8 Gls Ltd ก็น่าสนใจ แถมเติม E85 ได้ แต่เรียนตามตรงว่าอยากทดสอบตอนใช้ E85 ว่าจะมีการขับขี่เป็นเช่นไร ..
อัลบั้มภาพ 35 ภาพ