เชฟวี่ข้องใจโครงสร้างภาษีรถ

มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงมิติคณะรัฐมนตรีที่ได้รับหลักการโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพื่อส่งเสริมนโยบายประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสนับสนุนพลังงานทดแทนนั้น เชฟโรเลตไม่เห็นด้วย เพราะไม่สร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันธุรกิจยานยนต์โดยรวม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าภาครัฐเชิญค่ายรถต่างๆ ร่วมหารือและเสนอแผนงาน แต่ปรากฎว่า ไม่มีเห็นสิ่งใด หลังจากที่ ครม.อุมัติรับหลักการโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์

"ค่อนข้างเซอร์ไพร์สว่า เทคโนโลยีบางตัวได้รับผลประโยชน์มากกว่า ในเมื่อภาครัฐกำหนดมาตรฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รถยนต์ ก็ควรจะเป็นเทคโนโลยีโดยรวม เราจึงอยากให้ภาครัฐพิจารณาอย่างเป็นธรรม และให้เกิดความเสมอภาคในการแข่งขันทางธุรกิจ ก่อนที่จะออกกฎหมายมาบังคับใช้ ถ้าภาครัฐอยากจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นจริง น่าจะหาอุปกรณ์หรือวิธีการที่จะลดมลพิษบนท้องถนน หากจะช่วยประชาชนและประเทศชาติในการลดมลภาวะ ก็น่าจะเริ่มต้นจากรถบรรทุก บัสก่อนเลย ซึ่งเป็นพาหนะที่มีอยู่ 10% ของปริมาณรถยนต์บนถนน รถเหล่านี้ก่อมลพิษมหาศาล"

ขณะเดียวกันปริมาณรถยนต์บนท้องถนนที่มีกว่า 22 ล้านคัน ส่วนใหญ่เป็นรถที่มีอายุกว่า 4 ปี แต่โครงสร้างภาษีรัฐสนับสนุนรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานคือ รถยิ่งเก่ายิ่งจ่ายภาษีถูก ทั้งๆ ที่รถเหล่านี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนออกซ์มาก หากรัฐจะแก้ปัญหามลพิษให้ลดน้อยลง ก็ควรผลักดันโครงการทิ้งรถเก่ามาแลกรถใหม่ โดยรัฐช่วยอุดหนุน ซึ่งหลายประเทศประสบความความสำเร็จมหาศาลทั้งในเชิงเศรษฐกิจและมลภาวะ

มร.มาร์ติน แอพเฟล กล่าวเสริมพร้อมแนะนำภาครัฐนำไปพิจารณาคือ 1.โครงสร้างภาษีต้องไม่มีความซับซ้อน โดยให้ดูผลลัทพ์ที่ออกมาจริง เช่น เมื่อกำหนดมาตรฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกไซด์ต่ำที่สุดแล้ว ก็ให้รถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อทำให้ได้ตามนั้นจริง ไม่ใช่ระบุให้ประโยชน์เฉพาะเทคโนโลยีไฮบริดอย่างเดียว 2.ให้ดูแลรถยนต์ขนาดใหญ่ เพราะรถเหล่านี้ปล่อยก๊าซคาร์ออกไซด์มากที่สุด 3.ไม่ควรให้ผลประโยชน์ต่อการเสียภาษีของรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งานนาน และ 4.หามาตรการช่วยประชาชนให้มีความสามารถในการซื้อรถใหม่ได้

 

ที่มาจาก ecareasy.com

Sanook! Auto Comment

 

ความจริงแนวคิดของคุณมาร์ตินก็น่าสนใจ โดยเฉพาะ 4 ข้อที่กล่าวมา ซึ่งการปรับภาษีรถยนต์ใหม่ที่จะมีการประกาศใช้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แม้จะมีเจตนารมย์ที่ดีแต่อาจจะยังไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุด ซึ่งการลดมลภาวะและอำนวยการประหยัดน้ำมันนั้นต้องมีการเปลี่ยนถ่ายรถเก่ามารถใหม่อย่างต่อเนื่อ งซึ่งในญี่ปุ่นรัฐมีงบอุดหนุนประชาชนให้อยากเป็นเจ้าของรถประหยัดมากขึ้น รวมถึงทำค่าตัวรถกลุ่มพลังงานเขียวให้สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น